กลับสู่หน้าหลัก

การปฏิบัติสายพระป่า

โดยคุณ นิดนึง  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 09:36:38

คำสอนอันเดียวกัน
แต่ผู้รับไปปฏิบัติต่างกัน ด้วยจริตนั้นต่างกัน
แต่ธรรมแท้นั้นย่อมลงเป็นอันเดียวกัน
เราจะพบว่าทำไม ผู้ปฏิบัติสายพระป่านั้น
ท่านไม่มีการสอบอารมณ์
อาจทำให้มีผู้เกิดความสงสัยว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไร
ว่าที่ปฏิบัติไปนั้น ผิดหรือถูก

ตรงนี้ต้องขอยกตัวอย่างการปฏิบัติอย่างเซ็น
ที่ว่า ไปข้างหน้าก็ผิด ถอยหลังก็ผิด อยู่เฉยๆ ก็ผิด
แล้วมันคืออะไร มันก็คือสิ่งที่อยู่ในระหว่างสิ่งทั้งหลาย
เหล่านั้นเอง อยู่ตรงนั้นไม่หนีไปไหน พิจารณาเข้าไปเรื่อยๆ
เพื่อให้จิตนั้นเห็นจิต นี่แหละการพิจารณาจิตในจิต
ธรรมนั้นอยู่ตรงหน้า หากแต่เราตาบอดจึงมองไม่เห็น
เมื่อเราสามารถลดฝ้าฟางในดวงตาลงได้ ก็มีโอกาส
เห็นธรรมที่อยู่ตรงหน้านี้เอง

การปฏิบัติที่เป็นระหว่างทางเดินเพื่อการประชุมพร้อม
ของอัฎฐังคิกมรรคนั้น ผู้ปฏิบัติแต่ละท่านย่อมเห็นแตกต่าง
กันไปบ้างตามแต่จริตนิสัยเดิมที่เป็นมา
ผลของการปฏิบัติ ที่ท่านกล่าวไว้ว่าเป็นเจโตวิมุติบ้าง
หรือเป็นปัญญาวิมุติบ้างนั้น เมื่อก้าวไปสู่หนทางนั้น
เมื่อเริ่มก้าว ผู้ที่มาทางปัญญาวิมุติเป็นสิ่งนำทาง
มักจะไม่พบกับสิ่งใดเลย หรืออย่างที่กล่าวถึงการปฏิบัติ
แบบที่เรียกว่าสุกขวิปัสสโก จะว่าง่ายก็ง่ายที่สุดในตำรา แต่ว่า
ยากก็คงยากเหมือนกัน เพราะผู้ปฏิบัตินั้นไม่ทราบเลยว่า
ตัวเองได้รับผลจากการปฏิบัติหรือไม่ ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาเดินไป
ไม่เหมือนผู้ที่มีเจโตฯ นำทาง ได้พบของเล่นมากมายเพลิดเพลิน
ไปก็มี แต่อย่างน้อย ท่านก็ได้รับรู้ถึงสิ่งที่มหัศจรรย์กับจิตใจตัวเอง
หรือเห็นเป็นรูปธรรมเลยก็ยังมี

เป็นที่เกิดขึ้นกับตัวผู้ปฏิบัติ ที่เรียกว่าปัจจัตตัง
อาการเกิดองค์ธรรมความรู้นั้น หากมีการเปรียบเทียบ
กันแล้ว ย่อมเกิดความผิดพลาดได้ง่าย
เพียงเราดูแล้วพิจารณา ความลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ เรามอง
ไม่เห็นด้วยว่านี่คืออวิชชาที่ปิดบังอยู่นั่นเอง


แต่ถ้าไม่เปรียบเทียบ
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าถูกต้อง การอ้างว่าเป็นปัจจตังนั้น
อาจเป็นการกล่าวโดยโคมลอยก็ได้

แต่ความจริงนั้น สิ่งที่ตัวผู้ปฏิบัติเองที่จะต้องช่วยตัวเอง
อย่างที่พระพุทธองค์กล่าวว่า อัตตาหิ อัตตโน นาโถ นั้นก็คือ
ตรงนี้นี่เอง เราต้องหมั่นโยนิโสมนสิการ คือน้อมเข้ามา
เข้ามาพิจารณาภายใน สำคัญว่าต้องหมั่นพิจารณาด้วย
จิตที่เป็นกลาง คือจิตสมาธิ ที่มีสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์
มองให้เห็นความเป็นไตรลักษณ์เสมอ เช่นว่า แม้เราจะพบ
องค์ธรรมใดเข้ามาในจิต เมื่อรับรู้แล้ว ก็ควรวาง ควรมอง
ให้เห็นเป็นสติปัฏฐานในองค์ธรรมนั้นๆ

