Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

เรื่องของการตื่น

mp3 for download : ตื่น

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

นักภาวนามักถาม ลพ.ว่าตนเอง”ตื่น” หรือยัง แท้จริงแล้วตื่นมี ๒ ประเภท

ลพ : คือใจที่มันตื่นแล้วมันจะมี ๒ แบบ (๑)รู้เนื้อรู้ตัวขึ้นมาเฉยๆ ไม่เดินปัญญา อันนี้ใช้ไม่ได้   (๒)รู้ตัวขึ้นมาแล้วเดินปัญญา มันจะเริ่ม มันจะดูกายดูใจอะไรอย่างนี้ ไม่ละเลย คอยรู้ทุกข์ไปเรื่อย ถ้ารู้ตัวแล้วเฉยๆอยู่ ใช้ไม่ได้ ขี้เกียจขี้คร้าน

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

อนัตตา

mp3: อนัตตา

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรื่องของไตรลักษณ์

mp3 for download : เรื่องของไตรลักษณ์

media Player :

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช สวนสันติธรรม

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช สวนสันติธรรม

หลวงพ่อปราโมทย์ : เพราะฉะนั้นเวลาที่สติที่แท้จริง (คือ สติปัฏฐาน – ผู้ถอด)เกิดนะ เดี๋ยวก็รู้กาย เดี๋ยวก็รู้เวทนา เดี๋ยวก็รู้จิต แต่ทุกสิ่งแสดงธรรมะเรื่องเดียวกันนะ คล้ายๆมีครูหลายคนนะ ครูเวียนเข้ามาสอนเราตลอดเวลาเลย เดี๋ยวครูยิ้มหวานมา เดี๋ยวครูหน้ายักษ์มา เดี๋ยวครูใจดี เดี๋ยวครูใจร้าย หมุนเวียนเข้ามาสอนเราทั้งวันเลย สอนเรื่องเดียวกันคือสอนเรื่องไตรลักษณ์ทั้งหมดเลย สอนถึงความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

เนี่ย โลภ โกรธ หลง ก็สอนไตรลักษณ์ มีโลภแล้วมันก็ไม่มี มีโกรธแล้วมันก็ไม่มี มีหลงแล้วมันก็ไม่มี กุศลทั้งหลายก็สอนไตรลักษณ์ใช่มั้ย จิตมีสติขึ้นมาแล้วก็ขาดสติอะไรอย่างนี้ มีปัญญาขึ้นมา บางทีก็ไม่มีปัญญา เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางทีก็มีฉันทะ บางทีก็ขี้เกียจ บางทีก็มีศรัทธา บางทีก็เสื่อมศรัทธา เนี่ยมันหมุนเวียนอยู่ คอยรู้มันไปเรื่อย รู้มันไป ทุกสิ่งทุกอย่างสอนไตรลักษณ์ทั้งสิ้น สอนให้เห็นเลย มีแล้วก็ไม่มี มีแล้วก็ไม่มี

การที่เห็นทุกสิ่งทุกอย่างนะ สอนไตรลักษณ์ไปเรื่อย มีแล้วก็ไม่มี มีแล้วก็ไม่มีเนี่ย ถึงจุดหนึ่งจะได้พระโสดาบัน พระโสดาบันคือท่านผู้เห็นความจริง ผู้ยอมรับความจริงว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาดับทั้งสิ้นเลย สิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นดับไปเป็นธรรมดา

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรื่องของพรหมลูกฟัก

mp3: พรหมลูกฟัก

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรื่องของสติ

mp3: เรื่องของสติ

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

สัมมาสมาธิ

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

mp3: สัมมาสมาธิ

หลวงพ่อปราโมทย์ : สัมมาสมาธิคือความตั้งมั่นของจิต สัมมาสมาธิไม่ใช่แปลว่าจิตเข้าไปเกาะอารมณ์อันเดียว การที่จิตไปรู้อารมณ์อันเดียวนะ เรียกว่า “เอกัคคตา” เนี่ย เอกัคคตาเป็นเจตสิก คือเป็นธรรมะ (หมายถึงสภาวธรรม – ผู้ถอด) ที่เกิดร่วมกับจิตทุกๆดวง จิตอกุศลก็มีเกัคคตานะ คือจิตมันจดจ่ออยู่ในอารมณ์อันเดียว จิตมันรวมองค์ธรรมฝ่ายอกุศลให้มาทำงานร่วมกัน เรียกว่าเอกัคคตา เพราะสมาธิเนี่ยจะเกิดกับจิตทุกๆดวง เอกัคคตาคือตัวสมาธิ ไม่ใช่สัมมาสมาธิ

สัมมาสมาธิเป็นความตั้งมั่นของจิตในการรู้อารมณ์ ส่วนมิจฉาสมาธิที่เกิดร่วมกับจิตเกือบทั้งหมดนะ จิตเนี่ยไหลเข้าไปเกาะนิ่งๆอยู่กับตัวอารมณ์ ไปจับตัวอารมณ์ แน่นๆอยู่ที่ตัวอารมณ์

