กลับสู่หน้าหลัก

จิตตสังขาร: ปีติ-สุข

โดยคุณ มะขามป้อม วัน พฤหัสบดี ที่ 9 มีนาคม 2543 09:43:39

กำลังพิมพ์เรื่องอานาปานสติของท่านอาจารย์พุทธทาสครับ
เห็น บอร์ดเงียบๆ อยู่ ก็เลยตัดตอนบางส่วนมาให้อ่านกัน
อยู่ในหมวดเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานครับ ถ้าจะอ่านกันเต็มๆ
ก็อ่านที่ www.thai.net/b-kernel แต่หมวดจิตกับหมวดธรรม
ยังไม่เสร็จ เอาไว้เสร็จแล้วจะเอา High light มาให้อ่านกันอีกครับ
(ท่านบรรยายให้ชาวต่างชาติฟังเลยมีภาษาอังกฤษแทรกมาเป็นระยะๆ ครับ)

...
ขั้นที่ ๗ กำหนดรู้จิตตสังขาร

ทีนี้ก็มาถึงข้อปฏิบัติอันดับที่ ๗ คือ จิตตสังขาร ถ้าเราประสบความสำเร็จในขั้นที่ ๖ แล้ว
เราก็รู้แล้วว่า ปีติเกิดขึ้นทำให้จิตเป็นอย่างไร ความสุขเกิดขึ้นทำให้จิตเป็นอย่างไร
ปีติปรุงให้เกิดความคิดชนิดไหน ความสุขปรุงให้เกิดความคิดชนิดไหน เรากำหนดรู้มาได้แล้ว
ตั้งแต่ในขั้นที่ ๕ ขั้นที่ ๖ พอมาถึงขั้นที่ ๗ นี่มันก็ง่ายนิดเดียวที่จะมองเห็นว่า โอ้ ปีติและสุข
ซึ่งรวมแล้วเรียกว่าเวทนานี่ มันเป็น mind conditioner ในลักษณะเดียวที่ลมหายใจเป็น
body conditioner ต่างกันแต่อันนี้เป็น mind conditioner แต่มีวิธีการศึกษาและสังเกต
อย่างเดียวกัน

เราสังเกตเห็นได้เลยว่า ปีติเป็นของหยาบหรือไม่สงบ ความสุขเป็นของละเอียดและสงบ
ดังนั้น เมื่อปีติปรุงความคิดเป็น thought อะไรขึ้นมา มันก็จะมีลักษณะหยาบ
เมื่อความสุขปรุงความคิดอะไรขึ้นมา มันก็มีลักษณะละเอียด นี่เราเห็นได้ว่ามันปรุงแต่งให้เกิด
ความคิดด้วย แล้วมันยังปรุงแต่ง ให้เกิดความคิดที่หยาบ กับความคิดที่ละเอียดได้ด้วย
นี่อาการที่เรียกว่าปรุงแต่งจิต

ปีติ ถ้าเป็นไปอย่างรุนแรง มันก็ทำให้เกิดการสั่น สั่นไปที่ร่างกาย ทีนี้ถ้าแรงมากมันอาจจะทำให้
กระโดดโลดเต้นได้ มันหยาบและมันรุนแรงอย่างนี้ ส่วนความสุขนั้นมันหยุด สงบระงับ นิ่งลง
นี่เรารู้จักว่ามันต่างกันมากอยู่ในลักษณะอย่างนี้ ถ้าว่าปีติครอบงำ จิตของเราอยู่ เราจะมีความคิด
อย่างละเอียดไม่ได้ มันจะทำให้ขนลุกไปทั้งตัว รู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัว เราจึงต้องควบคุมมันให้ได้
แต่ถ้าว่าความสุขมันกลับมีประโยชน์ มันทำให้เกิดความสงบระงับ ละเอียดประณีตได้
มันเป็นคล้ายๆ กับมันเป็นข้าศึกต่อกันและกันอยู่ แต่แล้วก็ไม่เป็นไร เพราะเรารู้จักควบคุมมัน
สามารถจะควบคุมมันได้โดยการฝึกตามวิธีที่เรากำลังฝึกอยู่นี้ นี่เรียกว่า รู้จักจิตตสังขาร
พอสมควรแล้ว

ปีติและสุข : คู่ขัดแย้งที่มาด้วยกัน

แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังจะต้องสังเกตให้รู้ความลับอีกอย่างหนึ่งว่า สองอย่างนี้มันต้องมาด้วยกัน
คือว่าถ้าเราไม่มีความพอใจแล้ว ความสุขเกิดไม่ได้ ความพอใจทำให้เกิดความสุข ความสุข
เกิดมาจากความพอใจ ความพอใจนี่คือพวกปีติละ มันเป็นพวกกระตุ้น แต่ความสุขนี่มันเป็น
พวกสงบระงับ แต่แล้วเราจะมีความสุขไม่ได้ โดยที่ไม่มีความพอใจ ท่านจะสังเกตเห็นได้ว่า
ในกรณีอะไรก็ตามที จะมีความสุขแล้ว ความพอใจต้องมาก่อนเสมอ ความพอใจมันนำหน้า
ปีติมันนำหน้า พอประสบความสำเร็จก็พอใจ ก็กำเริบหรือ disturb ไปตามเรื่อง พอสิ้นกำลัง
ของความพอใจนั้นแล้วมันก็เหลืออยู่เป้นความสุข มันก็สงบระงับลง มันเป็นเกลอกัน ทั้งในทางที่
มันขัดแย้งต่อกัน และมันก็เป็นเกลอกันในทางที่มันต้องมาด้วยกัน มันต้องมีความพอใจก่อน
แล้วมันจึงจะมีความสุข ต้องรู้จักระวังให้ดี จะต้องกระทำต่อมันในลักษณะที่ประณีตละเอียดอย่างยิ่ง
เหมือนกับว่าเป็น art อย่างหนึ่งเหมือนกัน เป็น spiritual art ที่จะควบคุมปีติและควบคุมความสุข
ให้มีผลดีแก่ชีวิตของเรา เราจงรู้จักความจริงหรือความลับเกี่ยวกับปีติและสุขกัน ในลักษณะอย่างน้