กลุ่มวิมุตติ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะ ห้าม ไม่ให้มีการคัดลอกข้อความบางส่วนหรือทั้งหมด ไปใช้ใน webboard หรือ กระดานข่าวอื่นโดยมิได้รับ อนุญาตอย่างเป็นทางการ จากทางกลุ่มวิมุตติในทุกกรณี

ความเห็นที่ 1 โดยคุณ LEK  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 09:52:04

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 2 โดยคุณ พัลวัน   วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 11:17:25

ปัญหานี้ ผมเคยพบ และจนใจอยู่นานครับ แต่ในท้ายที่สุด ก็อดระลึกถึงธรรมอันเป็นปฐมสูตรเลยไม่ได้ คือ ธรรมจักกัปวัตนสูตร

ผมมองว่า ลำพังเพียงธรรมจักกัปวัตนสูตร ก็เป็นสิ่งที่เพียงพอที่ใช้กำกับการพิจารณาธรรม (สำหรับผม) ได้แล้ว หากจะให้ละเอียดอีกนิด ก็ต้องเพิ่ม อนัตตลักขณสูตร เข้าไปด้วย

ด้วยเห็นว่า หากมีความเห็น หรือเห็นธรรมที่ผิดไปจากนี้ ก็ผิดแล้วเป็นสำคัญ หากเห็นคล้อยตาม ก็หมั่นพิจารณาไปให้แยบคาย ถ่องแท้ เป็นสำคัญ

ความเห็นของผม มีเพียงเท่านี้ครับ


โดยคุณ พัลวัน  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 11:17:25

ความเห็นที่ 3 โดยคุณ เมล็ดโพธิ์  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 12:30:36

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 4 โดยคุณ ทองจันทร์   วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 18:04:44

นึกหาคำพูดใดที่จะเอ่ยที่จะครอบคลุมกว่าคำว่า สาธุ ไม่มีครับ ขอบคุณครับน้านิด

โดยคุณ ทองจันทร์  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 18:04:44

ความเห็นที่ 5 โดยคุณ ทรายแก้ว  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 19:36:24

สาธุค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

โดยคุณ ทรายแก้ว  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 19:36:24

ความเห็นที่ 6 โดยคุณ สันตินันท์   วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 19:39:15

ธรรมที่ออกมาจากจิตใจ เป็นธรรมที่น่าฟัง
และเมื่อฟังแล้วก็ได้ทั้งรสธรรมและความสงบเย็น
แต่ถ้าฟังแล้วนำไปคิด
บางที สิ่งที่รู้สึกว่าเข้าใจง่าย กลับจะกลายเป็นสิ่งที่เข้าใจยากก็ได้

ธรรมแท้ไม่มีอะไรให้ต้องพูดมาก
เพราะสิ่งที่พูดได้ ล้วนแล้วแต่เป็นของสมมุติทั้งนั้น
แต่เราก็จำต้องอาศัยสมมุติ เป็นสื่อในการถ่ายทอดธรรม

วิธีการสอนของเซ็น เป็นวิธีการที่โดดเด่นในตัวเอง
สิ่งที่เซ็นกล่าว ไม่ใช่สิ่งที่เซ็นต้องการ
จำเป็นที่เราต้องเพิกสมมุติทิ้ง จึงจะเข้าใจเนื้อธรรมที่เซ็นต้องการสื่อ

ที่คุณนิดนึงกล่าวถึงคำสอนแบบเซ็นมานั้น ก็น่าฟังมาก
เช่น ไปข้างหน้าก็ผิด ถอยหลังก็ผิด อยู่เฉยๆ ก็ผิด
แล้วอย่างนี้ จะให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจได้อย่างไรว่า สิ่งที่ถูกคืออะไร
เพราะไม่เหลือช่องทางอะไรให้คิดมากกว่านี้อีกแล้ว
ยิ่งคิด ก็ยิ่งสับสน ยิ่งพยายาม ก็ยิ่งห่างไกลจากธรรม

