กลับสู่หน้าหลัก

มรรคผล เริ่มต้นที่ไหน

โดยคุณ ดังตฤณ  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 05:43:27

อยู่ในสังสารวัฏเหมือนติดกรง
ผู้ถูกขังคือจิต ผู้ออกจากกรงคือจิต
เมื่อพ้นกรงแล้ว แม้แต่จิตก็พ้นจากพันธนาการสุดท้าย
คือความมีตัว มีสภาพของจิตเอง
เพราะรวมตัวเป็นอันเดียวกับสภาพภายนอก
ซึ่งมีระดับชั้นน่าพอใจเหนือกว่ากัน

เมื่ออยู่ในกรง จิตถูกร้อยรัดมัดผูกไว้ด้วยเชือกอีกหลายเส้น
นับแต่ความตระหนี่ถี่เหนียว ความอาฆาตมาดร้าย
ไปจนกระทั่งความอยากมีเกียรติสูงเด่น
อึดอัดเจียนกระดิกไม่ได้ หายใจไม่ออก
แต่จิตก็ยังหลงเขลา เห็นเป็นของสนุก
มัดยิ่งแน่นก็ยิ่งติดใจ

เมื่อจิตที่พ้นกรงแล้ว พยายามสื่อความกับจิตที่ยังติดกรง ติดพันธนาการ
จึงยากจะทำให้เกิดความเข้าใจ สอดประสานกันถนัด
เช่นบอกว่าก่อนอื่นต้องตัดเชือกที่มัดอยู่ทบแล้วทบเล่า
แก้ปมที่ขดขอดซับซ้อนออก
เรียกว่าให้ทาน เช่นทรัพยทาน อภัยทาน และธรรมทาน
เท่านี้ก็ฟังยากเย็นแสนเข็ญ น้อยนักจะเชื่อ
และพยายามแก้เชือกออกตามคำแนะนำ

แต่เมื่อทำได้ ก็เริ่มรู้สึกโล่งไปเปลาะหนึ่ง

ถัดจากนั้นต้องสั่งสมกำลังให้แข็งแรง
โดยถือศีล บำเพ็ญสมาธิ
จนมีศักยภาพสูงพอจะหยิบจับเครื่องมือทำลายกรง
ได้แก่ปัญญาอันคมแข็ง ไม่ต่างจากเลื่อยเหล็กกล้า

การทำลายกรงเพื่อออกมาสูดกลิ่นอิสรภาพถาวรนั้น
ไม่จำเป็นต้องระเบิดทิ้งทั้งกรง
แต่ขอให้รู้ว่าตรงไหนบ้างที่เป็นซี่กรงที่ขวางทางออก
ก็มุ่งเจาะตรงนั้น ทำลายตรงนั้น
เหมือนกับที่เรารู้ว่าองค์ประกอบหนึ่งของอุปาทานได้แก่สัญญา
หากจี้เข้าไปเห็นสัญญาเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตามากๆ
พอจิตคลายจากอาการ "หมายรู้" แต่ละขณะถี่เข้า
ความปล่อยวางถึงที่สุดก็เกิดขึ้นเอง
เหมือนเช่นที่เราเลื่อยซี่กรงจนขาดออกเป็นช่องโหว่
เปิดทางให้ก้าวออกมายังความกว้างขวางภายนอกที่ไม่เคยพบเห็น

ดังนั้นการเริ่มก้าวสู่มรรคผลนิพพาน
จึงไม่ใช่ และไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ภาวนาเก่ง
อาจเป็นผู้แจกเก่ง สละเก่ง อภัยเก่งก็ได้
ขออย่างเดียว รู้ว่าให้ทานไปทำไม ถือศีลไปทำไม นั่งสมาธิไปทำไม
มีความเข้าใจอย่างถูกต้องถ่องแท้ไว้แต่เบื้องต้นเป็นพอ

กลุ่มวิมุตติ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะ ห้าม ไม่ให้มีการคัดลอกข้อความบางส่วนหรือทั้งหมด ไปใช้ใน webboard หรือ กระดานข่าวอื่นโดยมิได้รับ อนุญาตอย่างเป็นทางการ จากทางกลุ่มวิมุตติในทุกกรณี

ความเห็นที่ 1 โดยคุณ risingsun  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 08:39:44