ยกตัวอย่างเวลาเราเดินจงกรม จิตมันไปเกาะอยู่ที่เท้า เท้าขยับเท้ายกเท้าย่างอะไรอย่างนี้รู้หมดเลย จิตมันเกาะอยู่ที่เท้า อันนั้นไม่เรียกว่ามีสัมมาสมาธิ แต่มันเป็นมิจฉาสมาธิ จิตมันไหลไปเกาะอยู่ที่เท้า จิตไปแช่อยู่ที่ตัวอารมณ์ การที่จิตไปแช่อยู่ที่ตัวอารมณ์นะ ภาษาแขกมีชื่อว่า “อารัมณูปนิชฌาน” การเพ่งตัวอารมณ์

การเพ่งตัวอารมณ์ เป็นการทำ ไสมถกรรมฐาน” เพราะฉะนั้นบางคนเพ่งเท้าไปเรื่อยนะ แล้วตัวลอยตัวเบาตัวโคลงตัวใหญ่ตัวหนัก มีสารพัดตัวนะ บางทีก็มีตัวอะไรมาไต่ อะไรอย่างนี้ รู้สึกวูบๆวาบๆ รู้สึกขนลุกขนพอง นี้เป็นอาการของสมถะ อาการของปีติทั้งสิ้นเลย ทำไมเกิดปีติ ทำไปปีติเกิดขึ้นมาได้ เพราะว่าไปเพ่งเท้าไว้ เพ่งตัวอารมณ์นั้นเป็นสมถะ

แต่ถ้าใจตั้งมั่น เห็นร่างกายมันเดินใจเป็นคนดู (หมายเหตุ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะเห็นเป็นแว้บๆ ไม่ได้เห็นต่อเนื่องยาวนาน – ผู้ถอด) นี่ เรียกว่าใจมันตั้งมั่น ใจมันอยู่ต่างหาก ใจกับกายนี้มันแยกออกจากกันนะ กายมันเดิน-ใจเป็นคนดู เวลานั่งอยู่ กายมันนั่ง-ใจเป็นคนดู เนี่ยใจมันตั้งมั่นอยู่เป็นแค่คนดู เรียกว่าใจมันมีสัมมาสมาธิ ถ้าใจมันเป็นผู้คิดผู้นึกผู้ปรุงผู้แต่ง ใจมันหลงไป ก็เรียกว่ามันไม่มีสัมมาสมาธิ หรือใจมันเข้าไปเพ่ง ก็เรียกว่าไม่มีสัมมาสมาธิ

เพราะฉะนั้นเราก็ค่อยๆหัดค่อยๆสังเกตสภาวะในใจเรา ใจเราชอบไหลไป เวลาเราดูท้องพองยุบใจก็ไหลไปอยู่ที่ท้อง อันนี้ไปเพ่งตัวอารมณ์ ไปเพ่งท้อง ก็เป็นสมถะ แต่ถ้าใจเราตั้งมั่นอยู่ เห็นท้องพองยุบเห็นร่างกายนี้มันหายใจเป็นแค่คนดู อันนี้เรียกว่าเรามีสัมมาสมาธิ ถ้าใจเราตั้งมั่นเป็นคนดู แล้วสติระลึกรู้กาย สติระลึกรู้ใจ ปัญญาจะเกิดทันที จะเห็นว่ากายนั้นใจนั้นไม่ใช่ตัวเรา จะเห็นทันทีเลย ปัญญาจะเกิด

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรื่องของศีล

mp3: เรื่องของศีล

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อ: สอนให้ถือศีล สอนตั้งครึ่งปีไม่สำเร็จนะ ต้องไล่ไปที่อื่น ไม่ไหวละ สอนไม่ได้ละ อย่างนี้ร้ายเกินไป

ถ้าไม่มีศีล ๕ เนี่ย ใจจะไม่มีความสงบ ไม่มีความตั้งมั่นเลย ไม่มีแรงหรอก เพราะว่าคนที่ผิดศีลเนี่ยนะ ใจจะฟุ้งซ่าน คนที่มีศีลใจมันจะสงบ

ฟุ้งอย่างไร คิดจะฆ่าเขาใช่มั้ย กับคิดไม่ฆ่า อันไหนยากกว่ากัน ไม่ต้องฆ่าใครใช่มั้ย ไม่ต้องคิดมาก คิดจะฆ่าเขาก็ต้องคิดมาก คิดจะขโมยเขาก็ต้องคิดมากใช่มั้ย คิดจะเป็นชู้กับเขาก็ต้องคิดมาก เดี๋ยวเมียเราจะเฉือนเราเสีย หรือว่า เดี๋ยวผัวคนโน้นจะฆ่าเราเสีย อย่างนี้ ต้องคิดมากทั้งหมดเลย จะโกหกก็ต้องคิดมาก นึกออกมั้ย ใครไม่เคยโกหก มีใครจะโกหกว่าไม่เคยโกหกมั้ย หลวงพ่อก็โกหกนะ สมัยโน้นนะ พอผู้ใหญ่ถาม “ไปไหนมา” เปล่า เอ๊ะ เพิ่งไปมาหยกๆบอกเปล่าละ มันอัตโนมัตินะ

