Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - Angie

Pages: [1]
1
ขอบพระคุณลุงถนอมมากนะคะ ที่กรุณาแนะนำและชี้แจงสิ่งที่ต้องเติมให้แองจี้ทราบ

เมื่อโอกาสมาถึง แองจี้จะไปกราบหลวงพ่อ และจะพากเพียรในการปฏิบัติต่อไปค่ะ

ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ   _/|\_  ขอลุงถนอมเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยค่ะ  ขออนุโมทนาค่ะ  _/|\_

2
ขอบพระคุณมากค่ะ  วันนี้ขออนุญาติรายงานผลนะคะ

ก่อนหน้านี้จิตฟุ้งซ่านอย่างหนักค่ะ ถูกโลกธรรม 8 เล่นงาน จิตคลุกกับอารมณ์โทสะ โมหะ  >:( ครบเลยค่ะ ระหว่างนี้แองจี้สังเกตุเห็นจิตแปรปรวนตลอดเวลา (จนเครียดเลยค่ะ) ประมาณว่าวินาทีคิดแบบนี้ อีกนาทีต่อมาเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว เห็นซ้ำแล้วซ้ำอีก จนจิตสะบักสะบอมเลยค่ะ จนมีความคิดในจิตขึ้นว่า "จิตนี้เชื่อถือไม่ได้ มีความไหลไปไหลมาไม่แน่นอน ปรวนแปรตลอด" หลังจากนั้นเมื่อวานได้เข้าไปดูหลวงพ่อแสดงธรรมที่วัดยานนาวา (ไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่) ที่ยูทูบ ตอนที่ดูนั้น เปรียบเสมือนได้ไปนั่งฟังต่อหน้าหลวงพ่อค่ะ เห็นจิตนี้เกิดความกลัว และประหม่าตื่นเต้นมาก และหลังจากนั้นจิตค่อยหลุดออกจากโลกของความคิดมามีสติมากขึ้น พอวันนี้ขณะที่นั่งสมาธิ มีความรู้สึกเหมือนจิตถูกดูดเข้าไปที่หนึ่ง แต่ไม่ตามค่ะ (ตอนที่ไม่ตามนี้ ไม่ทราบว่าจิตนี้ถูกสอนให้ไม่ตาม หรือว่าความคิดนั้นดับไปแล้วค่ะ)ดูอยู่เฉยๆ จิตถอยออกมา แต่ในขณะถอยรู้สึกถึงการยื้อเลยค่ะ หลังจากนั้นจิตตามรู้ตามดูสักพัก เหมือนกับมีแองจี้อีกคนนั่งดูตัวที่หายใจเข้า หายใจออกไป หลังจากนี้พอมีอะไรไหลผ่านเข้ามาในจิต จิตระลึกรู้เกิดความรู้สึกคล่องแคล่อง ว่องไว ตื่นตลอด  หลังจากนั้นก็ออกจากสมาธิ ไปทำหน้าที่ปกติ แต่ยังติดความรู้สึกสบาย โล่งออกมาด้วย (รู้สึกเหมือนมีความสุข) หลังจากนั้นจิตคอยระลึกรู้กายบ้าง จิตบ้าง ค่ะ  ตอนนี้ติดใจสภาวะสุข สบายค่ะ ไม่ทราบแองจี้มีอะไรต้องแก้ไขหรือไม่คะ ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ _/|\_