ขอบคุณครับ

โดยคุณ risingsun  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 08:39:44

ความเห็นที่ 2 โดยคุณ พัลวัน   วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 08:56:10

สาธุ

โดยคุณ พัลวัน  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 08:56:10

ความเห็นที่ 3 โดยคุณ ทรายแก้ว  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 11:37:10

ขอบพระคุณมากค่ะ _/|\_

โดยคุณ ทรายแก้ว  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 11:37:10

ความเห็นที่ 4 โดยคุณ สันตินันท์   วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 15:37:05

สาธุครับ คุณดังตฤณ

*****************************************

ผมเคยพิจารณาเรื่องนี้มานานแล้วว่า
ทำไมผู้คนตั้งมากมายจึงหาที่สนใจการปฏิบัติยากนัก
ก็พิจารณาเห็นว่า เพราะส่วนส่วนมากไม่รู้ว่าตนกำลังถูกจองจำอยู่
ไม่รู้ว่า ตนกำลังเป็นทาสอยู่
แต่คิดว่าตนเป็นไทแก่ตัว

เหมือนคนที่เกิดมาติดคุก หรือติดเกาะอยู่สักแห่งหนึ่ง
ไม่เคยรู้จักโลกภายนอก ไม่เคยกระทั่งจะจินตนาการถึงโลกภายนอก
ก็คือว่า โลกมีแค่สิ่งที่ตนรู้เห็นเท่านั้น
เขาย่อมไม่มีความคิด หรือความพยายามที่จะหักกรงขัง หรือหาทางออกจากเกาะนั้น

คนในโลกส่วนมากก็ยอมจำนนอยู่กับโลก เพราะไม่รู้ว่า ยังมีสิ่งนอกเหนือออกไปอีก
เมื่อเกิดมาก็เรียนหนังสือ เรียนจบก็หางานทำ
แล้วก็มีครอบครัว มีลูกหลาน แล้วก็ตายไป
ต่างคนต่างจำเป็นต้องทำตามอย่างคนอื่นๆ
เพราะไม่รู้ว่า ยังมีสิ่งที่ดีๆ อื่นๆ อีกในชีวิตนี้

อนึ่ง คนส่วนมากมีมานะอัตตารุนแรง
รู้สึกว่าตนเองเก่ง แน่ ไม่มีใครบังคับได้
เขาไม่เคยเฉลียวใจเลยว่า ในความจริงแล้ว
เขาตกเป็นทาสของตัณหา ถูกตัณหาควบคุมบังคับสั่งการอยู่แทบทั้งวัน
เพียงแต่นายทาสคนนี้ฉลาดแสนฉลาด
มันปกครองทาสของมันด้วยการทำให้ทาสหลงผิดว่าตนเองเป็นไท
จนทาสบางคนคิดว่าตนเป็นเจ้าโลก
ทั้งที่ถูกเขาจูงจมูกอยู่ต้อยๆ ทั้งวัน

ผู้ได้ฟังธรรมของพระศาสดา
เกิดความรู้ตัวว่าตนติดคุกอยู่ ตนกำลังเป็นทาสอยู่
ก็ย่อมหาทางหนีออกจากที่คุมขัง หนีจากนายทาสผู้ทารุณร้ายกาจ
ที่เลี้ยงทาสไว้เพื่อฆ่าทิ้งตามอำเภอใจเมื่อถึงเวลาหนึ่ง

ธรรมที่กล่าวมานี้จึงสอดรับกับธรรมที่คุณดังตฤณกล่าวไว้
คือจะทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
ก็ต้องรู้ตัวว่าทำเพื่อการปลดแอกตนเอง
เพื่อความเป็นอิสระ เพื่อความหลุดพ้น
เพื่อความดับสนิทแห่งทุกข์หรืออนุปาทาปรินิพพาน

ไม่ใช่เพียงแค่ทำทานตามๆ เขา รักษาศีลตามๆ เขา เจริญภาวนาตามๆ เขา
เหมือนที่เรียน ทำงาน มีครอบครัว เลี้ยงลูกหลาน
แล้วก็ตายตามๆ เขามานับภพนับชาติไม่ถ้วนนั่นเอง


โดยคุณ สันตินันท์  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 15:37:05

ความเห็นที่ 5 โดยคุณ มาตา  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 15:40:58

สาธุ ขอบพระคุณมากค่ะ

โดยคุณ มาตา  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 15:40:58

ความเห็นที่ 6 โดยคุณ ทรงศักดิ์   วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 18:02:46