แต่ว่าคนที่โกหกน่ะ ต้องใช้หน่วยความจำเยอะ เพราะฉะนั้นพวกนี้คิดสร้างสรรอะไรไม่ค่อยได้นะ เอาหน่วยความจำไปใช้ในการจำไว้ว่าโกหกคนนี้อย่างนี้ๆ คนไม่โกหก คนพูดความจริง ไม่ต้องจำมาก คนโกหกต้องจำมาก พูดกับคนนี้ไว้อย่างนี้ พูดกับคนนี้อย่างนี้ ต้องจำให้ได้นะว่า พูดกับเขาว่าอย่างไร

แต่ผู้ชายบางคนนะ มันพูดประโยคเดียวกัน แต่พูดกับผู้หญิงได้ทุกคน ประโยคเดียวกัน อย่างนี้ไม่ต้องใช้ความจำ ไปที่ไหน รักคุณคนเดียวเลย เหมือนกันหมดเลย ไม่ต้องจำ อย่างนี้ โกหกอย่างนี้

โกหกมากๆก็ต้องฟุ้งซ่าน ไอ้คนที่เราหลอกเขาไว้สองคนมาเจอกัน จะทำอย่างไร มันฟุ้งซ่าน

จะกินเหล้าก็ฟุ้งซ่าน ฟุ้งตั้งแต่หาเงินไปกินเหล้าแล้ว ฟุ้งตั้งแต่จะชวนเพื่อนมากินเหล้านะ กินแล้วก็ต้องตีกันบ้าง หรือไม่ตีกันนะ ก็เอะอะโวยวายขาดสติ ภาวนาไม่ไหวหรอก กินเสร็จแล้วตื่นมาอีกวันหนึ่ง ปวดหัว ภาวนาลำบาก

เห็นมั้ย ถ้าเรามีศีลนะ ใจเราสงบ ใจเราสบาย เพราะฉะนั้นมีศีลไว้นะ ศีลไม่ได้ถือไว้เพื่อลำบาก แต่ศีลถือไว้เพื่อสบาย ถ้าเรามีศีลนะใจเราก็สงบลงมา พอใจสงบแล้วนะ เราคอยรู้กาย เราคอยรู้ใจ…

*** หมายเหตุ
คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

วิภัชวิธี คืออะไร?

mp3 for download : วิพัชวิธีคืออะไร?

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : วิธีปฏิบัติธรรมในศาสนาพุทธเนี่ย ปฏิบัติโดยวิธีที่เรียกว่า วิภัชวิธี วอแหวน สระอิ ภอสำเภา ไม้หันอากาศ ชอช้าง วิภัชชะ วิภัชชะคือการปฏิบัติแบบจำแนก แยกแยะสิ่งที่เป็นกลุ่มเป็นก้อน เป็นตัวเป็นตน คิดว่ามีตัวตนอยู่จริงๆ พอจับมันแยกเป็นส่วนๆนะ เป็นสภาวะแต่ละอย่างๆแล้ว จะพบว่าไม่มีตัวตน

สมัยโบราณท่านเปรียบเหมือนเกวียน สมัยนี้ต้องเปรียบแบบรถยนต์ พูดเรื่องเกวียนหลวงพ่อก็เรียกไม่ถูกแล้ว อันไหนเป็นกง อันไหนเป็นกำ อะไรอย่างนี้ เรียกไม่ถูกแล้ว ตอนเด็กๆยังจำได้ มาถึงตอนนี้ไม่เห็นเกวียนมานานแล้ว เห็นแต่ลูกล้อที่เขาเอาไปติดอยู่ตามร้านอาหาร เหลืออยู่แค่นั้นล่ะ

เดี๋ยวนี้รู้จักแต่รถยนต์ เวลาเรามองรถยนต์เราก็มองในองค์รวม มีวัตถุหลายอย่างมารวมกันนะ มีอะหลั่ยจำนวนมากเป็นพันๆชิ้นมารวมกันเข้ามา เราก็สำคัญมั่นหมายว่าเนี่ยรถยนต์ มีรถยนต์จริงๆ พอเราอยากดูว่ารถยนต์ตัวจริงอยู่ตรงไหน เราก็ค่อยๆจับมาแยกดู ถอดล้อออกไปล้อก็ไม่ใช่รถยนต์แล้วใช่มั้ย เอาประตูออกไป เอาเบาะออกไป ค่อยๆแยกทีละส่วน เบาะก็ไม่ใช่รถยนต์ ประตูก็ไม่ใช่รถยนต์ แยกออกไปเรื่อยๆ ก็พบว่าไม่มีรถยนต์

