Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๙) สัมมาสมาธิแท้ๆเกิดตอนที่เกิดอริยมรรค

mp 3 (for download) : ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๙) สัมมาสมาธิแท้ๆเกิดตอนที่เกิดอริยมรรค

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี
เอื้อเฟื้อภาพโดย บ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์  : >สติปัฏฐานเนี่ย เบื้องต้นทำให้มีสติ เบื้องปลายจะมีปัญญา

แต่ก่อนจะเกิดปัญญา ต้องมาเรียนสัมมาสมาธิก่อน สัมมาสมาธิพระพุทธเจ้าอธิบายสัมมาสมาธิด้วยฌาน ๔ ทำไมเอาแค่ฌาน ๔ แล้วอรูปฌานอีก ๔ หายไปไหน อรูปฌาน ๔ นั้นสงเคราะห์เข้าในฌานที่ ๔ เพราะมีองค์ธรรมเท่ากัน มีอุเบกขากับเอกัคคตา เป็นองค์ธรรมหลักคืออุเบกขากับเอกัคคตา งั้นสรุปก็คือฌาน ๘ นั่นเอง

แต่ถ้าพูดอย่างปริยัติ ท่านอธิบายด้วยฌาน ๔ ทำไมต้องเป็นฌาน ถ้าไม่เข้าฌาน ไม่เป็นสัมมาสมาธิรึ ท่านอธิบายฌาน ๔ สัมมาสมาธิด้วยฌาน ๔ เนี่ย เพราะท่านพูดถึงสัมมาสมาธิแท้ๆ สัมมาสมาธิแท้ๆเกิดขณะเดียว ในขณะที่เกิดอริยมรรค เกิดขณะจิตเดียวนั่นแหล่ะ

เพราะงั้นที่บอกว่าองค์มรรคๆ ๘ ตัวนี่นะ ไม่ได้เกิดรายวัน แต่องค์มรรคแท้ๆเนี่ย เกิดในขณะที่เกิดอริยมรรค เพราะงั้นขณะที่พวกเรามีสติอยู่ทุกวันเนี่ย บางคนก็บอกเป็นสัมมาสติ อันนั้นเรียกเอาหน้าเท่านั้นเอง จริงๆไม่เป็น ที่บอกเรามีสัมมาสมาธิอยู่ มีใจตั้งมั่นอยู่กับเนื้อกับตัว นี่เรียกโดยอนุโลม จริงๆยังไม่ใช่สัมมาสมาธิ สัมมาสมาธิแท้ๆเกิดตอนที่เกิดอริยมรรค

แล้วขณะที่เกิดอริยมรรคนั้น จะต้องเกิดร่วมกับองค์ฌานอันใดอันหนึ่ง ต้องเกิดกับฌานขั้นใดขั้นหนึ่ง อย่างน้อยปฐมฌานจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ จนถึงฌานที่ ๔ บางคนลึกซึ้งลงไปกว่านั้นอีก ในฌานที่ ๔ นั้นรูปหายไป เหลือแต่นามธรรมล้วนๆ เข้าไปอรูปฌาน

งั้นท่านอธิบายตัวสัมมาสมาธิเนี่ย ท่านถึงไปอธิบายด้วยฌาน แต่ในขั้นการปฏิบัติเนี่ย ขั้นบุพภาคมรรค ขั้นเบื้องต้นของมรรค มรรคเบื้องต้น ยังไม่ใช่อริยมรรคเนี่ย ไม่จำเป็น ไม่จำเป็นว่าจะต้องเกิดอัปปนาสมาธิ ถ้าเราไม่มีอัปปนาสมาธิ ทำอัปปนาสมาธิไม่ได้ เราใช้ขณิกสมาธินี่แหล่ะ สมาธิเป็นขณะๆ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๔
Track: ๑๒
File: 530425A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๙ วินาทีที่ ๔๕ ถึง นาทีที่ ๒๑ วินาทีที่ ๕๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

รถตู้ฟรี เพื่อไปฟังธรรมวัดสวนสันติธรรม เดือน มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

หลวงพ่อปราโมทย์ แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม

ไม่มีการแสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม

รถตู้โดยกลุ่มธรรมดา.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางกลุ่มธรรมดา.net

รถตู้โดยกลุ่มธรรมทาน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางรถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

รถตู้โดยลุงเมา (คณะเจ้าภาพหลากหลาย) กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางรถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

รถตู้โดยชมรมพุทธศาสน์ กฟผ. กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางรถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

1. รถตู้โดยกลุ่มธรรมดา.net

มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ (ดูรายการรถตู้ฟรีโดยเจ้าภาพท่านอื่น คลิ้กที่นี่)

วัน เวลา นัดพบ วันที่รับสมัคร
วันอาทิตย์ที่ ๑๐ มี.ค. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั้มปตท รังสิต ๒๕ ก.พ. – ๖ มี.ค. ๕๖
วันเสาร์ที่ ๑๖ มี.ค. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊มปิโตรนาส เจริญนคร ๔ – ๑๓ มี.ค. ๕๖
วันเสาร์ที่ ๒๓ มี.ค. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊มเอสโซ่ สถานีอารีย์ ๑๑ – ๒๐ มี.ค. ๕๖
วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มี.ค. ๕๖ ๐๕:๐๐ น.
๐๕:๑๐ น.
ปั๊มเอสโซ่ บางแค
ปั้มปตท พระราม 2
๑๘ – ๒๗ มี.ค. ๕๖

กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖ (ดูรายการรถตู้ฟรีโดยเจ้าภาพท่านอื่น คลิ้กที่นี่)

วัน เวลา นัดพบ วันที่รับสมัคร
วันเสาร์ที่ ๒ ก.พ.๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั้มปตท รังสิต ๒๑ ม.ค. ๕๖ – ๓๐ ม.ค. ๕๖
วันอาทิตย์ที่ ๑๐ ก.พ. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊มปิโตรนาส เจริญนคร ๒๘ ม.ค. ๕๖ – ๖ ก.พ. ๕๖
วันเสาร์ที่ ๑๖ ก.พ. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊มเอสโซ่ สถานีอารีย์ ๔ – ๑๓ ก.พ. ๕๖
วันเสาร์ที่ ๒๓ ก.พ. ๕๖ ๐๕:๐๐ น.
๐๕:๑๐ น.
ปั๊มเอสโซ่ บางแค
ปั้มปตท พระราม 2
๑๑ – ๒๐ ก.พ. ๕๖
รอบพิเศษ วันมาฆบูชา
วันจันทร์ที่ ๒๕ ก.พ. ๕๖
๐๕:๐๐ น. ปั๊มเอสโซ่ สถานีอารีย์ ๑๑ – ๒๐ ก.พ. ๕๖

แผนที่
(คลิ้กที่ภาพ เพื่อดูแผนที่ขนาดเต็ม)

แผนที่ ปั๊มพ์ ปตท.รังสิต

แผนที่ ปั๊มพ์ ปตท.รังสิต

แผนที่ ปั๊มเอสโซ่บางแค

แผนที่ ปั๊มเอสโซ่บางแค

ปั๊มปตท.พระราม 2

ปั๊มปตท.พระราม 2


โดยมีรายละเอียดและการสำรองที่นั่ง ดัง นี้
1. กรุณาสำรองที่นั่งภายในวันเวลาที่ รับสมัคร โดยส่งชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และจำนวนที่นั่งที่ต้องการจองมาที่

    หมายเลขโทรศัพท์: 08-9694-2994 ติดต่อคุณดีนี่
    หมายเลขโทรศัพท์: 08-9445-6269 ติดต่อ คุณเอ้(หากไม่รับสาย รบกวนโทรเบอร์อื่น หรือ ส่ง sms )
    หมายเลขโทรศัพท์: 08-2955-5650 ติดต่อ คุณทราย

2. ทางกลุ่มฯของดรับบริจาคหรือเรี่ยไร สมทบทุนทุกกรณี หากมีการเรี่ยไรจากผู้ให้บริการ จะไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฯ และทุกท่านมีสิทธิ์ที่จะไม่ต้องสมทบทุนได้ และหากมีกรณีเช่นนี้ขอความกรุณาแจ้งมาทางเมล์ของกลุ่มฯด้วยครับ

3. หากมีปัญหาจากการให้บริการ หรือไม่ได้รับความสะดวกประการใด หรือมีข้อเสนอแนะประการใด กรุณาติดต่อมาที่ van.dhammada.net@gmail.com ได้

4. อนึ่งขอให้ทุกท่านตรงต่อเวลาและใน กรณีที่มีเหตุจำเป็นจะยกเลิกการสำรองที่นั่ง กรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้ผู้อื่นได้ใช้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยครับ

2. รถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

รายการรถตู้ฟรีเพิ่มเติม เพื่อเดินทางไปฟังธรรมที่วัดสวนสันติธรรม (ดูรายการรถตู้ฟรีของ Dhammada.net คลิ้กที่นี่)

วันและเวลาออกเดินทาง จุดนัดพบ การสำรองที่นั่ง คณะเจ้าภาพ
5.30 น. อาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน Mc Donald’s ที่ แมกซ์วาลู ศรีนครินทร์
(เปิด 24 ชม.)
ติดต่อ02-717-5111
ที่คุณกบ หรือ
คุณหนิงเท่านั้น
กลุ่มธรรมทาน
5.00 น. อาทิตย์ที่ 1 ของทุกเดือน ปั๊ม ปตท สนามเป้า ข้าง ททบ. 5
ตรงข้าม รพ.พญาไท 2
ติดต่อ ลุงเมา
084-360-6881,
086-780-4368,
086-556-2623
บ้านขนมนันทวัน จ.เพชรบุรี
5.00 น. อาทิตย์ที่ 2 ของทุกเดือน บ.สาลี่เอกชัย จ.สุพรรณบุรี
5.00 น. เสาร์หรืออาทิตย์ที่ 3
ของทุกเดือน
บ.ชัยรัชการ จก.
โตโยต้า บางนา-ตราด กม. 16
5.00 น. อาทิตย์ที่ 4 ของทุกเดือน กลุ่มเพื่อน ทพญ. ยาหยี,
ทพญ. จ๊ะจ๋า,
คุณ เจษฎ์จรรย์
5.00 น. อาทิตย์ที่ 5 ของทุกเดือน (ถ้ามี) คุณสุปรียา (น้อง)
5.00 น. อาทิตย์ที่ 2 ของทุกเดือน (เฉพาะเดือนธันวาคมนี้ (๒๕๕๕) ขอเปลี่ยนแปลงเป็นวันอาทิตย์แรก วันอาทิตย์ที่ ๒ ธันวาคม แทน) ม.เอเชียอาคเนย์ ติดต่อ คุณนิตยา 02-807-4500 ต่อ 321 หรือ คุณปิยะธิดา 083-609-5752 เวลา 8.30 – 16.30 น. วัน อังคาร – เสาร์ ม.เอเชียอาคเนย์
5.00 น. เสาร์ที่ 2 ของทุกเดือน
(กรุณาสำรองที่นั่ง
ก่อน 12.00 น.ของวันพฤหัสที่ 2 ของเดือน)
หน้าป้อมยาม กฟผ. ถ.จรัญสนิทวงศ์ ติดต่อ คุณใกล้รุ่ง
080-465- 4924
เวลา 9.00-20.00 น.
ทุกวัน หรือ
mdc@egat.co.th
กิจกรรมพัฒนาจิต
อ. บางกรวย จ. นนทบุรี
ชมรมพุทธศาสน์ กฟผ.

เนื่องจากเป็นการเดินทางของหมู่คณะ ขอให้ทุกท่านตรงต่อเวลา และในกรณีที่มีเหตุจำเป็นจะยกเลิกการสำรองที่นั่ง กรุณาแจ้งยกเลิกล่วงหน้าเพื่อให้ผู้อื่นได้มีโอกาสเดินทางแทน
หมายเหตุ
1. จะไม่มีการเดินทางตามตารางข้างต้นหากวันเดินทางที่กำหนดไว้ตรงกับวันที่วัดสวนสันติธรรมงดการแสดงธรรม
2. รอบรถตู้ข้างต้นของดรับบริจาคหรือเรี่ยไร ทุกกรณี หากญาติธรรมมีความประสงค์จะร่วมบุญ กรุณาติดต่อเจ้าภาพโดยตรง หากมีการเรี่ยไรให้ช่วยค่าใช้จ่ายจากคนขับรถตู้ ขอความกรุณาแจ้งมาทาง santi.vangroup@gmail.com
3. หากมีข้อร้องเรียน คำถาม หรือมีข้อเสนอแนะประการใด กรุณาติดต่อมาที่ santi.vangroup@gmail.com หรือ mdc@egat.co.th (ในกรณีที่เป็นรถตู้ของชมรมพุทธศาสน์ กฟผ.)

ขออนุโมทนาคณะเจ้าภาพและญาติธรรมผู้แสวงหาธรรมะทุกท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๘) สติปัฏฐานมี ๒ ขั้นตอน

mp 3 (for download) : ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๘) สติปัฏฐานมี ๒ ขั้นตอน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี
เอื้อเฟื้อภาพโดย บ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : การเจริญสติปัฏฐานนั้น มี ๒ ขั้นตอน เรียนทันมั้ยเนี่ย มันคล้ายๆ intensive course แล้ว วันสุดท้ายแล้ว เรียนยากหน่อยนะ สติปัฏฐานเนี่ยนะมี ๒ ขั้นตอนนะ ขั้นตอนที่ ๑ ทำไปเพื่อให้เกิดสติ ขั้นตอนที่ ๒ ทำไปเพื่อให้เกิดปัญญา มี ๒ ส่วนนะ ไม่เหมือนกัน

การทำให้เกิดสติใช้การตามรู้กาย ตามรู้เวทนา ตามรู้จิต ตามรู้สภาวะธรรม ใช้ตามรู้ทั้งหมดเลย เพราะงั้นท่านถึงใช้คำว่า “กายานุปัสสนา” “ปัสสนา”คือ การเห็น การรู้การเห็น จริงๆแปลว่าการเห็น “อนุ” แปลว่าตาม ตามเห็นเนืองๆซึ่งกาย ตามเห็นเนืองๆซึ่งเวทนา ตามเห็นเนืองๆซึ่งจิต ตามเห็นเนืองๆซึ่งธรรม เนี่ยพระพุทธเจ้าใช้คำว่าตามเห็นเนืองๆ แต่ตามเห็นเนี่ย ต้องตามด้วยใจที่ตั้งมั่นนะ ใจที่ตั้งมั่น ไม่ใช่ใจที่ไหลไป ใจที่ตั้งมั่นจะไปได้ตอนฝึกสัมมาสมาธิ นี้ให้มีสัมมาสติ สัมมาสติคอยมีสติ

เบื้องต้นมีสติตามรู้กาย หายใจออกคอยรู้สึก หายใจเข้าคอยรู้สึก ยืนเดินนั่งนอน คู้เหยียด เหลียวซ้ายแลขวา คอยรู้สึก รู้สึกบ่อยๆนะ ต่อไปเนี่ย ไม่เจตนาจะรู้ มันก็รู้เอง พอร่างกายเคลื่อนไหวนะ สติจะระลึกได้เอง เนี่ยเรียกว่าเราฝึกได้สติแล้ว สติเกิดโดยที่ไม่ต้องเจตนาให้เกิด หรือบางคนตามรู้เวทนา คำว่าตามรู้ไม่ใช่ตามไปที่อื่นนะ ตามรู้หมายถึงว่า ร่างกายเคลื่อนไหว แล้วรู้ว่าร่างกายเคลื่อนไหว เวทนาเกิดขึ้นในกาย ก็รู้ว่าเวทนาเกิดในกาย เวทนาเกิดในใจ ก็รู้ว่าเวทนาเกิดในใจ หมายถึงเวทนาเกิดก่อน แล้วรู้ว่ามันเกิด ร่างกายเคลื่อนไหวไปก่อน แล้วรู้ว่าเคลื่อนไหว

เพราะฉะนั้นในการเดินจงกรมแบบนี้ ถูกหรือผิดหลัก? (หลวงพ่อทำให้ดู) เนี่ยแล้วค่อยๆเดินไป อันนี้เป็นการไปจ้องไว้ ไม่ใช่การตามรู้นะ ถ้าตามรู้ ไม่ทันจะระวังตัวเลย เป็นธรรมชาติธรรมดา เคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติ หายใจ มันหายใจอยู่แล้วใช่มัั้ย ตอนนี้ทุกคนหายใจอยู่มั้ย มีใครไม่หายใจมาบ้าง ทุกคนหายใจอยู่แล้ว ก็แค่รู้ว่ากำลังหายใจอยู่ รู้ว่าร่างกายกำลังหายใจอยู่ แค่นี้เอง ไม่ใช่เอาแล้วต่อไปนี้จะรู้ลมหายใจแล้ว (หลวงพ่อทำให้ดู) นี่ไม่ใช่แล้วนะ นี่ไม่ใช่การตามรู้แล้