  
เห็นด้วย ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 7 โดยคุณ risingsun  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 19:10:27

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 8 โดยคุณ Mike   วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 20:35:58

ขอบพระคุณมากครับ

โดยคุณ Mike  วัน อาทิตย์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2542 20:35:58

ความเห็นที่ 9 โดยคุณ หลังเขา  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 09:13:09

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 10 โดยคุณ นิดนึง   วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 09:30:29

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 11 โดยคุณ MaledPoe  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 09:35:49

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 12 โดยคุณ LEK   วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 09:50:28

  
เห็นด้วย ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 13 โดยคุณ มะขามป้อม  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 10:57:19

สัมมาทิฏฐิมาก่อนในองค์มรรคทั้งหมด
พี่ดังตฤณกล่าวชอบแล้ว สาธุ


โดยคุณ มะขามป้อม  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 10:57:19

ความเห็นที่ 14 โดยคุณ โยคาวจร   วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 11:19:00

เคยเขียนไว้เมื่อ 10 ปี ที่แล้ว
------------------------------------
ดวงตะวันหลบลับเหลี่ยมตึกไปนานแล้ว
นกกาก็ยังไม่บินกลับรัง
บนท้องถนน ร้านรวง ป้ายรถเมล์
ก็ยังสับสนไปด้วยฝูงคน
ทุกชีวิตดิ้นรนกันไปเพื่ออะไร
เพื่อความอยู่รอด มีกินไปวันๆ
หรือเพื่อสะสมเอาไว้ยามแก่เฒ่า
แค่นี้หรือ สำหรับชีวิตทุกชีวิต
เมื่อตอนเป็นเด็กถูกสอนให้เรียนรู้
สอนให้เดิน ให้พูด ให้เขียน เรียนหนังสือ
หมดเปลืองเวลาไปกับกฎเกณฑ์เหล่านี้ไปเกือบครึ่งชีวิต
ก็เพียงเพื่อต้องการมีงานทำ
มีเมีย แล้วก็มีลูก
สอนให้เขาเดิน ให้เขาพูด ให้เขาเขียน เรียนหนังสือ
ให้เขาดำเนินชีวิตไปตามแบบอย่างของสังคม
ส่วนเราก็แก่เฒ่าลง
สุกงอม พร้อมที่จะหล่น
หมดเปลืองเวลาไปกับกฎเกณฑ์เหล่านี้ไปอีกครึ่งชีวิต
ทุกคนต่างดำเนินไปตามครรลองแห่งวัฏฏะหรือ?


โดยคุณ โยคาวจร  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 11:19:00

ความเห็นที่ 15 โดยคุณ แมวแก่  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 13:29:51

ขอบคุณมากครับ พี่ดังตฤณ _/|\_
ผมจะน้อมรับไปปฏิบัติครับ :-)


โดยคุณ แมวแก่  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 13:29:51

ความเห็นที่ 16 โดยคุณ ทองจันทร์   วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 17:59:20

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 17 โดยคุณ นุดี  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 19:18:21

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 18 โดยคุณ glory   วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 07:35:09

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 19 โดยคุณ นนทรี  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 08:18:46

  
เห็นด้วย ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 20 โดยคุณ กระต่าย   วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 08:46:25

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 21 โดยคุณ ทองคำขาว วัน เสาร์ ที่ 20 พฤศจิกายน 2542 10:24:33

สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 22 โดยคุณ บอยเอง วัน เสาร์ ที่ 20 พฤศจิกายน 2542 17:20:25

ขอบพระคุณมากครับ.

โดยคุณ บอยเอง วัน เสาร์ ที่ 20 พฤศจิกายน 2542 17:20:25

ความเห็นที่ 23 โดยคุณ Lee วัน อาทิตย์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2542 19:12:17

สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 24 โดยคุณ kobe วัน พุธ ที่ 15 ธันวาคม 2542 21:58:29
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 25 โดยคุณ ณภัทร วัน อังคาร ที่ 28 ธันวาคม 2542 21:36:53
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 26 โดยคุณ dolphin วัน จันทร์ ที่ 24 มกราคม 2543 12:33:23
สาธุ ครับ / ค่ะ

ติดต่อกลุ่มวิมุตติได้ที่ wimutti@hotmail.com