สิ่งที่เรียกว่าตัวเรานี้ก็เหมือนกันนะ จับแยกออกไปเป็นส่วนๆ ร่างกายก็อยู่ส่วนหนึ่ง ความรู้สึกนึกคิดทั้งหลายก็อยู่ส่วนหนึ่ง จิตที่เป็นธรรมชาติรู้อยู่ส่วนหนึ่ง พอแยกออกไป แต่ละอันๆจะไม่มีตัวเรา

เนี่ยภาวนาไป ก็คือ หัดดูสภาวะแต่ละตัวไป แยกย่อยไปเรื่อยนะ ไม่ได้จงใจแยกนะ แต่เป็นการหัดรู้สภาวะที่กำลังเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ หัดรู้มันไปเรื่อย แล้วสภาวะทั้งหลายจะสอนให้เราเห็นว่า ไม่มีตัวเรา

หัดเฝ้ารู้เฝ้าดูอย่างนี้เรื่อยไป วันหนึ่งจิตยอมรับความจริงว่าตัวเราไม่มี ผู้ใดที่จิตยอมรับความจริงว่าตัวเราไม่มี จะได้เป็นพระโสดาบัน

04m00-06m20
550701.04m00-06m20.mp3

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ตายแล้วไปไหน???

mp3: ตายแล้วไปไหน?

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ตายแล้วไปไหน???

ตายแล้วเกิดนะ ตายแล้วไม่ใช่สูญ แต่ไม่ใช่ตายแล้วจิตดวงนี้ไปเกิดใหม่

พวกเราภาวนากับหลวงพ่อ ถ้าใครเค้าถามว่า ตายแล้วเกิดไหม ก็บอกตายแล้วเกิด แต่ไม่ใช่จิตดวงนี้ไปเกิด

ถ้าเห็นว่าจิตดวงเดิมไปเกิดเนี่ย แสดงว่าภาวนาไม่เป็น เราต้องเห็นนะจิตมันเกิดแล้วดับ เห็นมั้ย จิตเกิดตรงนี้ดับตรงนี้

เกิดตรงนี้ดับตรงนี้แหละ อยู่ในปัจจุบันนี้แหละ ในที่สุดเราเห็นเลยจิตทุกดวงเกิดแล้วดับ

มันก็ไม่มีหรอกจิตที่ข้ามภพข้ามชาติไป มันมีแต่จิตดวงสุดท้ายในชีวิตนี้ เรียกว่า จุติจิต

จุติจิตนี้นะ มันจะเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิสนธิจิต จิตอีกดวงหนึ่งเกิดขึ้นในภพใหม่นะ ในชีวิตใหม่ ไม่ใช่จิตดวงเดิมไปเกิด

จิตดวงเดิมไปเกิดเป็นมิจฉาทิฐินะ เห็นว่าจิตเที่ยง  เห็นว่าจิตเที่ยง เป็นอัตตา เป็นอาตมันเป็นตัวเป็นตน อันนั้นเป็นมิจฉาทิฐิ

พวกเราหัดภาวนาเราเห็นจิตเกิดดับเกิดดับเกิดดับอยู่เรื่อย เนี่ยเราเห็นแล้วว่าเป็นสัมมาทิฐิ ไม่เป็นตัวตนถาวร

แต่ว่ามันมีพลังงาน มันเหนี่ยวนำไป ตราบใดที่ยังไม่สิ้นกระแสของพลังงานนี้ มันก็เหนี่ยวนำให้เกิดจิตดวงใหม่ขึ้นมาอีก

ทำงานต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ จิตดวงใหม่มันก็เหมือนลูกของจิตดวงเก่า มันรับมรดกไปก็ได้นะ รับหนี้สินของพ่อของแม่ไปก็ได้

หรือรับวิบากที่ดีก็ได้ ที่เลวก็ได้ ที่จิตดวงก่อนๆมันทำเอาไว้ แต่ว่าไม่ใช่ดวงเดียวกัน

ค่อยฝึกนะ ฝึกไป ไม่ยากเท่าที่คิดหรอก พวกเรามีบุญสุดขีดแล้วนะ เราเป็นชาวพุทธ เรามีบุญสุดขีดแล้วเราได้ฟังธรรมะนะ

เหลือแต่ว่าเราภาวนาให้สมควรแก่ธรรมะ แล้วเราก็จะได้ลิ้มรสชาติของธรรมะ

 

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ใบไม้กำมือเดียว

mp3: ใบไม้กำมือเดียว

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ปัญญาคืออะไร ?

mp3: ปัญญาคือ?