ตามรู้เนี่ย มันมีอยู่แล้ว เรารู้ไม่ทันต่างหาก ก็รู้ให้ทันขึ้นมา หายใจอยู่แล้วใช่มั้ย ยืนเดินนั่งนอนอยู่แล้วใช่มั้ย ขณะนี้ใครไม่ยืนเดินนั่งนอน มีมั้ย ใครไม่อยู่ในอิริยาบทนี้ ไม่มี ตอนนี้กำลังนั่ง นี่มีเดินอยู่หนึ่ง นอกนั้นกำลังนั่ง มันมีอยู่แล้วนะ เราก็แค่รู้เข้าไปเท่านั้น อันนี้แหล่ะเรียกว่าตามรู้ เวทนามันก็มีอยู่แล้ว แต่ไม่เห็น ก็แค่ตามรู้เข้าไป คือรู้มันขึ้นมานะ

กุศลอกุศลในจิตมีอยู่มั้ยขณะนี้ มีมั้ย ความสงบ ความฟุ้งซ่าน ความดีใจ ความเสียใจ ความสุข ความสุขความทุกข์นี่ส่วนเวทนา โลภโกรธหลง ไม่โลภไม่โกรธไม่หลง ขณะนี้มีใครโลภบ้าง ขณะนี้มีใครไม่โลภบ้าง เนี่ยเหมือนกันหมดเลย non response เห็นมั้ยมันมีอยู่แล้ว จิตที่เป็นกุศลหรืออกุศลเนี่ย มีอยู่แล้วในขณะนี้นะ ตามรู้คืออะไร รู้เข้าไปเลยสิ มันเป็นยังไง ขณะนี้มันเป็นยังไง รู้ว่าเป็นอย่างงั้น อันนี้แหล่ะคือคำว่าตามรู้ ตามรู้เนืองๆ ดูบ่อยๆ รู้บ่อยๆ มันมีอยู่แล้ว แต่เราไม่เคยเห็น ก็คอยดูมันนะ คอยรู้มัน นี่เรียกว่าตามรู้นะ แต่การรู้เนี่ยจะต้องใจตั้งมั่น ถ้ารู้ตามจิตไหลไปนะ ปัญญาจะไม่เกิด เดี๋ยวจะไปเรียนเรื่องมรรคตัวสุดท้าย คือสมาธิ

งั้นหน้าที่เรานะ ร่างกายเคลื่อนไหว คอยรู้สึก มันเคลื่อนไหวอยู่แล้ว เวทนาเกิดขึ้นในกาย คอยรู้สึก เวทนาในกายมีอยู่แล้ว เวทนาในจิตเกิดขึ้น คอยรู้สึก เวทนาในจิตก็มีอยู่แล้ว แค่คอยรู้สึกขึ้นมา กุศล-อกุศลเกิดขึ้นในจิต ก็แค่คอยรู้ มันมีอยู่แล้ว นี่เรียกว่าตามรู้ทั้งสิ้นเลย เพราะงั้นการตามรู้ไม่ใช่ส่งจิตตามไปที่อื่นนะ รู้อยู่เฉพาะหน้า รู้อยู่กับปัจจุบัน แต่ว่าสภาวะมันมีอยู่แล้ว ก็รู้มัน นี่เรียกว่าตามรู้ ตามรู้เนืองๆ นี่ทำให้เกิดสตินะ

พอรู้บ่อยๆ จิตจะจำสภาวะได้แม่น อย่างเราหัดขยับตัวแล้วรู้สึก ขยับตัวแล้วรู้สึก วันนึงเราใจลอย พอใจลอยปุ๊บ เราเกิดขยับขึ้นมาโดยไม่ได้เจตนาจะรู้สึกนะ มันจะรู้สึกขึ้นเอง สติตัวจริงเกิดแล้ว เกิดโดยไม่เจตนานะ ไม่เจือด้วยโลภะ แล้วค่อยฝึกไปเรื่อยนะ บางคนดูเวทนา ดูบ่อยๆ ต่อไปพอนั่งๆอยู่ มดมากัดเจ็บปั๊บ สติเกิดเลย เห็นเวทนาเกิดขึ้นในกาย กายอยู่ส่วนนึง เวทนาอยู่ส่วนนึง จิตเป็นคนดู นี่เกิดสติขึ้นมา ใจตั้งมั่น รู้สึกขึ้นมา หรือเห็นกุศลอกุศลนะ หัดดูไปเรื่อย กุศลอกุศลใดๆเกิดขึ้นในใจ คอยหัดดูไปเรื่อย ที่หัดดูจิตๆ หัดดูไปอย่างนั้นแหล่ะ ในที่สุดก็ได้สติขึ้นมา รู้สึกขึ้นมา กิเลสเกิดแว้บ รู้สึกเลย อย่าว่าแต่ตอนตื่นเลย ตอนนอนหลับนะ กิเลสเกิดยังรู้สึกเลยอัตโนมัติขึ้นมา

นี่เราฝึกไปจนสติมันอัตโนมัตินะ ถึงจะใช้ได้ ถ้าสติยังต้องจงใจให้คอยเกิดอยู่ ยังอ่อนอยู่ ต้องฝึกไปอีก หัดรู้สภาวะมากๆนะ สติจะเกิด

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๔
Track: ๑๒
File: 530425A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๔ วินาทีที่ ๖ ถึง นาทีที่ ๑๙ วินาทีที่ ๔๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ปัญหาจากการสวดมนต์

ปัญหาจากการสวดมนต์

ถาม : สวดมนต์แล้วรู้สึกเหนื่อย ควรทำอย่างไรดี ?

ตอบ : ใครสวดมนต์แล้วรู้สึกเหนื่อยกว่าการพูดตามปกติ ลองสังเกตดูนะครับว่า เราสวดมนต์ด้วยเสียงต่ำเกินไปไหม เพราะการสวดมนต์ด้วยเสียงต่ำๆ

จะทำให้ต้องใช้ลมมาก ให้ลองสวดมนต์ด้วยเสียงที่สูงขึ้นดูนะครับ แล้วจะไม่เหนื่อย ^_^

ถาม : เบื่อการสวดมนต์มากๆค่ะ ใจไม่อยากทำ ยิ่งบวกความขี้เกียจแล้วยิ่งทำให้ไม่ชอบใหญ่เลยค่ะ  หนูควรฝืนสวดต่อไปไหมคะ หรือว่าปฏิบัติแบบอื่นที่ชอบไปเลย?

ตอบ :  มีสองทางครับคือ หนึ่งก่อนสวดมนต์ก็ดูจิตที่เบื่อไป ขณะกำลังสวดก็ดูจิตไป สวดจบแล้วก็ดูจิตไป ก็จะเห็นจิตที่เบื่อไม่เที่ยง บังคับไม่ได้ กับทางที่สองคือ เปลี่ยนไปทำรูปแบบอื่นแทนแล้วก็รู้กายรู้ใจไปครับ

ถาม : บางครั้งก็สวดมนต์แล้วง่วง บางครั้งก็ใจลอยทำอย่างไรดี?

ตอบ : สวดแล้วง่วง สวดแล้วใจลอยไป พอรู้สึกตัวขึ้นมา รู้ว่าใจลอย ก็ให้มาสวดมนต์ต่อไปเลยครับ แล้วก็ไม่ต้องเพ่งจิตเพื่อไม่ให้ใจลอยไป แค่ใจลอยไปแล้วรู้ว่าเมื่อกี้ใจลอยไปก็พอแล้วครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๗) สติเป็นต้นทางของกุศล

mp 3 (for download) : ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๗) สติเป็นต้นทางของกุศล

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี
เอื้อเฟื้อภาพโดย บ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : ทำยังไงกุศลจะเจริญ ทำยังไงกุศลที่ไม่มีจะมี ที่มีแล้วจะเจริญ

มีสติไว้ สติเป็นต้นทางของกุศลนะ ถ้าขาดสติอย่างเดียวเนี่ย กุศลทั้งหลายจะไม่เกิดเลย องค์ธรรมฝ่ายกุศลจะไม่มีเลย ต้องมีสติเอาไว้ ถ้ามีสติรู้ทันจิตตัวเองเรื่อยๆ จิตมันมีกิเลสขึ้นมารู้ทันมันนะ มันละอายแก่ใจนะ มีหิริ มีโอตตัปปะขึ้นมา ละอายใจเกรงกลัวบาป เกรงกลัวผลของบาป ละอายใจที่จะทำบาป หิริคือความละอายใจที่จะทำชั่ว โอตตัปปะนะ(คือ)กลัวผลของการทำชั่ว