3
 :) ขอบพระคุณมากค่ะ ขอลุงถนอมช่วยกรุณาอธิบาย อาการขณะที่จิตเป็นกลางด้วยค่ะ เพราะในบางขณะจิตดูเหมือนเป็นผู้รู้ ผู้ดู และเบิกบานอยู่ภายใน และเมื่อมีความสงบขณะนั่งสมาธิ จะเห็นความสว่างนวลๆ ปรากฏขึ้นที่หน้า และบางครั้งเหมือนจิตจดจ่ออยู่ที่หน้าด้วยค่ะ อย่างหนึ่งที่สังเกตเห็นคือพบว่าจิตทำงานของเขาเอง บางครั้งก็ดูเหมือนเป็นผู้รู้ ผู้ดู แต่บางครั้งโดยเฉพาะถ้ามีอารมณ์กระทบที่ใจแรงๆ จะพบว่าจิตนี้ลงไปคลุกอารมณ์ และเมื่อรู้สึกตัวก็จะถอยออกมา และกลับเข้าไปใหม่ด้วยความเคยชิน แต่ตอนนี้บางครั้งแองจี้พบว่า สิ่งที่จิตคิดหรืออารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากขันธ์ และดูเหมือนขันธ์นี้ไม่มีตัวไม่มีตนนะค่ะ คือเหมือนกับว่าจิตทำงานต่อเนื่องจากสิ่งที่มากระทบค่ะ และอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้มาไม่มีจิตเข้าไปรับรู้ความรู้สึกค่ะ นี่เป็นอาการขณะที่จิตเป็นกลางหรือเปล่าคะ
แองจี้ มีความปรารถนาได้ไปกราบหลวงพ่อค่ะ เคยได้มีโอกาสกลับไปเมืองไทย แต่ก็ไม่กล้าไปพบค่ะ เพราะคิดว่าตัวเองนี้เป็นผู้ทำบาปทำกรรมมากมาย และขณะนี้ละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำนั้นๆ เหมือนกับกรรมนั้นๆ ประทับอยู่ที่ใจตลอด พอนึกไปถึงก็ละอายใจค่ะ (ขอสารภาพ) ขออนุญาติส่งการบ้านและขอคำแนะนำจากลุงถนอมไปก่อนนะคะ  :'( _/|\_
ขอบพระคุณมากค่ะ  _/|\_

4
ธรรมะ  _/|\_ ค่ะ,  ตอนนี้มาขอคำแนะนำอีกครั้งค่ะ
ไม่รู้ว่าติดอะไรหรือเปล่านะค่ะ ในแต่ละวันพยายามนั่งสมาธิ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่โอกาส แต่พยายามทำทุกวันค่ะ และหลังจากนั้น จิตคอยวกกลับมารู้บ้าง และไม่รู้บ้าง แต่ตอนนี้สิ่งนึงที่พบคือ ความแปรปรวนของจิตค่ะ เห็นสภาวะตรงนี้ชัดมากขึ้น เห็นความไม่คงที่ พึ่งพาอาศัยไม่ได้ เชื่อถือไม่ได้ ไม่มีอะไรแน่นอน พอมาเห็นตรงนี้มากขึ้น ดูเหมือนว่าจิตค่อยๆ ถอดถอนตัวเองค่ะ พบว่าตัวเองโลเล นิสัยร้าย มานะอัตตาเพียบไปหมด ในขณะเดียวกันก็พบว่าสภาวะต่างๆ นี้เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ และรู้สึกว่าจิตพยายามมีสติ (สร้างสติค่ะ) เห็นความอยากในใจ ตอนนี้เลยดูเหมือนว่าไม่ได้ทำอะไร แม้กระทั่งนั่งสมาธิ พอมีความเจ็บปวดเกิดขึ้น พบว่าจิตไม่สนใจความเจ็บปวดนั้นๆ  เหมือนกันว่าจิตทิ้งอารมณ์ไปเฉยๆ นะคะ ไม่ทราบว่าติดตรงไหนหรือเปล่าคะ ขอลุงถนอมช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ  ??? _/|\_

5
ชัดเจนที่สุดแล้วค่ะ  ขอบพระคุณมากที่ชี้สภาวะจริงที่เกิดให้แองจี้ได้ทราบนะคะ ชีวิตนี้จะขอตั้งใจปฏิบัติเพื่อบูชาคุณพระรัตนตรัย คุณบิดามารดา และคุณครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่เอื้อเฟื้อในธรรมค่ะ  _/|\_ ขอบพระคุณลุงถนอมอีกครั้งที่เสียสละเวลาช่วยแนะนำนะคะ  _/|\_ 
ขอลุงถนอมเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ