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : ปัญญาคืออะไร? ปัญญาคือความเข้าใจ ปัญญาคือตัวความเข้าใจนะ ความเข้าใจความเป็นจริงของกายของใจ ไม่ใช่ความเข้าใจผิด เป็นความเข้าใจความเป็นจริง ต้องของกายของใจด้วย ถ้าเข้าใจเรื่องอื่นไม่จัดว่าเป็นวิปัสสนาปัญญา ถ้าปัญญาแท้ๆเลยที่จะเอาตัวเราให้พ้นทุกข์ได้นะ ต้องเข้าใจความเป็นจริงของกายของใจ

ทำอย่างไรจะเข้าใจความจริงของเขา ต้องดูเขาบ่อยๆ ดูเขาจนเข้าใจเขา เหมือนอย่างเราจะศึกษาพฤติกรรมของใครสักคนหนึ่งนะ เราต้องตามดูเขาบ่อยๆแล้ววันหนึ่งเราจะเข้าใจเขา ว่าความจริงเขาเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นเราก็คอยตามรู้กายตามรู้ใจบ่อยๆ ดูอย่างที่มันเป็น อย่าไปดัดแปลงให้มันผิดจากที่มันเป็น

ยกตัวอย่างบางคนนะจะดูจิต ก็ไปจ้องไว้ไม่ให้คลาดสายตา อย่างนี้ใช้ไม่ได้ จิตจะนิ่งผิดความจริง เด็กนั้นเหมือนเด็กนะ ถ้าเราไปถือไม้เรียว เราเฝ้าจ้อง มึงขยับกูจะตี เด็กเครียดก็กดเอาไว้เฉยๆ จิตนี้เหมือนกัน ถ้าเราจ้องเอาไว้ตลอดเวลานะมันจะเครียด แล้วมันจะอยู่เฉยๆ ไม่ยอมกระดุกกระดิก ไม่มีไตรลักษณ์ให้ดู

เราอยากดูตัวจริงของเด็กนะ ปล่อยให้มันซนแล้วแอบดู ปล่อยให้มันซนไปแล้ว แล้วเราก็แอบชำเลืองๆไป ยกเว้นว่ามันจะไปตกน้ำตกท่า จะถูกรถทับตายอะไรอย่างนี้ ก็ค่อยไปดูแลมัน

จิตนี้ก็เหมือนกันนะ ถ้ามันยังไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงเราก็ปล่อยให้มันทำงานไป เดี๋ยวมันก็โลภ เดี๋ยวมันก็โกรธ เดี๋ยวมันก็หลง อะไรอย่างนี้ ไม่เป็นไร ตามรู้ไปเรื่อยๆ แต่ถ้ากิเลสมันรุนแรงแล้วนะ มันจะไปตีเขา จะไปฆ่าเขา จะผิดศีล อันนี้ต้องไปห้ามมันแล้ว ไปจัดการไปห้ามมัน เหมือนเด็กจะไปตกน้ำตาย เราก็ต้องไปช่วยมันหน่อย ถ้ามันไม่ได้มีอันตรายร้ายแรงนะ ไม่ได้ไปผิดศีลร้ายแรง เราก็ปล่อยให้จิตนี้มันทำงานไป ปล่อยเด็กคนนี้ให้มันซนไป

เคยมีนายพลคนหนึ่งนะ นายพล พลเอกเสียด้วย มาหาหลวงพ่อ แล้วก็บอกว่า ทหารของผมทุกคนเรียบร้อย เวลาผมเดินเข้าไปเนี่ยนะ เรียบร้อยหมดเลย หลวงพ่อก็บอกว่า ท่านอยากเห็นทหารของท่านเรียบร้อยหรือเปล่า ท่านต้องแอบดูนะ ถ้าท่านนายพลเดินเข้าไปนะ ทหารมันเห็นมันเรียบร้อยหมดเลย ต้องแอบดู ต้องแอบชำเลืองๆ อย่าไปจ้องอย่างนี้ จ้องอย่างนี้มันก็ตัวแข็งหมด

จิตนี้ก็เหมือนกันนะ อยากดูตัวจริงว่าเรียบร้อยหรือไม่เรียบร้อยนะ ต้องแอบดูมัน ชำเลืองๆ ทำไม่รู้ไม่ชี้ แล้วก็นานๆชำเลืองทีหนึ่ง ไม่ใช่อย่างนี้นะ อย่างนี้มันไม่กล้ากระดุกกระดิก

เพราะฉะนั้นอย่าไปบังคับมัน ถ้าเราไปจ้องตลอดเวลา นั่นคือการเพ่งที่หลวงพ่อห้าม ไปจ้องไว้แล้วมันก็เพ่งมันก็นิ่ง ใช้ไม่ได้นะ ไม่มีปัญญาหรอก ชำเลืองดูมันเป็นระยะๆ ไม่ใช่ดูตลอดเวลา รู้บ้างเผลอบ้าง ไม่ใช่ไม่ให้เผลอเลย ถ้าไม่ให้เผลอเลยจะเป็นการเพ่ง ต้องรู้บ้างเผลอบ้างนะ อย่างคุณเสื้อสีฟ้าเนี่ย เผลอ เห็นมั้ย รู้บ้างเผลอบ้างไม่ว่ามันหรอก ต้องเห็นอย่างนี้ ในที่สุดจะเกิดปัญญา เออ..จิตมันจะเผลอ ห้ามมันไม่ได้ จิตมันจะรู้ตัว สั่งรู้ตัวไม่ได้ รู้ตัวแล้วรักษาไว้ก็ไม่ได้ มันเผลออีกแล้ว