เนี่ยถ้าเรามีสติคุ้มครองจิตอยู่ มีสติรู้ทันจิตอยู่ มันจะเกิดหิริโอตตัปปะขึ้นมาเอง คนที่มีหิริโอตตัปปะนะจะมีศีลขึ้นมาโดยง่าย เพราะถ้ามันละอายใจที่จะทำชั่ว กลัวผลของบาปซะแล้ว มันจะทำผิดศีลไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันเป็นการทำชั่ว เป็นการทำบาป

งั้นถ้าเรามีสตินะ มีหิริโอตตัปปะเกิดขึ้น ก็เกิดศีลขึ้นมา มีศีลแล้วก็เกิดสมาธิได้ง่าย ใจสงบง่าย มีสมาธิแล้วก็เกิดปัญญาง่าย พอใจสงบนะ ก็สามารถเรียนรู้ความจริงของกายของใจได้ง่าย มีปัญญาแล้ววิมุตติก็เกิดได้ง่าย มีโอกาสเกิดวิมุตติ คือใจปล่อยวางความยึดถือในรูปในนาม ในกายในใจ

เพราะงั้นมันจะเป็นทอดๆไปนะ แล้วมีสติให้มากไว้ งั้นกุศลทั้งหลายก็จะเกิดขึ้น ตัวอย่างของกุศลที่ว่ามา ก็คือหิริโอตตัปปะใช่มั้ย ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ นี่เป็นส่วนของกุศลทั้งนั้นเลย มันจะค่อยๆพัฒนาขึ้นมา

งั้นเรามีสติรักษาจิตไว้นะ นั่นแหล่ะคือการทำความเพียร เคยอ่านหนังสือนะ หลวงปู่มั่นท่านบอกว่า เมื่อไรมีสติ เมื่อนั้นมีความเพียร เมื่อไรขาดสติ เมื่อนั้นขาดความเพียร นี่ท่านสอนถูกกับตำราเป๊ะเลยนะ ทั้งๆที่ท่านภาวนา แต่ความจริงท่านอ่านอภิธรรมนะ หลวงปู่มั่นนี่ท่านอ่านอภิธรรมด้วย ลองไปดูหนังสือที่ท่านอ่าน มีอภิธรรมอยู่ งั้นท่านสอนถูกทั้งปริยัติทั้งปฏิบัติ สอนเก่ง

งั้นเราจะมีสัมมาวายามะได้นะ อาศัยมีสติรู้ทันจิตนี่ แล้วอะไรคือสัมมาสติ มีสติรู้ทันจิตเป็นสัมมาสติทั้งหมดมั้ย ไม่ใช่ทั้งหมด พระพุทธเจ้าอธิบายสัมมาสติ ด้วยสติปัฏฐาน ๔ งั้นหน้าที่ของเราเจริญสติปัฏฐานนะ ไม่ใช่มีสติแล้วก็ลอยๆอยู่เฉยๆ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๔
Track: ๑๒
File: 530425A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๓๙ ถึง นาทีที่ ๑๔ วินาทีที่ ๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : คุยเรื่องการใช้ปัญญากับ อ.สุรวัฒน์

คุยเรื่องการใช้ปัญญากับ อ.สุรวัฒน์

 เมื่อวาน คุณสุรวัฒน์ ไปเยี่ยมผม เลยได้คุยกันหลายเรื่อง
เรื่องหนึ่งก็คือเรื่อง การใช้ปัญญา
ซึ่งผมได้สารภาพกับ คุณสุรวัฒน์ ตามตรงว่า
อธิบายสภาวะยากเหลือเกิน

ทำความรู้ตัว แล้วจิตนิ่งสนิทอยู่กับที่ ก็ไม่ใช่การเจริญปัญญา
แต่เป็นหลุมพรางของสมถะ
ครุ่นคิดพิจารณาเอาด้วยความคิดแบบที่คุ้นเคย ก็ไม่ใช่อีก
เพราะนั่นเป็นความฟุ้งซ่านของจิต
สภาพที่พอดีระหว่างความสงบนิ่ง กับความฟุ้งซ่านต่างหาก
ที่จิตจะเจริญปัญญาของเขาไปได้เอง

ใครจะช่วยใครได้ ที่จะให้รู้จักสภาวะ “รู้” ที่พอดี
นอกจากจะต้องลงมือทำด้วยตนเอง
ผิด จนไม่มีที่จะผิดอีก แล้วมันก็ถูกพอดีเอง

คำอธิบายสภาวะที่พอดีนั้น อย่างมากก็เป็นคำเปรียบเทียบ
หรือคำปฏิเสธว่า อันนี้ไม่ใช่ อันนี้ไม่ใช่
ยิ่งเปรียบเทียบมาก หรือปฏิเสธมาก
บางทีจิตของผู้ฟังเหมือนจะสงบลง
 แต่ก็สงบไปอย่างนั้นเอง เหมือนจะรู้ แต่ก็ไม่รู้
ที่จะอธิบายให้ เข้า(ถึง)ใจ จริงๆ นั้น ยากยิ่งนัก

เห็นแล้วจึงอัศจรรย์ในธรรมของพระพุทธเจ้า
ว่าท่านช่างแสดงได้ พอดี จริงๆ
คือไม่น้อย จนปฏิบัติไม่ได้
และไม่มาก จนจับประเด็นไม่ได้

ที่พูดกับ คุณสุรวัฒน์ ไม่ยาวเท่านี้หรอกครับ
เพราะพูดแค่ว่า “การใช้ปัญญาไม่ใช่การรู้ตัวนิ่งๆ ทื่อๆ และไม่ใช่การคิด”
เพียงเท่านี้ คุณสุรวัฒน์ ก็เข้าใจแล้วว่า ผมพูดถึงสภาวะอะไร

ธรรมะไม่ใช่ปรัชญา ไม่ใช่ตรรกศาสตร์
 ”คนจริง” เท่านั้น ที่จะรู้ของจริงซึ่งอธิบายได้ยาก

โดยคุณ สันตินันท์  (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

เมื่อวัน พุธ ที่ 13 กันยายน 2543

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๖) สมาธิในองค์มรรค

mp 3 (for download) : ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๖) สมาธิในองค์มรรค

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี
เอื้อเฟื้อภาพโดย บ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถัดไปเราฝึกเรื่องสมาธิ ในส่วนของเกี่ยวกับสมาธิเนี่ย มีองค์มรรคอยู่ ๓ ตัว ๓ ใช่มั้ย ๓ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาวายามะเป็นยังไง สัมมาสติเป็นยังไง สัมมาสมาธิเป็นยังไง

สัมมาวายามะคือความเพียรชอบ อะไรที่เรียกว่าความเพียรชอบ เพียรละอกุศลที่มีอยู่ เพียรปิดกั้นอกุศลใหม่ไม่ให้เกิด เพียรเจริญกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิด เพียรพัฒนากุศลที่เกิดแล้วนะให้มากยิ่งขึ้น นี่เรียกว่าสัมมาวายามะ

หน้าที่เรามีนะ ไม่ใช่บอก ฉันจะรู้สึกตัวเฉยๆ รู้สึกตัวเฉยๆ แค่นั้นไม่พอนะ ต้องสำรวจตัวเองด้วย อกุศลอะไรยังไม่ละ กุศลอะไรยังไม่เจริญ สำรวจตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะงั้นชีวิตเราจะมีทิศทาง ชีวิตเราจะมีเป้าหมาย ไม่ใช่อยู่ล่องๆลอยๆไปวันนึง หน้าที่เรานะสำรวจใจตัวเองไว้ ที่หลวงพ่อสอนให้ดูจิตๆนี่แหล่ะ จะมาทำสัมมาวายามะได้อย่างดีเลย งั้นเรารู้ทันจิตใจของเรานี่ อกุศลอะไรเกิดขึ้นให้รู้ทัน ถ้ารู้ทันแล้วมันจะละของมันเอง วิธีที่จะละอกุศลนะ ก็คือมีสติรู้ทันมัน อกุศลใดเกิดขึ้นในใจ เช่นราคะเกิดขึ้นรู้ทัน ราคะจะดับเอง โทสะเกิดขึ้นในใจมีสติรู้ทัน โทสะจะดับเอง

เพราะงั้นที่บอกเพียรปิดกั้นอกุศล เพียรละอกุศลที่มีอยู่ เพียรปิดกั้นอกุศลใหม่ไม่ให้มีขึ้นมา ไม่ให้ครอบงำใจขึ้นมาเนี่ย ทำด้วยการมีสติรู้ทันจิตนี่เอง ถ้าเรามีสติรู้ทันจิตนะ อกุศลที่มีอยู่ก็จะดับ อกุศลใหม่จะเกิดไม่ได้เลย ในขณะที่มีสติ แต่ขณะขาดสติอกุศลเกิดได้อีก