6
ขอบพระคุณค่ะ ตามที่ลุงถนอมเมตตาอธิบาย จับหลักก็คือ "ไม่ว่าจิตจะทำอะไร หน้าที่ก็คือตามรู้ตามดูโดยที่ไม่เข้าไปแทรกแซงสภาวะใดๆ ที่เกิดขึ้น"  ไม่ทราบว่าถูกต้องหรือไม่คะ เพราะตอนนี้บางครั้งแองจี้จะรู้สึกได้ถึงความกระวนกระวาย สภาวะหงุดหงิด ไม่ได้ดั่งใจของตัวเองบ่อยๆ และเมื่อจิตเห็นจิตตรงสภาวะที่เกิดขึ้นตรงจุดนี้ แองจี้เห็นตัวเองพยายาม (มาก) ที่จะเข้าแทรกแซงให้สภาวะนั้นๆ ดับลงด้วยความไม่ชอบ และอยากให้จิตนี้สงบ แต่ในขณะเดียวกันบางครั้งก็เกิดสติที่ทำหน้าที่รู้อยู่เฉยๆ ก็จะเห็นสภาวะเหล่านั้นดับไปเอง เพราะเหมือนกับจิตนี้ตอกย้ำว่า สิ่งใดเกิด สิ่งนัี้นดับเป็นธรรมดา มีอยู่ครั้งหนึ่งค่ะ ขณะนั้นแองจี้เดินจงกรม และอยู่ดีๆ จิตก็พูดว่า "สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นดับไปเป็นธรรมดา" จำได้ว่าสภาวะนั้นรุนแรงมาก จนเหมือนกับกายนี้สะเทือนไปหมด เปรียบเหมือนระฆังที่สะท้อนกลับไปกลับมาเลยค่ะ จนต้องหยุดเดินและค่อยเริ่มเดินใหม่นะค่ะ ตอนนี้เมื่อใดที่สติเกิด แองจี้เห็นกายและจิตนี้อยู่กันคนละส่วน เหมือนกับกายนี้เป็นเปลือกให้จิตนี้เข้ามาอาศัยอยู่ พอมาถึงตรงนี้จิตก็เลยเห็นความไม่เที่ยงทั้งหลายของจิต และเห็นจิตทำงานของเขาเอง เหมือนกับมีอีกคนยืนดูสภาวะทั้งหลายที่ผ่านไปผ่านมาค่ะ แต่ต้องขอสารภาพซื่อๆ ว่า แองจี้นี้พยายามมาก ที่จะดับสภาวะที่จิตไม่ชอบทั้งหลาย เพราะเห็นตัวตนขึ้นมาชัดเจนมากเลยค่ะ จนบางครั้งจิตนี้ถึงกับพูดออกมาว่า "นี่คือความคิดเราหรือนี่" เห็นแต่ความจริงของจิตที่โผล่ความไม่ดีทั้งหลายออกมานะค่ะ ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ ตอนนี้เหมือนกับว่าได้แต่รอให้จิตนี้ยอมรับความจริงที่ว่า สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นดับไปเป็นธรรมดา ค่ะ  ไม่ทราบว่าแองจี้เข้าถูกทางแล้วหรือไม่คะ แล้วควรจะมาทำความรู้ตัวอยู่ที่กายด้วยถูกต้องหรือไม่คะ เพราะบางครั้งเหมือนกับว่าสติมาจับอยู่ที่กายด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณลุงถนอมอีกครั้งนะคะที่เมตตาแนะนำ  _/|\_ :)

7
คือความรู้สึกหนักในขณะนั้น จิตทนอยู่ไม่ได้ รู้สึกถูกบีบคั้น คล้ายๆ กับว่ากายนี้ทนอยู่ไม่ได้ ทีนี้ความรู้สึกที่ทนอยู่ไม่ได้ ทำให้ต้องขยับตัว (ขณะนั้นอยู่ในระหว่างนั่งสมาธิค่ะ) ลืมตาแล้วก็ยังรู้สึกหนักและถูกภาวะนั้นๆ บีบคั้นมากนะค่ะ และความกระวนกระวายที่เกิดขึ้นตรงนั้น ทำให้จิตไม่สามารถย้อนกลับมาดูที่ตัวจิตได้เลยค่ะ เลยไม่แน่ใจว่าทำอะไรผิดหรือเปล่า และสติที่เคยระลึกรู้ก็น้อยลงค่ะ รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างคั่นอยู่ บางครั้งรู้สึกเหมือนกับว่าจิตนี้พยายามทำความรู้สึกตัวโดยการย้อนกลับไปที่ตัวจิต ขอลุงถนอมช่วยแนะนำด้วยนะคะ เพราะดูเหมือนกับว่ามาถึงตรงนี้แล้วมันตัน และในทางปฏิบัติต้องนั่งสมาธิเหมือนเดิมหรือไม่คะ ตามปกติเวลานั่งสมาธิจิตนี้ไม่ค่อยสงบนานๆ จะสงบซักทีนึง ส่วนใหญ่จิตจะคอยตามรู้ ตามดูตลอดนะค่ะ (เหมือนกับว่าลืมตารู้ หลับตารู้ อาการเดียวกันค่ะ) ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ  :-\  _/|\_