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

*หมายเหตุ*

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรื่องของนิวรณ์

mp3: เรื่องของนิวรณ์

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรื่องของโมหะ

mp3: เรื่องของโมหะ

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

มีสติก็มีศีล

mp3 for download : มีสติก็มีศีล

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

zip:มีสติก็มีศีล

ลพ: เป็นฆราวาสก็ศึกษาศีลของฆราวาส ศีลทำไมต้องศึกษา ไปขอจากพระเฉย ๆ ไม่ได้หรือ? ไม่ได้ ศีลขี้ขอ ศีลกระจอกงอกง่อย ศีลขอทานอย่างนั้นใช้ไม่ได้นะ

ศีลจริง ๆ คือทำอย่างไรใจเราจะเป็นปกติ ไม่ถูกกิเลสชั่วหยาบครอบงำแล้วไปเกิดพฤติกรรมทางกาย ทางวาจาที่ชั่วร้ายขึ้นมา ต้องศึกษาเหมือนกัน

เราจะมีศีลได้ดีถ้าเรามีสติ สติเนี่ยจำเป็น ถ้าเรามีสติเมื่อไหร่นะ กิเลสเข้ามาในใจเราแว้ปเนี่ย เราจะรู้สึกเลยเราจะละอายใจถ้าจะทำตามกิเลส แล้วเราเกรงกลัวผลของการทำชั่ว เราไม่อยากทำชั่ว ศีลมันจะอัตโนมัติขึ้นมาศีลสิกขาเนี่ยเราจะเรียนจนศีลอัตโนมัตินะ เพราะเรามีสตินั้นเอง

CD: 20

File: 500429.mp3

Time: 06m10 – 07m05

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

นิ่ง เป็นกลาง

mp3: นิ่ง เป็นกลาง

Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

zip: นิ่ง เป็นกลาง

โยม: นมัสการเจ้าค่ะ พระอาจารย์ วันนี้…

ลพ: เถาเป็นธรรมดามั้ย วันนี้

โยม: กายมันง่วงเจ้าค่ะ แต่เข้าใจว่ารู้ตัว

ลพ: อือ.. มันรู้แบบง่วงๆ

โยม: ใช่เจ้าค่ะ เพราะวันนี้ตื่นเช้า

ลพ: แล้วก็ มันดีตรงที่จิตมันไม่ดิ้น

โยม: เจ้าค่ะ

ลพ: นะ มันดีตรงนี้แหละ มันง่วง มันซึม

โยม: ค่ะ

ลพ: ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นนะ ถ้าจิตมันรู้อยู่ แต่มันไม่ดิ้นรน ใช้ได้นะ เป็นกลาง

โยม: เจ้าค่ะ เถาเข้าใจว่ามันนิ่งๆ

ลพ: อือ

โยม: มันนิ่งๆ

ลพ: มันนิ่ง แต่มันไม่ได้นิ่งซื่อบื้อ แต่มันนิ่งเป็นกลาง

โยม: เจ้าค่ะ

ลพ: นิ่งซื่อบื้อ กับนิ่งเป็นกลาง ไม่เหมือนกัน

CD: 25

File: 510415B.mp3

Time: 47m46 – 48m26

แสดงธรรมเมื่อวันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ.2551 หลังฉันเช้า

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

น้องมายด์ส่งการบ้าน

MP3: น้องมายด์ส่งการบ้าน
Media Player:

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


ZIP: น้องมายด์ส่งการบ้าน

หลวงพ่อปราโมทย์ : เอ้า… ลูกสาวส่งการบ้าน ว่ายังไง เห็นกิเลสมั้ย

น้องมายด์: เห็นค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เห็นอะไรบ้าง

น้องมายด์: เอ่อ… เยอะแยะค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : (หัวเราะ)

น้องมายด์: ก็ บางทีก็มี เอ่อ โมหะน่ะค่ะ บ่อยมากเลย เวลาตื่นนอนใหม่ๆอย่างนี้ ก็ชอบนั่งแช่เป็นชั่วโมงเลยค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เหรอ (เสียงโยมหัวเราะ) แย่นะ แช่อยู่บนเตียงชั่วโมง ไปแช่ในห้องน้ำอีกชั่วโมงหรือเปล่า

น้องมายด์: (หัวเราะ) ก็ บางทีค่ะ ก็แช่ในห้องน้ำ

หลวงพ่อปราโมทย์ : คอยรู้สึกเรื่อยๆนะ

น้องมายด์: ค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ไฟฟ้าไม่เชิญไปเป็นวิทยากร (เสียงโยมหัวเราะ) สอนพวกที่บอกว่าดูจิตยากน่ะ ที่บอกว่าการดูจิตนั้นมันยากเหลือเกิน เนี่ย เอามาสอนเบอร์ 38 มั่ง (เสียงโยมหัวเราะ) อ้าวแล้วไงอีก

