Dhammada.net คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา
ห้องรับแขก => คุยกันในสวน => Topic started by: jirayudech on Thu 14 Oct 10, 03:56:44
-
ในคำแถลงการณ์เรื่องบัญชีส่วนตัวหลวงพ่อมีข้อความสำคัญอันนึงว่า
"พร้อมยืนยันว่าไม่ได้คิดที่จะปกปิดบัญชี เพราะถือเป็นเงินส่วนตัว ที่ยังอยู่ครบ และที่ผ่านมาพระปราโมทย์ได้เคยมอบบัญชีส่วนตัวให้กับทนายไว้ก่อนแล้ว พร้อมกับได้เปรยไว้ว่าหากเงินบริจาคส่วนตัวได้ครบ 100 ล้านบาท จะนำมาสร้างพระเจดีย์ ที่สวนสันติธรรม"
นี่คือโชคดีของพวกเรา นี่คือโอกาสในวิกฤติ และอาจเป็นวิธีแก้ไขวิกฤติ ด้วยการเติมบุญของพวกเราและหลวงพ่อ ด้วยการสร้างเจดีย์ ฝากไว้เป็นหลักฐานสำคัญในพระพุทธศาสนา ถ้าพวกเรารวมใจ รวมศรัทธาอันยิ่งใหญ่ เจดีย์ที่พ่อฝันไว้จะเป็นจริงในเวลาไม่นาน ชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เราอาจจากโลกนี้ไปก่อนที่จะได้เห็นพระเจดีย์สำคัญที่จะเป็นหลักฐานว่า ครั้งหนึ่งเคยมีกลุ่มนักปฏิบัติธรรมกลุ่ม แต่ยิ่งใหญ่ด้วยศรัทธา วิริยะ เจริญสติ ตามแนวทางแห่งมหาสติปัฏฐาน4 อย่างแท้จริง เพื่อต่ออายุพระพุทธศาสนาในวันที่คำสอนของพระพุทธองค์ทรงลางเลือน สำหรับหลวงพี่พวกเราคือผู้ต่ออายุพระศาสนาอย่างแท้จริง :)
ขออนุโมทนาบุญกับท่านที่มีโอกาสได้ทำบุญร่วมกับหลวงพ่อไปก่อนหน้านี้แล้ว และที่จะร่วมกันทำฝันของพ่อให้เป็นจริงในเร็ววัน สาธุ สาธุ สาธุ
พระยิ้ม :)
-
_/|\_ _/|\_ _/|\_ นมัสการครับ ; อนุโมทนา ในจิตอันเป็นกุศลครับ
ส่วนประเด็นเรื่องเจดีย์ หรืออื่นๆจากข่าวอย่างไร ขอกราบเรียน งดเว้นการเสวนา
ขอปิดกระทู้นะครับ
-
เห็นคุณหลี่จิ้งปิดกระทู้ไปแล้ว ด้วยความเคารพที่ได้เชิญคุณหลี่จิ้งเข้ามาช่วยเป็น Moderator ก็คิดว่าจะไม่ตอบ แต่เห็นว่า หากตอบแล้วอาจทำให้ได้เห็นอะไรที่ชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่นะครับ
แม้ว่าผมจะไม่ได้สนิทชิดใกล้หลวงพ่อมากนัก เรียกว่ามีระยะห่างค่อนข้างมากก็ตาม แต่ด้วยความที่รู้จักหลวงพ่อท่านมานานตั้งแต่ก่อนบวช ได้รู้ได้เห็นวิธีคิดบางประการของหลวงพ่อนะครับ ผมจึงขอลองอธิบายเรื่องนี้จากมุมมองของผมนะครับ
เหตุที่หลวงพ่อท่านคิดจะสร้างเจดีย์ แต่กลับไม่ยอมบอกพวกเราเลย หากแต่ใช้วิธีค่อยๆเก็บสะสมเงินบริจาคที่มีคนถายตรงกับท่านแทน และรวมทั้งเงินส่วนตนทั้งที่เป็นเงินสะสมของท่านเอง เงินมรดก เงินสะสมของท่านแม่ชี และเงินมรดกของท่านแม่ชี
เหตุผลง่ายๆข้อแรกก็คือ การที่ท่านตั้งตู้บริจาคเอาไว้ แล้วค่อยสะสมเงินบริจาคเพื่อการสร้างเจดีย์ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีกำลังทรัพย์ต่ำ สามารถได้ร่วมบริจาค (ที่จะมียอดสะสมรวมเป็นจำนวนมาก) คือ คนที่ไปวัดบ่อยๆ บริจาคทีละร้อย สองร้อย หลายสิบครั้งเข้า ยอดสะสมของตนเองก็จะนับพันนับหมื่น ทำให้คนที่มีเงินน้อยๆได้มีโอกาสมาก และทำบุญได้มาก
อีกทั้งก็มีคนบริจาคให้ท่านอยู่แล้ว แต่ท่านไม่ได้ใช้อะไร (จากข่าว ท่านไม่ได้เบิกออกไปใช้เลย) แล้วเงินที่สะสมมาเป็นจำนวนมากจะไปไหน ก็นำไปสร้างถาวรวัตถุให้ทุกคนได้อนุโมทนาและชื่นใจ ว่าได้ร่วมกันสร้างจากศรัทธาของตนที่ค่อยๆทำกันไปเรื่อยๆ
แต่หากท่านใช้อีกวิธีหนึ่ง คือ ท่านใช้วิธีประกาศออกไป เชื่อว่าท่านสามารถระดมทุนได้ แต่ประเด็นก็คือ คนที่มีเงินมากๆ ทุนหนาๆก็จะได้เปรียบ ส่วนคนที่มีเงินน้อยๆ หรือเบี้ยน้อยหอยน้อยก็จะเสียเปรียบ อาจกัดฟันทำได้สักพัน สองพัน เท่านั้นเอง ยิ่งคนที่มีฐานะการเงินน้อยๆ อาจทำได้แค่ร้อย สองร้อย เท่านั้้น
และอีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งเป็นนิสัยของท่านแท้ๆอีกประการหนึ่งก็คือ ท่านไม่ชอบให้มีการเรี่ยไร ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของท่าน ที่ต้องการให้เน้นการภาวนามากกว่า (ซึ่งแม้แต่การสร้างสวนสันติธรรมนั้น ท่านยอมรับให้มีการสร้างก็เพราะมีการรับปากกันแล้วว่า จะไม่มีการเรี่ยไร) แล้วหากว่าเกิดมีการบอกบุญออกไป ทำให้คนที่เบี้ยน้อยหอยน้อยมีเงินสมทบน้อยอาจมีความกังวลที่มีความสามารถร่วมการทำบุญได้น้อย จนส่งผลให้การภาวนาหรือกำลังใจตกไปได้
ก็ขอประเมินจากศิษย์ที่อยู่ห่างไกลท่าน แต่รู้จักมานาน ก็พอจะรับรู้ในวิธีการคิดและการตัดสินใจของท่านมาบ้างครับ
-
_/|\_ ขอบคุณคุณลุงถนอมครับ ชัดเจน แจ่มแจ้งเลยครับ ^_^
-
_/I\_ _/I\_ _/I\_ ;)