ีเท่าที่พบมาแล้วปรากฏว่า ปีติเป็นข้าศึกแก่วิปัสสนา สุขไม่เป็นข้าศึกแต่เป็นสหาย เป็นผู้ส่งเสริม
วิปัสสนา เมื่อเราต้องการจะมีจิตละเอียด จนเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โดยวิปัสสนานั้น
ถ้าจิตเกิดปีติแล้วมันฟุ้งซ่าน มือคลุ้มไปหมด ดังนั้นต้องขจัดปีติออกไป ปีติเป็นข้าศึกแก่วิปัสสนา
คือการเป็นแจ้งทางจิตโดยละเอียด แต่ความสุขไม่เป็นอย่างนั้น ความสุขทำให้เกิดความสงบระงับ
ทำจิตให้พร้อม ให้ active ให้ ready ต่อการที่จะมีวิปัสสนา โดยเหตุนี้เราจึงต้องเป็นผู้สามารถ
ควบคุมปีติและควบคุมความสุขให้ได้

ในที่สุด เราก็จะเห็นได้ว่า เวทนาคือปีติและสุขนี้เป็น mind conditioner ถ้าปีติปรุง จิตก็หยาบ
ความคิดของจิตก็หยาบ หยาบทั้งตัวจิตและตัวความคิด ถ้าสุขปรุงหรือช่วยเป็น support
จิตก็ละเอียดและสงบ ความคิดก็ละเอียดและสงบ มันเป็นของปรุงจิตด้วยกันแต่คนละแง่
นี่ละเป็นอันสรุปความว่า เวทนาเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต จึงได้ชื่อว่า mind conditioner (จิตตสังขาร)

เมื่อเราพบความจริงอย่างนี้แล้ว เราก็กำหนดความจริงอย่างนี้อยู่ในใจทุกครั้งที่หายใจออก
และหายใจเข้า หายใจออกหายใจเข้า อยู่ด้วยการ convince ต่อความจริงนี้
นี่คือการปฏิบัติในขั้นที่ ๗
โดยคุณ มะขามป้อม วัน พฤหัสบดี ที่ 9 มีนาคม 2543 09:43:39

กลุ่มวิมุตติ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะ ห้าม ไม่ให้มีการคัดลอกข้อความบางส่วนหรือทั้งหมด ไปใช้ใน webboard หรือ กระดานข่าวอื่นโดยมิได้รับ อนุญาตอย่างเป็นทางการ จากทางกลุ่มวิมุตติในทุกกรณี

ความเห็นที่ 1 โดยคุณ dolphin วัน ศุกร์ ที่ 10 มีนาคม 2543 08:15:14
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 2 โดยคุณ สันตินันท์ วัน ศุกร์ ที่ 10 มีนาคม 2543 11:27:26
ช่วงนี้งานมากครับ ไม่ค่อยมีเวลาเขียนกระทู้
นอกจากนี้ ยังเข้าวิมุตติไม่ค่อยได้ พอเข้าได้ก็ส่งข้อความไม่ค่อยได้อีก
ถึงอย่างไรก็ต้องขอขอบคุณ คุณมะขามป้อม
ที่นำธรรมะของท่านอาจารย์พุทธทาสมาแบ่งกันอ่าน
ในยามที่วิมุตติค่อนข้างจะเงียบสงัด
โดยคุณ สันตินันท์ วัน ศุกร์ ที่ 10 มีนาคม 2543 11:27:26

ความเห็นที่ 3 โดยคุณ พัลวัน วัน ศุกร์ ที่ 10 มีนาคม 2543 13:57:07
คิดว่า ผมจะหาทางย้าย script ไปไว้ที่อื่นครับ ที่สามารถจะ run ได้ครับ จะลองหาดูก่อนนะครับ
โดยคุณ พัลวัน วัน ศุกร์ ที่ 10 มีนาคม 2543 13:57:07

ความเห็นที่ 4 โดยคุณ นกเอี้ยง วัน เสาร์ ที่ 11 มีนาคม 2543 11:06:00
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 5 โดยคุณ นกเอี้ยง วัน เสาร์ ที่ 11 มีนาคม 2543 11:06:33
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 6 โดยคุณ ธาตุธรรม วัน พุธ ที่ 22 มีนาคม 2543 14:22:36
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 7 โดยคุณ ปิ่น วัน พฤหัสบดี ที่ 23 มีนาคม 2543 16:57:48
ไม่ออกความเห็น ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 8 โดยคุณ ปิ่น วัน พฤหัสบดี ที่ 23 มีนาคม 2543 16:58:57
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 9 โดยคุณ listener วัน อังคาร ที่ 6 มิถุนายน 2543 19:22:47
สาธุ ครับ / ค่ะ

ติดต่อกลุ่มวิมุตติได้ที่ wimutti@hotmail.com