น้องมายด์: ก็ เมื่อตอนวันอาทิตย์น่ะค่ะ อาทิตย์ที่แล้ว หนูไปว่ายน้ำค่ะ แล้วรู้สึกว่า มัน เอ่อ… มันบังคับไม่ได้ค่ะ คราวนี้หนูลองดูจิตดู มันก็ดูไม่ได้ ก็เลยดูกายค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เออ…

น้องมายด์: คราวนี้มันก็เลยเห็นว่า เหมือนมันจะไม่ใช่ตัวเราน่ะค่ะ คือ อันนี้หนูไม่รู้ว่าหนูคิดไป หรือว่าจิตมันรู้เองค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : จิตมันรู้เองน่ะสิ นะ เห็นมั้ย อู้หู (เสียงโยมหัวเราะฮือฮาปรบมือ) เอ้า ใครอิจฉาเด็กบ้าง ยกมือ (เสียงโยมหัวเราะ) รวมทั้งพ่อด้วย แล้วไงอีก

น้องมายด์: ก็ช่วงนี้ รู้สึกว่า มีความทุกข์เลยค่ะ เพราะว่า ตอนแรกหนูได้ คือ หนูตีขิมเป็น คราวนี้งานวิชาการหนูจะได้ตีค่ะ ทีนี้ตอนแรกได้ตีพิเศษกว่าคนอื่น พอตอนหลังไปช้าเลยได้ตีแย่กว่าคนอื่น คราวนี้หนูก็เลยรู้สึกไม่ดี ก็หดหู่มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เหรอ แล้วทำไงล่ะ

น้องมายด์: ก็ดูไปค่ะ (เสียงโยมหัวเราะ)

หลวงพ่อปราโมทย์ : เห็นมั้ย บอกแล้วว่าต้องเอาไปเป็นวิทยากร (เสียงโยมปรบมือ) จบหรือยัง

น้องมายด์: จบแล้วค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เอ้า.. ให้ผู้ใหญ่บ้าง.

CD : 26

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรื่องของการสูญเสียบุคคลที่รัก

mp3 for download : เรื่องของการสูญเสียบุคคลที่รัก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

zip: เรื่อง ของการสูญเสียบุคคลที่รัก

โยม: กราบนมัสการหลวงพ่อนะคะ จะส่งการบ้านนะค่ะ คือช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ตัวเองได้เจอกับวิบากกรรม ก็..

หลวงพ่อปราโมทย์ : คือไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นในชีวิตเรานะ ท่องไว้เลยว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” ไม่มีสิ่งใดหรอกที่มาแล้วไม่ผ่านไป ไม่ว่าความสุขหรือความทุกข์นะ แต่เวลาความทุกข์มา เราอยากให้มันพ้นเร็วๆ ความสุขมาเราไม่อยากให้มันพ้น ทั้งๆที่ทุกสิ่งมันต้องผ่านไป ทีนี้ความสุขผ่านไปเราก็เสียใจ ความทุกข์ไม่ไปเสียทีเราก็เสียใจอีก

โยม: ก็ช่วงแรกก็บอก เอ่อ… ยังทำใจไม่ได้น่ะค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ทำใจไม่ได้ไม่ต้องทำใจ

โยม: ก็คือ ปล่อยให้อารมณ์ตรงนั้น คือ เราเสียใจ ให้เรารู้

หลวงพ่อปราโมทย์ : เราคอยรู้ไปนะ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆนะ เราก็เปลี่ยนความรู้สึกเสียบ้าง เปลี่ยนผ่อนคลายก่อน ผ่อนคลายเช่น ไปดูหนังฟังเพลงบ้าง แต่ไม่ใช่เที่ยวเตลิดเปิดเปิงไปนะ เอาพอผ่อนคลายนิดๆหน่อยๆแล้วก็กลับมารู้ใหม่

โยม: ค่ะ ก็อาศัยธรรมะที่ฟังจากซีดีหลวงพ่อ

หลวงพ่อปราโมทย์ : กลุ้มใจก็ฟังซีดีหลวงพ่อไป

โยม: ก็ที่เราดู ตอนช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่เราดูสภาวะที่มันเกิดขึ้นกับจิตเรา ที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ ยอมรับวิบากตรงนั้น

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้ายอมรับได้เมื่อไหร่นะ จะไม่ทุกข์เมื่อนั้น จำไว้นะ ที่ยังทุกข์อยู่เพราะยอมรับไม่ได้

โยม: ตอนนี้ก็คือ ถือว่า สภาพจิตใจก็ ดีขึ้นเยอะน่ะค่ะ อาจจะด้วยซีดีที่ได้ฟังหลวงพ่อและวันนี้ก็มีโอกาสได้มาส่งการบ้าน แล้วก็ คือปัจจุบันที่ ที่ทำอยู่ก็คือฟังซีดี แล้วก็ ดูว่า…