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๔
Track: ๑๒
File: 530425A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๙ วินาทีที่ ๔๙ ถึง นาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๓๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : ปรับอินทรีย์พละ๕ให้สมดุลย์

ปรับอินทรีย์พละ๕ให้สมดุลย์

เรื่องที่จะทำให้อินทรีย์/พละ 5 สม่ำเสมอกันนั้น
ไม่ใช่ว่ามีความเพียรมากแล้วลดความเพียรลง
เคยเดินจงกรมวันละ 2 ชั่วโมง ปรับให้เหลือ 1 ชั่วโมง
เพื่อจะให้สมดุลกับที่ยังมีสติน้อยๆ มีสมาธิน้อยๆ
ไม่ใช่แบบนี้นะครับ เพราะมีแต่จะพากันน้อยลงทุกอย่าง
 เป็นการเสียท่ากิเลสอย่างร้ายแรงทีเดียว

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมใช้มาแล้วก็คือ การพิจารณาอย่างแยบคาย
คือในเรื่องศรัทธานั้น ผมไม่เคยมีศรัทธาในครูบาอาจารย์จนถึงขั้นงมงาย
อันนี้เป็นนิสัยมาแต่ดั้งเดิม
คือครูบาอาจารย์สอนอะไร จะลองนำมาปฏิบัติดูอย่างจริงจัง
แล้วไปทดสอบรายงานผลกับท่าน
แต่ไม่เคยรู้สึกว่า ครูบาอาจารย์เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้
ไม่เคยคิดว่า จะต้องพึ่งพาอยู่ใกล้ท่าน จึงจะปฏิบัติได้

เรื่องความเพียรมากเกินไปนั้น ก็ต้องสังเกตจิตใจตนเอง
ว่าที่กำลังปฏิบัติอยู่นั้น ทำไปเพราะความอยากหรือเปล่า
คาดหวังอะไรแฝงเร้นอยู่หรือเปล่า
เจริญสติสัมปชัญญะถูกต้องหรือเปล่า
เมื่อสามารถเจริญสติได้ถูกต้องแล้ว
การปฏิบัติอยู่ตลอดวัน ในทุกอิริยาบถเมื่อมีโอกาสทำได้
ก็จัดว่าเป็นการทำความเพียรที่พอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป
ไม่เกี่ยวอะไรกับว่าต้องเดินเท่านั้น ต้องนั่งเท่านี้

เรื่องสติก็ต้องสังเกตจิตใจตนเองเหมือนกัน
ว่าสตินั้นกล้าแข็งเกินไปหรือไม่

สติที่พอดี คือสติที่ตามระลึกรู้อารมณ์ไปอย่างสบายๆ ไม่เคร่งเครียด
คล้ายๆ กับงูเห่า คือเวลาอยู่ปกติมันก็สงบๆ อยู่เฉยๆ
แต่พอมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาใกล้ งูจึงจะชูคอขึ้นมาคอยดูสิ่งแปลกปลอม
เวลาอยู่ปกติ งูไม่จำเป็นต้องชูคอให้เมื่อย
สติก็เหมือนกัน ในเวลาปกติก็รู้อารมณ์ที่กำลังปรากฏไปเรื่อยๆ
ต่อเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมที่อาจเป็นภัย คือกิเลสตัณหาต่างๆ ผ่านมา
สติจะตื่นตัวปั๊บขึ้นมาเป็นอัตโนมัติ เพื่อรู้สิ่งแปลกปลอมนั้น
ก็จะเห็นสิ่งนั้นผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

ถ้าไปตั้งสติเคร่งเครียดเกินไป คอยระวังตัวแจอยู่ทุกขณะจิต
อันนั้นเหนื่อยเกินไปครับ แล้วกิเลสตัณหามันจะพาลซ่อนเงียบหมด
เพราะไม่อยากเดินผ่านหน้าสติที่เป็นนักเลงโตถือมีดไม้คอยจ้องอยู่ตลอดเวลา
สติมันหลบไปนอนสบาย คนที่ลำบากก็คือเจ้าตัวที่ตั้งสติแรงเกินไปนั่นเอง

ถ้าพิจารณาอย่างแยบคายรู้ว่าตั้งสติแข็งไป
 ก็เพลาๆ การระวังบังคับจิตใจลงบ้าง

เรื่องสมาธิก็เหมือนกัน ถ้าทำสมาธิแบบเคลิ้มๆ อยู่เสมอ
ก็หัดมาทำความตื่นตัวของจิตให้มากขึ้น
แต่ถ้ามันตื่นตัวเกินไป แบบไม่เคยสงบสบายพักผ่อนเลย
ก็หันมาทำความสบายให้แก่จิตบ้าง
จะใช้จิตทำงานแบบใช้แรงงานทาสไม่ได้
ต้องให้เขาได้พักผ่อนบ้าง

ตัวปัญญาก็เหมือนกัน
ปัญญาจริงๆ ไม่มีอะไรมาก
เพียงเห็นจิตและอารมณ์เป็นไตรลักษณ์แบบประจักษ์ต่อหน้าต่อตาก็พอแล้ว
ส่วนความรู้ความเห็น ความแตกฉานต่างๆ นั้น
ไม่มีประโยชน์อะไรนักหรอกครับ
ดังนั้นแทนที่จะคิดๆ เอา ก็หันมารู้ๆ เอา
ปัญญาจะได้พอดีๆ ครับ

โดยคุณ สันตินันท์  (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

เมื่อวันศุกร์ ที่ 24 มีนาคม 2543

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๕) ศีลในองค์มรรค

mp 3 (for download) : ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๕) ศีลในองค์มรรค

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี
เอื้อเฟื้อภาพโดย บ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : วั้นนี้ต้องเทศน์ปิดท้ายด้วยเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา เพราะพวกที่มาเรียนเข้าคอร์สวันนี้จะจบแล้ว เดี๋ยวจบไปแล้วก็รู้แต่เจริญสติไม่ต้องรักษาศีล ไปไม่รอดนะ ต้องมีให้ครบ ไม่งั้นอริยมรรคจะไม่เกิด

ถ้าไปดูในองค์มรรคนะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ องค์มรรค ๓ ตัวนี่นะเรื่องศีลทั้งนั้นเลย สัมมาวาจาเนี่ยศีลข้อ ๔ สัมมากัมมันตะ(อยู่ใน)ศีลข้อ ๑,๒,๓ ต้องให้บอกมั้ย (ศีลข้อ)๑ ๒ ๓ คืออะไร ศีลข้อ ๑ ปาณาติบาต ทำร้ายสัตว์ ฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์ ข้อ ๒ ลักทรัพย์เค้า ฉ้อโกงเค้า ข้อ ๓ ประพฤติผิดในกาม สัมมาวาจาข้อ ๔ สัมมากัมมันตะข้อ ๑ ๒ ๓ สัมมาอาชีวะ การเลี้ยงชีวิตของเรา ต้องเลี้ยงอย่างบริสุทธิ์นะ จนไม่เป็นไร ความจนไม่น่ารังเกียจ ความโกงน่ารังเกียจ เราอย่าปล่อยให้ค่านิยมเลวๆมันครอบงำเรา

ทุกวันนี้เราถูกเสี้ยมสอนให้เลวหนักขึ้นๆ ให้เห็นความเลวเป็นเรื่องปกติ อย่างนักการเมืองบางคนมาสอนพวกเรานะ ว่าโกงไม่เป็นไร คอรัปชั่นไม่เป็นไร ขอให้มีผลงาน นี่สอนสิ่งที่เลวร้ายให้เรานะ เราต้องไม่เชื่อฟัง ชาวพุทธเราต้องสะอาดในการดำรงชีวิต ในการจะอยู่การจะทำอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างต้องสะอาดพอ ถ้ารู้สึกว่ายอมสกปรกได้ กิเลสมันล้างไม่ได้จริงหรอก ของหยาบๆยังล้างไม่ได้เลย การจะมีชีวิตอยู่ในโลกให้สะอาด ยังทำไม่ได้เลย จะทำใจให้สะอาดเนี่ยเป็นไปไม่ได้เลย

งั้นเราต้องเลี้ยงชีวิตนะ จนไม่เป็นไรนะ อย่าไปอายกับความยากจน ให้อายกับความชั่วร้าย แล้วก็อย่าไปยกย่องคนชั่วร้ายที่ร่ำรวยด้วย มันช่วยกันสร้างค่านิยมที่เลวให้มากขึ้นๆนะ สังคมของเราทุกวันนี้ถึงร้อนเป็นฟืนเป็นไฟไปหมด ทุกหนทุกแห่งแล้ว เพราะว่าเราช่วยกันสร้างค่านิยมที่เลวๆนานาชนิดขึ้นมา เช่นใช้วิธีอะไรก็ได้เพื่อบรรลุผลสำเร็จ นี่เป็นค่านิยมที่เลวร้ายมากเลย ทุกวันนี้ดูสิบ้านเมืองจะเป็นยังไง มันเป็นอนาธิปไตยนะ อะไรก็ได้ขอให้สำเร็จเถอะ เนี่ยมันจะอยู่กันไม่ไหว

