กลับสู่หน้าหลัก

ไม่เจตนา-เจตนา-ไม่เจตนา

โดยคุณ มะขามป้อม วัน พฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม 2543 11:10:33

เคยปรารภกับพี่ปราโมทย์ว่าจะเลิกเขียนธรรมสักพัก แต่ก็บังเอิญ จิตไปนึกถึงธรรม
ที่เคยเขียนเอาไว้ว่ายังเขียนไม่หมด ยังมีข้อสังเกต อื่นๆ อีก จึงขอกล่าวเพิ่มเติม
เพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และเกิดประโยชน์ที่ควรจะเกิดแก่เพื่อนๆ ต่อไปครับ

ผมได้เขียนบทความแรกสุดซึ่งแสดงถึงความสนใจศึกษาปฏิบัติของผมในปัจจุบัน
ในเรื่อง สังขาร:ธรรมที่ใกล้ชิดอวิชชา ในบทความนั้นได้แจกแจงความคิด
ว่ามีหลายลักษณะ และนำไปสู่เรื่องของเจตนา อันเป็นตัวความคิดในชั้นที่ละเอียด
สำหรับกระทู้นี้จะได้นำเสนอเรื่องของเจตนาต่อไปในรายละเอียด ตั้งแต่เบื้องต่ำ
ไปจนสูงสุด โดยจะบรรยายธรรมตามสิ่งที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติธรรม ดังนั้นอาจเป็น
ไปได้ที่ผมใช้สมมุติบัญญัติ ที่ไม่สอดคล้องกับปริยัติ ก็ขอให้เก็บเอาเฉพาะอรรถะ
ที่เป็นประโยชน์เพื่อเปรียบเทียบกับ การปฏิบัติของตนก็แล้วกันครับ

ลักษณะของเจตนาในการปฏิบัติธรรมแต่ละขั้นสามารถจำแนกได้ดังนี้
1. ไม่เจตนา ในความหมายของไม่ตั้งใจ ไม่มีสติสัมปชัญญะ อันนี้เป็นปกติธรรมดา
ของผู้ไม่ได้ปฏิบัติสติปัฏฐาน หรือปฏิบัติอยู่ แต่จิตตกจากภูมิวิปัสนา สังเกตได้ง่าย
คือตัวความคิด หรือคำพูดจะคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยอย่าง ไม่มีตั้งใจจะคิด ทั้งนี้ก็เพราะ
ความคิด เป็นผล ของจิตที่มีอวิชชา คือมีความไม่รู้ ตามความเป็นจริงของ
ธรรมชาติ

2. เจตนา ในความหมายของการมีสติสัมปชัญญะ สติสัมปชัญญะเป็น เครื่องมือ
ในการปฏิบัติธรรม เป็นธรรมที่อยู่ตรงข้ามกับกิเลส เราใช้สติสัปชัญญะในการรบ
กับกิเลส ดังนั้นเจตนาในข้อนี้จึงเป็นธรรมที่อยู่ตรงข้ามกับไม่เจตนา
ในข้อแรก เหมือนกับความดีที่อยู่ตรงข้ามกับความชั่ว

3. ไม่เจตนา เป็นไม่เจตนาในความหมายสูงสุด เมื่อจิตได้ไต่สวนความเป็นไตรลักษณ์ของ
ธรรม จนเห็นแจ้งแล้ว เห็นอารมณ์แยกต่างหากจากจิต เมื่อเห็นอารมณ์ ก็เห็นจิตที่เฝ้ารู้
อารมณ์อยู่ด้วย ถึงตรงนี้ จิตก็จะตัดสินในตัวเองว่าจะไม่ร่วมหอลงโลงกับขันธ์ที่ยึดมั่นมาตลอด
อีกต่อไป และหลุดร่อนออกจากขันธ์ที่ยึดอยู่ ไม่มีเจตนาที่จะเฝ้าดูธรรมต่างๆ อีกต่อไป
เพราะธรรมต่างๆ ปรากฏให้เห็นอยู่แล้ว อยู่เหนือดีเหนือชั่ว ไม่เจตนาในข้อนี้ต่างจาก
ไม่เจตนาในข้อแรกตรงที่ ไม่เจตนาในข้อนี้มีความรู้แจ้ง(วิชชา) ส่วนไม่เจตนาในข้อแรก
มีความไม่รู้แจ้ง(อวิชชา) ในธรรมชาติ ธรรมดาตามที่เป็นจริง


เมื่อผู้ปฏิบัติรู้แจ้งแล้ว ก็คือรู้ไปเลยจะเกิดความไม่รู้อีกไม่ได้ เหมือนกับที่เราลืมตามองเห็นแล้ว
ก็จะบอกว่า มองไม่เห็นไม่ได้ นี่จึงเป็นคำอธิบายได้ว่า ผู้ตกกระแสแห่งพระนิพพานแล้ว
ย่อมไหลไปสู่พระนิพพานอย่างไม่ย้อนกลับมา
โดยคุณ มะขามป้อม วัน พฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม 2543 11:10:33