ผมเข้าใจว่า เซ็นต้องการให้ผู้ปฏิบัติปล่อยวางความคิดเรื่อง ผิด และ ถูก
คือปล่อยวางสิ่งที่เป็นคู่ทั้งหลาย อันเกิดจากความคิดของตน
เพื่อรู้จักสิ่งที่พ้นจากความเป็นคู่ หรือรู้จักสิ่งที่เป็นสิ่งเดียวรวด
ซึ่งจะรู้ได้ด้วยการ รู้ ไม่ใช่ด้วยการ คิด
เพราะความคิดเป็นที่มาของ ตัณหา และ ทิฏฐิ
อันชักพาให้จิตท่องเที่ยวอยู่ในโลกสมมุติอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ขอยกตัวอย่างจากคำสอนของหลวงพ่อชา สุภัทโท สักเรื่องหนึ่ง
คือคราวหนึ่ง หลวงพ่อชา ท่านชูไม้เท้าของท่านให้ญาติโยมดู
แล้วถามว่า ไม้นี้สั้น หรือยาว
ญาติโยมบ้างก็บอกว่าสั้น บ้างก็ว่ายาว
ท่านจึงอธิบายให้ฟังในทำนองว่า
ไม้เท้านี้มันไม่สั้น และไม่ยาว มันเป็นของมันอยู่อย่างนี้แหละ
แต่คนที่ต้องการไม้ยาว ก็รู้สึกว่าไม้นี้สั้นไป
ส่วนคนที่ต้องการไม้สั้น ก็จะรู้สึกว่า ไม้นี้ยาวเกิดไป

ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งต่างๆ ก็เป็น อย่างที่มันต้องเป็นนั่นแหละ
แต่ตัณหาและทิฐิ ทำให้จิตก่อภพก่อชาติไม่หยุดหย่อน
เมื่อใดเข้าใจว่า สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา
จิตจะสักแต่ว่ารู้สิ่งนั้นเท่านั้น
ตัณหา และทิฏฐิก็ไม่เข้ามาครอบครองเป็นนายเหนือจิต
เมื่อถึงจุดนั้น ก็ไม่ต้องถามต่อไปแล้วว่า
อะไร จะเป็นอะไร ต่อไปอีก


โดยคุณ สันตินันท์  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 19:39:15

ความเห็นที่ 7 โดยคุณ มาตา  วัน จันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2542 20:21:10

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 8 โดยคุณ นิดนึง   วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 08:36:46

สาธุค่ะ พี่สันตินันท์
พี่อธิบายธรรมได้แจ่มแจ้งแทงตลอดจริงๆ ค่ะ
ธรรมแท้เป็นเช่นนั้นเอง
กระทำสิ่งที่ยากให้กลายเป็นสิ่งที่ง่าย
เรื่องเซ็นนั้น คนหลายคนก็เข้าใจไปต่างๆ
แต่ที่น่าแปลกก็ตรงที่ว่า เซ็นกับพระป่านั้น
ท่านกล่าวเหมือนกัน ถ้าเข้าใจอนัตตาได้
ก็เข้าใจเซ็นได้ไม่ยากค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ
_/I\_ _/I\_ _/I\_


โดยคุณ นิดนึง  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 08:36:46

ความเห็นที่ 9 โดยคุณ มะขามป้อม  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 08:53:44

เห็นด้วยครับ
ธรรมแท้ไม่มีในโลก
(เช่นเดียวกับคำกล่าวที่ว่า พระอรหันต์ไม่มีในโลก)
หากแต่อยู่เห็นโลก อยู่เหนือ ดี-ชั่ว ถูก-ผิด
อยู่เหนือความคิด หมายมั่นทั่งปวง
ยิ่งแสวงหายิ่งไม่พบ จะพบต้องอยุดแสวงหา
ช่างประหลาดจริงๆ

น้ำยังคงเป็นนำ้
นกยังคงเป็นนก
คนยังคงเป็นคน
สรรพสิ่งยังคงเป็นสรรพสิ่ง
ความจริงก็คือความจริง แสดงตนอย่างเปิดเผยตลอดเวลา
แต่สิ่งที่บิดเบือนความจริงกลับเป็นใจเราเอง


โดยคุณ มะขามป้อม  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 08:53:44

ความเห็นที่ 10 โดยคุณ มะขามป้อม   วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 08:56:02

แก้ครับ ตัวหนังสือมันเล็กเลยมองไม่เห็น
หากแต่อยู่เห็นโลก--> หากแต่อยู่เหนือโลก  


โดยคุณ มะขามป้อม  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 08:56:02

ความเห็นที่ 11 โดยคุณ กระต่าย  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 09:13:15

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 12 โดยคุณ สันตินันท์   วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 12:47:57

ใครสนใจเรื่องเซ็น ก็ควรทราบว่า
กลุ่มเพื่อนๆ ที่ชำนาญในเรื่องเซ็น มีหลายท่าน
เช่นคุณ WhitSpirit และคุณ Huaping
ใครอยากรู้เรื่องเซ็นลึกๆ ก็ควรขอความรู้จากท่านเหล่านี้

พระป่ากับเซ็นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่สอดคล้องกันอย่างน่าอัศจรรย์
เคยมีการตั้งข้อสังเกตกันในห้องสมุดไว้ว่า
พระป่าท่านถือธุดงควัตร โดยมี ท่านพระมหากัสสปะ เป็นแม่แบบ
ส่วนเซ็นนั้น ก็สืบสายไปจาก ท่านพระมหากัสสปะ เช่นเดียวกัน