เพราะงั้นเราต้องตั้งใจนะ รักษาศีลนะ รักษาศีล เลี้ยงชีวิตของเราให้บริสุทธิ์ นี่อยู่ในองค์มรรคทั้งสิ้นเลย


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๔
Track: ๑๒
File: 530425A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๗ วินาทีที่ ๑๓ ถึง นาทีที่ ๙ วินาทีที่ ๔๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News: New Files Uploaded (๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖)

    New Files Updated วันพุธที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖
    560217: ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน) ครั้งที่ ๕๗ แสดงธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๗ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๔) ศีลเป็นปัจจัยให้ถึงนิพพาน

mp 3 (for download) : ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๔) ศีลเป็นปัจจัยให้ถึงนิพพาน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี
เอื้อเฟื้อภาพโดย บ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : คนที่มีศีลสมาธิเกิดง่าย ยกตัวอย่างนะ ถ้าใจเราไม่คิดฆ่าใคร ไม่คิดเบียดเบียนใครนะ ใจเราสงบง่าย ถ้าใจเราผิดศีลนะ คิดจะฆ่าเขา คิดจะทำลายเขา ใจไม่สงบๆ สมาธิก็เสื่อมสิ

คิดจะลักเขา ขโมยเขานะ ไปขโมยมาแล้วอะไรอย่างนี้ ก็วุ่นวายใจ กลัวเขาจับได้ จิตใจมันวุ่นวาย สมาธิก็เสื่อมสิ เป็นชู้เขา กลัวเขาฆ่า เคยเห็นในการ์ตูนมั้ย ชอบไปแอบในตู้เสื้อผ้า หรือไปปีนหน้าต่างหนี อะไรอย่างนี้นะ มีความสุขมั้ย ไม่มีความสุขนะ จิตใจไม่มีความสุข ก็ไม่มีความสงบจริงหรอกนะ ฟุ้งซ่าน

คนโกหกเขาก็ต้องจำเยอะ ใช่มั้ย คนโกหกเนี่ยนะ คิดอะไรไม่ค่อยเป็นแล้ว เพราะเอาเมมโมรี่นะไปใช้ในการจำข้อมูลเก่าๆที่ไปโกหกคนไว้ ใจก็ฟุ้งซ่านนะ โกหกคน พูดเท็จ ไม่สงบนะ กินเหล้าเมายา จิตใจไม่สงบ

เพราะฉะนั้นศีลจำเป็นมากนะ ถ้ามีศีลนะ สมาธิเกิดง่าย มีสมาธิเกิดง่ายปัญญาก็เกิดง่าย เพราะฉะนั้นศีลนี้แหละเป็นปัจจัยให้ไปนิพพานได้ เพราะมันเกื้อกูลให้มีสมาธิ มีสมาธิเกื้อกูลให้เกิดปัญญา


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๔
Track: ๑๒
File: 530425A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๕ วินาทีที่ ๕๒ นาทีที่ ๗ วินาทีที่ ๑๓

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ไปงานศพทำไม

ไปงานศพกันทำไม

 เมื่อก่อนไม่เข้าใจหรอกนะว่า ทำไมต้องมีงานสวดศพ เพราะเห็นคนไปก็เอาแต่คุยกันสนุกสนานแม้เวลาที่พระสวดก็ตาม คงอาจเพราะคิดว่าฟังพระสวดไม่รู้เรื่อง

ไม่รู้จะฟังทำไม บางทีก็อาจไปร่วมงานเพียงแค่รู้จักผู้ตายหรือญาติ หรือไปเพราะเป็นอะไรที่ต้องทำตามหน้าที่ในสังคมเท่านั้น

 

 แต่เมื่อเวลาผ่านไป ได้ศึกษาเรียนรู้อะไรมากขึ้น ความเข้าใจก็เปลี่ยนไป รู้สึกได้ถึงความฉลาดของคนรุ่นก่อนๆ ที่คิดจัดงานศพขึ้นมา เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้ญาติๆ

ตลอดจนคนที่รู้จักผู้ตาย รู้จักญาติผู้ตาย ได้ร่วมกันทำสิ่งที่เป็นกุศล เพื่อประโยชน์ตนและเพื่อประโยชน์ผู้ตาย โดยเฉพาะผู้ตายที่ยังไม่สามารถพึ่งตนเองให้ไปสู่สุคติได้

 

 เมื่อเข้าใจอะไรๆมากขึ้น ผมจึงไปร่วมงานศพ ด้วยความตั้งใจทำบุญทำกุศล และตั้งใจที่จะแผ่เมตาและอุทิศผลบุญกุศลนั้นให้ผู้ตายได้อนุโมทนา

เพราะด้วยบุญกุศลที่เราอุทิศให้ผู้ตาย และผู้ตายได้อนุโมทนานี้เอง ที่จะช่วยให้ผู้ตายสามารถไปสู่สุคติได้ เพราะหากไม่มีใครแผ่เมตตา

และอุทิศลส่วนกุศลให้ได้อนุโมทนา เขาก็ไม่มีกำลังที่ไปสู่สุคติได้ด้วยตัวเองไปอีกไม่รู้จะนานแค่ไหน

ดังนั้นใครไงานศพแล้วฟังสวดไม่รู้เรื่อง ก็ไม่เป็นไร แต่ให้ใช้เวลาตรงนั้นมาสำรวมกายวาจาและใจ หยุดคุยสักไม่กี่นาที

แล้วทำจิตใจให้สงบรู้สึกถึงการมีร่างกายนั่งฟังเสียงสวดมนต์ไปเรื่อยๆ พอจิตหนีไปคิดเรื่องต่างๆ ก็ให้หัดรู้ทันจิตที่หนีไปคิด รู้ทันแล้วก็กลับมารู้สึกว่ามีร่างกายนั่งฟังสวดอยู่ต่อไปใหม่

 

 เพียงเท่านี้ก็เป็นการได้ทำจิตให้เป็นกุศลกันแล้ว พอถึงเวลาถวายผ้าถวายปัจจัยต่างๆ ก็ให้ตั้งใจน้อมถวายร่วมกับเจ้าภาพ แล้วเวลาที่พระเริ่มสวด ยถา…

ก็ให้ตั้งใจนึกกล่าวคำอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตายได้อนุโมทนา และร่วมกันน้อมจิตให้มีความเมตตาต่อกัน แล้วแผ่เมตตานั้นให้กับผู้ตายได้รู้สึกถึงความเย็นสบายของจิตใจ

 

 กรรมดีที่เราทำแม้เพียงเล็กน้อยเหล่านี้แหละ ที่จะเป็นการช่วยผู้ตายให้ไปสู่สุคติได้เร็วขึ้นตามสมควรแก่กรรมดีนั้น

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๓) ถ้าไม่มีศีล ก็ไม่มีสมาธิ

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๓) ถ้าไม่มีศีล ก็ไม่มีสมาธิmp 3 (for download) : ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๓) ถ้าไม่มีศีล ก็ไม่มีสมาธิ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี
เอื้อเฟื้อภาพโดย บ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าทุศีลสักอย่างหนึ่ง อย่ามาอวดเรื่องสมาธิเลย ถ้าไม่มีศีลนะ สมาธิที่เคยมีก็จะเสื่อม จะเสื่อมเห็นๆเลย มีตัวอย่างให้เห็น แต่จะเห็นหรือไม่เห็นนั้น ก็สุดแต่ แต่ละคนจะเห็น

ยกตัวอย่างพระเทวฑัต มีสมาธินะ เหาะได้ แปลงตัวได้ ปลอมตัวเป็นเด็กได้ ทำเป็นเบบี๋มาหลอกอชาติศัตรู แต่ว่าไม่ถือศีลนะ ในที่สุดสมาธิเสื่อม เคยเหาะได้นะ ในที่สุดต้องให้คนหามมาเฝ้าพระพุทธเจ้า

พวกพระก็รีบมาส่งข่าวให้พระพุทธเจ้ารู้ว่า พระเทวฑัตกำลังเดินทางมาแล้ว กำลังจะมาเฝ้า เพื่อว่าจะมาขอขมาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านบอกว่ามาไม่ถึงหรอก เทวฑัตนี้มาไม่ถึง บาปมาก มาไม่ถึง พวกพระก็คอยไปสืบนะ โอ้.. ตอนนี้มาถึงประตูเมืองแล้วพระเจ้าข้า… มาไม่ถึงหรอก… ตอนนี้มาถึงประตูวัดแล้วพระเจ้าข้า… ไม่ถึงหรอก…