8
คือหมายถึงว่า ให้จิตไปรู้จิตใช่ไหมคะ คือจิตจะคอยมาระลึกรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวจิต ทีนี้ไม่ทราบว่าเดินมาถูกทางหรือไม่คะ เพราะเมื่อนั่งสมาธิไปสักระยะ จะรู้สึกถึงความหนักที่มีอยู่ในกายนี้ตลอดเลยค่ะ บางครั้งแม้ออกจากสมาธิแล้วก็ยังเป็นอยู่ จำได้ว่าหลวงพ่อสอนว่าถ้ามีอาการหนักแน่น แสดงว่าต้องมีอะไรผิดแล้ว ขอบพระคุณค่ะ  _/|\_

9
ขอบพระคุณค่ะ  _/|\_

10
ก่อนอื่น ขอกราบระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ และขอกราบเท้าหลวงพ่อปราโมทย์ โดยความเคารพอย่างสูงสุดค่ะ
แองจี้ โชคดีมากที่ได้มีโอกาสได้ฟังธรรมของหลวงพ่อ และได้นำธรรมนั้นมาปฏิบัติ (ไม่สนใจในปริยัติเลย ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่ถ้าได้อ่านเจอเรื่องการปฏิบัติ จิตนี้มีความสนใจมาก) ขณะนี้ ปฏิบัติมาถึงตรงที่จิตนี้คอยไประลึกรู้การทำงานของจิต และเมื่อระลึกรู้แล้ว จิตกลับมาระลึกรู้กายแบบสบายๆ ค่ะ (แต่ไม่ได้รู้ตลอดนะคะ รู้บ้างเผลอบ้าง) และในระหว่างนี้ จิตนี้รู้แต่ทุกข์ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ทุกข์ทั้งสิ้น จนกระทั่งจิตรู้ถึงขนาดที่ว่า "ความทุกข์นี้ไม่มีที่ที่เท้าจะหยั่งลงถึงได้" ทุกข์จนไม่สามารถบรรยายได้เลยค่ะ หลังจากนั้นจิตเขาไม่สนใจสิ่งรอบตัวที่เกิดขึ้น รู้แต่ว่าอะไรจะเกิดก็ช่าง ไม่ทบทวน (ทบทวนบ้างบางครั้ง) แต่ส่วนใหญ่รู้แล้วก็ผ่านเลยค่ะ (คือเหมือนกับว่า ทุกข์ก็ช่างมัน สุขก็ช่างมัน)  มาถึงตรงนี้ จิตคอยแต่มารู้ที่ปัจจุบัน ทีนี้จิตเขาสรุปว่า "ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีแต่ปัจจุบันธรรมเท่านั้น ที่เป็นธรรมสูงสุด" ทีนี้เมื่อนั่งสมาธิแล้ว จิตระลึกรู้ว่ากายนี้เป็นของหนัก ทุกอย่างหนักไปหมด แต่ตัวจิตเองนั้นกลับไม่เข้าไปยึดสิ่งที่หนักนั้น คือเหมือนกับว่าได้แต่ยืนดูความรู้สึกหนักนั้นอยู่เฉยๆ นะค่ะ พอมาถึงตรงจุดนี้แล้ว ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงต่อคะ และสิ่งที่จิตไปรู้เข้านั้น คืออะไรคะ
ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ
แองจี้ _/|\_

Pages: [1]