ผมเองนับแต่ปฏิบัติจริงจังมานี้
อ่านธรรมะของเซ็นแล้ว จะเกิดความร่าเริงใจเป็นอย่างมาก
มากกว่าอ่านตำราชั้นหลังของเถรวาทเสียอีก
เพราะรู้สึกว่าคำสอนของเซ็นมีชีวิตจิตใจ
มุ่งเข้าสู่จิตใจอย่างตรงไปตรงมา
อ่านแล้วสัมผัสถึงความปล่อยวางได้เสมอๆ
ในขณะที่ตำราชั้นหลังตั้งมากมายของเรานั้น
อ่านแล้วได้ความจำอันแห้งแล้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อันนี้ไม่ใช่ว่าตำราของเราไม่ดี
เพียงแต่ไม่ถูกจริตของผมเท่านั้นเอง


โดยคุณ สันตินันท์  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 12:47:57

ความเห็นที่ 13 โดยคุณ พัลวัน  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 13:40:25

ได้อ่านกระทู้นี้ มีความเริงร่าในใจอย่างที่สุด หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งจริงๆครับ (คุ้มค่ากับแรงที่ได้ลงไปในการทำวิมุตติจริงๆครับ)

ขอแสดงสาธุการต่อท่านผู้รู้ที่ได้แสดงธรรมเป็นอย่างยิ่งครับ

<(::^ L ^::)>
____/|\____
สาธุ



โดยคุณ พัลวัน  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 13:40:25

ความเห็นที่ 14 โดยคุณ ทองคำขาว   วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 16:22:13

_/|\_ ชื่นใจครับชื่นใจ สาธุธรรมครับ

ช่วงออกแบบ โปรแกรม ที่ต้องมีการ Test แล้ว Test อีก
ซึ่งใช้เวลาและความพยายามทั้งนั้น
อนุโมทนากับพี่พัลวันด้วยครับ


โดยคุณ ทองคำขาว  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 16:22:13

ความเห็นที่ 15 โดยคุณ นุดี  วัน อังคาร ที่ 9 พฤศจิกายน 2542 18:35:55

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 16 โดยคุณ มวยวัด   วัน พุธ ที่ 10 พฤศจิกายน 2542 07:35:35

  
สาธุ ครับ / ค่ะ
  

ความเห็นที่ 17 โดยคุณ สันตินันท์  วัน พุธ ที่ 10 พฤศจิกายน 2542 08:12:13

วิมุติ สำเร็จขึ้นมาได้ด้วยความริเริ่ม
และการลงทุนลงแรงของคุณพัลวันโดยแท้
แรกทีเดียวคุยกันทาง ICQ
ผมก็ปรารภว่าผู้ปฏิบัติจริงๆ นั้น
ไม่สามารถคุยกันในเวทีเปิดได้ เพราะเกิดข้อขัดแย้งมากเหลือเกิน
และจะให้ผู้ปฏิบัติไปถกเถียงกับผู้อื่นนั้น
แม้จะเถียงได้เพราะมีหลักฐานพร้อมทั้งด้านปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ
แต่ก็ไม่น่าเบิกบานที่จะทำเช่นนั้น

คุณพัลวันจึงเสนอว่า จะสร้างที่สนทนาธรรมแห่งใหม่
แล้วลงมือทำทันที โดยความสนับสนุนของคุณโจโจ้ และคุณ glory
ในเวลาไม่นานนัก ก็เกิด วิมุติ ขึ้นมา
เป็นสถานที่จำเพาะสำหรับเพื่อนผู้ปฏิบัติที่รู้จักมักคุ้นกันแล้วเท่านั้น

ขออนุโมทนากับผู้เกี่ยวข้องทุกท่านครับ


โดยคุณ สันตินันท์  วัน พุธ ที่ 10 พฤศจิกายน 2542 08:12:13

ความเห็นที่ 18 โดยคุณ บัวใต้น้ำ วัน ศุกร์ ที่ 19 พฤศจิกายน 2542 08:43:55

สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 19 โดยคุณ พุทธบุตร วัน ศุกร์ ที่ 19 พฤศจิกายน 2542 13:10:03

สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 20 โดยคุณ ทรงศักดิ์ วัน ศุกร์ ที่ 19 พฤศจิกายน 2542 23:08:30

สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 21 โดยคุณ ทรงศักดิ์ วัน ศุกร์ ที่ 19 พฤศจิกายน 2542 23:10:40

สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 22 โดยคุณ นายสงบ วัน พฤหัสบดี ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2543 14:22:31
สาธุ ครับ / ค่ะ

ติดต่อกลุ่มวิมุตติได้ที่ wimutti@hotmail.com