พอมาถึงประตูวัด ใกล้ๆวัดแล้วเนี่ย แกก็พักนะ กินน้ำกินท่า คล้ายๆล้างหน้าล้างตา เดินทางมาไกล ถูกดินดูดลงไปตรงนั้น ไม่ถึงจริงๆ

เนี่ยทำไมไม่เหาะมา เหาะมาไม่ไหวแล้ว เหาะมาไม่ได้ ทำอะไรเก่งๆได้เหนือมนุษย์ธรรมดา ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว เพราะขาดศีลอันหนึ่ง สมาธิจะเสื่อม เพราะฉะนั้นพวกเรามีศีลไว้นะ คนที่มีศีลเนี่ย สมาธิเกิดง่าย


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๔
Track: ๑๒
File: 530425A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๒๐ ถึง ๕ วินาทีที่ ๕๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : เทคนิคการรู้

เทคนิคการรู้

ให้รู้ตามความเป็นจริงเท่าที่รู้ได้
ไม่ใช่ เจตนา และอยาก จะรู้ให้เกินกว่าที่สติปัญญาจะรู้ได้จริง
ให้ฝึกฝนพัฒนาสติสัมปชัญญะให้มาก
แล้วก็จะรู้ได้ว่องไว รู้ได้ละเอียด
และรู้ความจริงของจริงได้มากขึ้น โดยไม่ต้องฝืน

ขณะที่รู้อารมณ์ จะเป็นรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส หรือธัมมารมณ์จริงๆ
ตรงนั้นจิตเพียงแต่รู้เท่านั้น ยังไม่เสพย์อารมณ์
จิตตรงนี้ยังเป็นอุเบกขาหรือเป็นกลางอยู่ตามธรรมชาติ

อย่าพยายามไปกำหนดจิตให้หยุดนิ่งลงตรงนี้เพื่อจะรู้แต่ปรมัตถ์นะครับ
เพราะกำหนดไม่ได้จริงหรอก
ตอนที่คิดจะกำหนดนั้น
จิตมันขึ้นวิถีใหม่ หรือขึ้นกระบวนการของจิตรอบใหม่แล้ว
ตรงนี้แหละที่ผู้เรียนตำราชั้นหลังปฏิบัติผิดกันมาก
กลายเป็นหลงคิดตามสัญญาเท่านั้น

จึงควรปล่อยให้จิตเขาทำงานไปตามธรรมชาติธรรมดา
คือเมื่อถัดจากรู้รูป เสียง .. ธัมมารมณ์ นั้น
จิตจะอาศัยความจำรูปได้ ความจำเสียง .. ธัมมารมณ์ได้
เอามาเป็นปัจจัยสนับสนุนความคิดนึกปรุงแต่ง
แล้วเกิดกิเลสตัณหาอุปาทานขึ้นตรงช่วงหลังนี้
ตามตำรารุ่นหลังเขาเรียกว่า “ชวนะ”
จิตก็จะเกิดกุศลบ้าง อกุศลบ้าง เป็นกลางๆ บ้าง

แต่ตัวความคิดนึกปรุงแต่ง เช่นกิเลสตัณหา
และกลไกที่จิตแล่นไปก่อทุกข์ (ไม่ใช่เรื่องหรือเนื้อหาที่คิดนะครับ)
มันก็เป็นความจริงหรือปรมัตถ์ในฝ่ายนามธรรมของมันเหมือนกัน
ให้มีสติสัมปชัญญะ รู้มันไปด้วยจิตที่ตั้งมั่นเป็นกลางไปเลย
 อันนี้ก็เป็นวิปัสสนาเหมือนกัน ในหมวดของ เวทนา จิต และธรรม

โดยคุณ สันตินันท์  (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

เมื่อวันพุธ ที่ 13 กันยายน 2543

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๒) มีศีล ต้องมีเจตนางดเว้นการทำบาปทางกายทางวาจา

mp 3 (for download) : ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๒) มีศีล ต้องมีเจตนางดเว้นการทำบาปทางกายทางวาจา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี
เอื้อเฟื้อภาพโดย บ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : อยากจะได้ศีล ให้ใจเรามีศีลจริงๆ ต้องมีเจตนางดเว้นการทำบาปอกุศลทางกายทางวาจา ถ้าไม่มีเจตนางดเว้นก็ไม่ได้เรียกว่ามีศีล

ยกตัวอย่างเด็กเล็กๆ เกิดใหม่ๆนะ เป็นชู้กับใครไม่ได้ บอกไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ใช่หรอกนะ มันไม่ประพฤติเพราะไม่มีความสามารถจะประพฤติ หรือแก่งั่กเลยนะ เดินยังไม่ไหวเลย กระย่องกระแย่งนะ มีชู้ไม่ไหว อะไรอย่างนี้ ก็ไม่ได้จัดว่าเป็นศีล

มีศีลหมายถึงว่ามีเจตนาที่จะงดเว้นจริงๆ ถึงมีโอกาสทำก็ไม่ทำ ผลของศีลก็มีอยู่ ท่านก็สอนนะ สีเลนะ สุคติง ยันติ (สีเลน สุคตึ ยนฺติ) ศีลนั้นมีความสุขอยู่เบื้องหน้านะ สีเลนะ โภคะสัมปทา (สีเลน โภค สมฺปทา) มีโภคะ ถือศีลแล้วรวยได้ คนไม่มีศีลไม่รวยง่ายนะ ยกตัวอย่างกินเหล้า ติดยาเสพติด คบคนไม่ดี อะไรพวกนี้นะ หาเจริญยาก ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ลำบาก สีเลนะ นิพพุติง ยันติ (สีเลน นิพฺพุตึ ยนฺติ) ศีลนี้เป็นปัจจัยไปสู่นิพพาน เนี่ย อานิสงส์ของศีลก็มี

เราต้องรักษาศีล ถึงทำผิดได้ก็ไม่ทำนะ ถูกยั่วยวนอย่างไรก็ไม่ทำผิด อย่างนี้เรียกว่ามีศีล ถ้าเรามีศีลเราจะงดงามนะ มีความงามในตัวเอง มีความน่าเชื่อถือ มีเครดิต คนไม่มีศีลไม่มีเครดิต พอไม่มีเครดิต พอไม่ได้รับความเชื่อถือนะ โอกาสจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงอะไรนี้ ยาก

เพราะฉะนั้นเราต้องมีเจตนางดเว้น การทำผิดทำบาป ทางกายทางวาจานะ ต้องเจตนางดเว้น ตั้งใจไว้เลย ตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้านะ ตั้งใจไว้ วันนี้จะไม่ทำผิดศีล กลางวันก่อนจะกินข้าวนะ ตั้งใจไว้ วันนี้จะไม่ทำผิดศีลอีก ถ้าตั้งใจอย่างนี้เข้าไปในร้านอาหารบางแห่งไม่ได้ละ จะต้องไปเลือกเอาตัวนี้ๆ อะไรอย่างนี้นะ อย่างนี้ทำไม่ได้ละ ก่อนจะนอนนะ ตั้งใจไว้อีก จะไม่ทำผิดศีล จำเป็นยังไงก่อนจะนอนก็ต้องตั้งใจ เผื่อไม่ได้ตื่น เผื่อนอนหลับไปแล้วไม่ตื่นอีกเลย ไฟครอกตาย หรือเป็นโรคหัวใจวายตาย อย่างน้อยตอนก่อนจะตายได้รักษาศีลไว้แล้ว มีศีลเป็นเครื่องคุ้มครองเรา

ลองตั้งใจรักษาศีลวันละ ๓ ครั้งนะ ก่อนอาหาร แถมอีกครั้งหนึ่ง ก่อนนอน ถ้าตั้งใจอย่างนี้นะ ใจเราจะเคล้าเคลียในธรรมะง่ายขึ้น มันจะมีกำลังนะ ทำให้เราไปสู่มรรคผลนิพพานได้ง่าย


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๔
Track: ๑๒
File: 530425A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑ วินาทีที่ ๒๔ ถึง นาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๒๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๑) มรรคผลจะเกิด ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องพร้อม

mp 3 (for download) : ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๑) มรรคผลจะเกิด ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องพร้อม