หลวงพ่อปราโมทย์ : หลงไปแล้ว รู้สึกมั้ย หลงไปแล้ว เอ้า..ว่าไป

โยม: ว่า เราเจอร่างกายเราเป็นยังไง จิตใจ ณ. ตอนนั้นเป็นยังไง

หลวงพ่อปราโมทย์ : ดีแล้วล่ะ ฝึกไปนะ คนในโลกนี้ไม่ใช่เราทุกข์คนเดียว ใครๆก็ทุกข์ทั้งนั้นแหละ เมื่อไม่กี่วันนี้ก็มี เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ไปภาวนา ไปที่วัดบ่อยๆนะ อยู่ๆเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวมาขอการบ้าน บอกว่า อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้มาขอการบ้าน แต่ว่าไม่ได้หวั่นไหวนะ จะตายก็ตาย อะไรอย่างนี้ ต้องใจแข็งอย่างนั้น ถ้าเรายอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตไม่ได้นะ จิตใจจะมีความทุกข์มาก ถ้าเราเห็นเรื่องทุกอย่างเป็นธรรมดาเราจะไม่ทุกข์มาก

อย่างสมมุติว่าอกหัก รักสลาย อะไรอย่างนี้ ถ้าเราเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา คนเราก็สมหวังบ้าง ผิดหวังบ้าง อะไรอย่างนี้ เราก็ไม่ทุกข์มาก เป็นเรื่องธรรมดา น้ำมันแพง ก็คนอยากใช้เยอะ มันก็แพง อะไรอย่างนี้ หรือมันโกงกันมาก มันก็แพง เราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ถ้าเราอยากให้น้ำมันเหลือลิตรละ 3 บาทนะ ต้องทุกข์ตายเลย เพราะเป็นไปไม่ได้

ถ้าเมื่อไหร่เรายอมรับความจริงนะ เราจะไม่ทุกข์หรอก เพราะฉะนั้นเราเผชิญหน้ากับทุกสิ่งนะ ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง เป็นกลาง รู้ทุกอย่าง อย่างที่เขากำลังปรากฎขึ้น ไม่ใช่อย่างที่เราอยากให้มันเป็น ถ้าเราเผชิญทุกสิ่ง ทุกอย่าง อย่างที่มันเป็นนะ ใจเราเป็นกลางได้นี่ มันจะไม่ทุกข์หรอก ชีวิตนี้จะเหลือแต่ปัญหา ชีวิตนี้จะไม่มีความทุกข์ ปัญหาเกิดขึ้นตลอดเวลา ในชีวิตของคนเราทุกคน ต้องมีปัญหาเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่คนซึ่งฝึกจิตมาดีแล้ว มันมีแต่ปัญหา มันไม่มีความทุกข์ขึ้นมา ความทุกข์ไม่ใช่ปัญหา ความทุกข์เป็นส่วนเกินของชีวิต

เพราะฉะนั้นเมื่อมีปัญหาขึ้นมา เรามีสติรู้ทันจิตใจตัวเองไป เราก็จะเห็น มันก็แค่สภาวะอย่างหนึ่งชั่วคราว เดี๋ยมันก็ผ่านไป ใจมันจะไม่ทุกข์

โยม: แสดงว่าตอนนี้ เอ่อ.. ใจหนูยังไม่ถือว่าเป็นกลางใช่มั้ยคะ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ยังไม่เป็นกลาง มันเป็นพักๆ ใช่มั้ย เดี๋ยวก็เป็น เดี๋ยวก็ไม่เป็น มันยังไม่เป็นอย่างแท้จริง ให้เรารู้ต่อไปอีกนะ

โยม: กราบขอบคุณค่ะ

* * * * * *

CD:28

File:25510615

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

โอวาทจากหลวงพ่อ (ศาลาลุงชิน 20 ก.ย.52)

โอวาทจากหลวงพ่อ

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

โอวาทจากหลวงพ่อ (ศาลาลุงชิน 21 มิ.ย. 52)

File: โอวาทจากหลวงพ่อ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

สติปัฏฐานคือ

mp3 for download: สติปัฏฐานคือ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : เรียนทุกวันจะเรียนอะไร… (หัวเราะ) เรียนของเราเองนะ ได้หลักแล้วก็ต้องไปดูเอาเอง จริงๆแล้วการปฏิบัติก็มีแค่สติปัฏฐาน ฝึกอยู่แค่นั้น

สติปัฏฐานคือมีสติ รู้รูปนาม รู้กายรู้ใจ ด้วยจิตใจที่มีสัมมาสมาธิ ตั้งมั่น เป็นกลาง เบื้องต้นรู้เพื่อให้เกิดสติ เบื้องปลายรู้ให้เกิดปัญญา นะ อันนี้พูดให้ฟังทุกวัน

CD:25
File:510415a.mp3
Time: 0m9 – 0m45

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 177 of 178« First...102030...174175176177178