กลุ่มวิมุตติ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะ ห้าม ไม่ให้มีการคัดลอกข้อความบางส่วนหรือทั้งหมด ไปใช้ใน webboard หรือ กระดานข่าวอื่นโดยมิได้รับ อนุญาตอย่างเป็นทางการ จากทางกลุ่มวิมุตติในทุกกรณี

ความเห็นที่ 1 โดยคุณ นิพ วัน พฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม 2543 11:23:59
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 2 โดยคุณ นิดนึง วัน พฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม 2543 11:24:04
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 3 โดยคุณ พัลวัน วัน พฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม 2543 13:16:02
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 4 โดยคุณ ปิ่น วัน พฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม 2543 15:49:17
สาธุครับ _/|\_
โดยคุณ ปิ่น วัน พฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม 2543 15:49:17

ความเห็นที่ 5 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน พฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม 2543 19:21:28
สาธุครับ คุณมะขามป้อม
เป็นธรรมที่เรียบง่าย ชัดเจน และตรงไปตรงมาดีจริงๆ ครับ
ถ้าจะเลิกเขียนธรรมจริงๆ ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายมาก
เพราะสิ่งที่คุณมะขามป้อมเอามาเขียน
เป็นเรื่องที่มีมุมมอง และวิธีอธิบายธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
คือดูทันสมัย เป็นระบบ เหมาะกับคนรุ่นใหม่ดีครับ
โดยคุณ ปราโมทย์ วัน พฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม 2543 19:21:28

ความเห็นที่ 6 โดยคุณ หนึ่ง วัน พฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม 2543 20:57:33
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 7 โดยคุณ พัลวัน วัน ศุกร์ ที่ 31 มีนาคม 2543 05:29:52
คุณมะขามป้อมเป็นอีกผู้หนึ่งที่ผมนับถือครับ นับถือมาตั้งแต่สมัยที่ได้พบในห้องสมุด pantip ผมไม่เคยได้พบข้อน่าสงสัยประการใดที่จะมีปรากฎในข้อความของคุณมะขามป้อมแม้แต่ครั้งเดียว และไม่เคยสังเกตเห็นว่าจะมี ความไม่เคารพในธรรม แทรกมาให้เห็นเลย และยิ่งกว่านั้นยังสังเกตเห็นด้วยว่า แต่ละข้อความที่คุณมะขามป้อมนำมา post ไว้ ก็ช่างรัดกุมและผ่านการกลั่นกรองมาแล้วเป็นอย่างดีครับ ยังไม่เคยเห็นหัวข้อสนทนาใดที่มีความเยิ่นเย้อเลย มีแต่กระชับ สั้น และได้ใจความทั้งสิ้นครับ และหวังว่า วิมุตติจะยังมีหัวข้อสนทนาของคุณมะขามป้อมเป็นระยะๆต่อไปครับ

โดยคุณ พัลวัน วัน ศุกร์ ที่ 31 มีนาคม 2543 05:29:52

ความเห็นที่ 8 โดยคุณ ธาตุธรรม วัน ศุกร์ ที่ 31 มีนาคม 2543 07:37:31
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 9 โดยคุณ มะขามป้อม วัน ศุกร์ ที่ 31 มีนาคม 2543 09:27:01
ก็คงจะหยุดเพื่อทำความเพียรเป็นระยะๆ ไปเท่านั้นเองครับ
ไม่ต้องห่วง ไปไหนไม่รอดหรอกครับ วนเวียนอยู่แถวนี้แหละ :)

อีกนิดนึงครับ ต้องออกตัวไว้ก่อนว่า ไม่เจตนา ในข้อที่ 3
นั้นผม ได้กล่าวถึงพุทธวิสัย โดยการอนุมานจากการมองเห็น
สุญตาบ้างไม่เห็นบ้าง จิตร่อนออกจากขันธ์บ้าง รวมกับขันธ์บ้างของผมเองครับ
แต่คิดว่าถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละครับ
โดยคุณ มะขามป้อม วัน ศุกร์ ที่ 31 มีนาคม 2543 09:27:01

ความเห็นที่ 10 โดยคุณ naruntorn วัน ศุกร์ ที่ 31 มีนาคม 2543 18:08:57
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 11 โดยคุณ ป๋อง วัน เสาร์ ที่ 1 เมษายน 2543 02:36:50
สาธุ ครับ / ค่ะ

ติดต่อกลุ่มวิมุตติได้ที่ wimutti@hotmail.com