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี
เอื้อเฟื้อภาพโดย บ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : เรียนหลักของการปฏิบัติให้แม่นๆนะ เราต้องทำด้วยตัวเอง ชาวพุทธเราไม่มีของฟรีหรอก ไม่มี ทุกอย่างอยู่ในเรื่องของกฎของกรรม ใครทำคนนั้นก็ได้ ไม่ทำก็ไม่ได้ ทำแบบไหนก็ได้แบบนั้น ทำชั่วก็ได้รับผลของความชั่ว ทำดีก็ได้รับผลของความดี รักษาศีลก็ได้รับผลของศีล ทำทานก็ได้รับผลของทาน ทำสมถะได้ความสุขได้ความสงบ ได้ความดี ทำวิปัสสนาได้ปัญญาเห็นความจริง เพราะฉะนั้นต้องทำให้ตรง

เวลาที่มรรคผลจะเกิดนะ ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องพร้อม เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้พร้อมนะ ท่านบอกกุศลทำให้ถึงพร้อม ไม่ใช่เจริญปัญญาอย่างเดียวแล้วจะบรรลุได้นะ ศีลก็ต้องรักษา สมาธิก็ต้องทำ เพราะฉะนั้นถ้าศีล สมาธิ ปัญญา ไม่พร้อม ไม่มีอริยมรรคเกิดขึ้น ถ้าจะทำก็ต้องทำเหตุ กับผล ให้ตรงกัน อยากได้ผลอย่างนี้ ต้องทำเหตุอย่างนี้


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๔
Track: ๑๒
File: 530425A.mp3
ระหว่างวินาทีที่ ๑๔ ถึง นาทีที่ ๑ วินาทีที่ ๒๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ควรทำในรูปแบบวันละกี่ชม.?

ควรทำในรูปแบบวันละกี่ชม.?

ถาม : ถ้าจะปฏิบัติให้เข็มข้น แต่สม่ำเสมอ สำหรับฆารวาส ควรทำในรูปแบบวันละอย่างต่ำกี่ ชมค่ะ?

ตอบ : การทำรูปแบบไม่มีเวลาขั้นต่ำที่ตายตัวหรอกครับ เราต้องมาดูว่า แต่ละวันเราสามารถทำรูปแบบได้สักกี่นาทีกี่ชั่วโมง

ที่พอเหมาะกับวิถีชีวิตประจำวันของเราเอง แล้วก็ช่วงแรกก็อย่าเพิ่งตั้งใจทำนานเกินไป เพราะถ้าทำไม่ไหวจะกลายเป็นการบั่นทอนกำลังใจไปครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ต้องรักษาศีลให้แน่วแน่

mp 3 (for download) : ต้องรักษาศีลให้แน่วแน่

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : การปฏิบัติไม่ยากหรอก รักษาศีล ๕ ไว้ก่อน รักษาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ศีล ๕ ไม่ต้องขอคนอื่น ตั้งใจรักษาเอาเอง ตั้งใจว่าเราจะไม่ทำบาปอกุศล ทางกาย ทางวาจา ๕ อย่าง รักษายากมั้ย ยากมากสำหรับฆราวาส

หลวงพ่อก็เคยใช้วิธีของพวกศากยะเหมือนกัน ตอนนั้นเราเป็นข้าราชการผู้น้อยนะ หัวหน้ากองมาสั่ง อยู่ในห้องน่ะ อยู่ห้องติดกัน บอก คุณปราโมทย์ใครโทรศัพท์มาถึงพี่นะ บอกว่าพี่ไปประชุมนะ พี่จะรีบทำงาน ใช้ให้เราโกหก เวรกรรม พอโทรศัพท์มานะ เราก็พูดเบาๆ(คำว่า)หัวหน้ากองสั่งว่า (แล้วพูดดังๆว่า)ไปประชุมครับ เหมือนกับถือต้นอ้อเลย ไม่รู้จะทำยังไง

ไปนั่งกินข้าวผู้ใหญ่ก็กินเหล้า มาชอบเรียกให้เรากินเหล้า เราไม่กิน เราจะกินแต่กับ ใหม่ๆเค้าก็บ่น สุดท้ายเราเอาบ้าง ไม่ได้เอาบ้างกินเหล้านะ หมายถึงผสมเหล้าให้เค้ากินไปเลย มันจะได้หมดเร็วๆ (แล้ว)ไม่มาเรียกเรา เวลาผสมเหล้าเราก็ผสมของเรามาแก้วนึง ใส่น้ำแข็งนะ เติมโซดานะ เอาเป๊ปซี่หยดซักสองสามหยดนะ เหมือนเปี๊ยบเลย คราวนี้ชนแก้วกับใครมาเลย สู้ทั้งประเทศเลย เราก็กินของเรา เราไม่ได้บอกว่าเรากินเหล้าด้วยนะ เค้าเห็นว่าสีเหมือนกันไม่เป็นไร อาสาชงเหล้ามันตลอดเลย

โห ยากนะ กว่าจะรักษาศีล เอาตัวรอดได้นะ ไม่ใช่ง่ายๆหรอก สารพัดวิธีเลยนะ ต้องใช้สติใช้ปัญญารักษาศีล งั้นฆราวาสเนี่ยจะรักษาศีลให้สะอาดหมดจด เหมือนหอยสังข์ที่ขัดดีแล้วเนี่ย ทำได้ยาก พระพุทธเจ้าท่านบอก แต่ต้องพยายาม วิธีที่เราจะรักษาศีลได้ดีขึ้นๆนะ ถ้าคือรักษาให้มั่นแน่วแน่ อย่างหลวงพ่อ เราไม่กินเหล้านี้ใครๆก็รู้ตอนนั้น ต่อไปพอซีเราใหญ่ขึ้นเรื่อยๆนะ ใครมานั่งโต๊ะเราไม่กล้ากินเหล้าเลย กลัวเราว่า กลัวเรามองด้วยสายตาตำหนิติเตียน

งั้นถือศีลถือให้จริงนะ แล้วมันจะมีอานิสงส์ การรักษาศีลให้ดีที่สุด ก็มีสติรักษาจิต เมื่อวานสอนแล้วนะ มีสติรักษาจิต กิเลสอะไรเกิดที่จิตรู้ทัน กิเลสอะไรเกิดที่จิตรู้ทัน ถ้าเรารู้ทันได้ กิเลสครอบงำจิตไม่ได้ ศีลอัตโนมัติจะเกิดขึ้น คราวนี้ก็ใช้สติปัญญารักษาศีลเอาก็แล้วกัน


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๕ หลังฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๗
File: 550908B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๙ วินาทีที่ ๕๖ ถึง นาทีที่ ๒๓

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : คู่รักนักภาวนา

สามีภรรยาในอุดมคติ ที่ครองเรือนด้วยกันและปฏิบัติธรรมไปด้วย

พอถึงจุดที่อินทรีย์แก่กล้า ก็พากันออกบวชทำที่สุดแห่งทุกข์

มีตัวอย่างมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล คือท่านปิปผลิ(พระมหากัสสปะ)กับภรรยาของท่าน

ผมกับภรรยาก็กำลังจะเดินรอยเดียวกันนั้นเหมือนกัน

ผมเคยพิจารณาว่า เหตุใดสามีภรรยาจำนวนมาก ไม่สามารถไปนิพพานด้วยกันได้

ก็เห็นว่า เพราะ ศรัทธา ศีล และทิฏฐิ ไม่เสมอกัน

หากมีคุณธรรมเหล่านี้เสมอกัน หรือใกล้เคียงกัน

โอกาสที่จะประดับประคองกันไปนิพพานนั้น มีความเป็นไปได้สูง

แรกๆ ที่อินทรีย์ยังอ่อน หรือยังมีภาระ ก็อยู่ด้วยกันไปอย่างมีความสงบสุข

เมื่อใดอินทรีย์แก่กล้า และเงื่อนไขพร้อม ก็พากันออกบวชทำที่สุดแห่งทุกข์

 

ผู้ใดที่ตั้งความปรารถนาจะเอามรรคผลให้ได้ หรืออยากออกบวช

โดยระหว่างนี้ต้องการมีคู่ครอง

ก็พิจารณาหาคนที่มีศรัทธา ศีล และทิฏฐิเสมอกันไว้ครับ

หากคนหนึ่งมีศรัทธา คนหนึ่งไม่มี คนหนึ่งมีศีล คนหนึ่งไม่มี

คนหนึ่งเป็นสัมมาทิฏฐิ คนหนึ่งเป็นมิจฉาทิฏฐิ

ก็มักจะเป็นคู่กรรม มากกว่าคู่บุญบารมีกัน

โดยคุณ สันตินันท์  (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2542

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News: New Files Uploaded (๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖)

    New Files Updated วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖
    560203: โรงเรียนสตรีภูเก็ต จ.ภูเก็ต แสดงธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 50 of 178« First...102030...4849505152...607080...Last »