กลับสู่หน้าหลัก

คำสอนฮวงโป

โดยคุณ ธีรชัย วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 07:50:43

คำสอนฮวงโป แปลโดยพุทธทาสภิกขุ
ภาคหนึ่ง บันทึกชึนเชา

ท่านครูบาได้กล่าวกับข้าพเจ้าว่า :
พระพุทธเจ้าทั้งปวง และสัตว์โลกทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากเป็นเพียง จิตหนึ่ง (One mind) นอกจากจิตหนึ่ง นี้แล้ว มิได้มีอะไรตั้งอยู่เลย.
จิตหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ปราศจากการตั้งต้นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้น และไม่อาจถูกทำลายไปได้เลย. มันไม่ใช่เป็นของมีสีเขียวหรือสีเหลืองและไม่มีทั้งรูป ไม่มีทั้งการปรากฏ. มันไม่ถูกนับรวมอยู่ในบรรดาสิ่งทั้งที่มีการตั้งอยู่. มันไม่อาจจะถูกลงความเห็นว่า เป็นของใหม่หรือของเก่า. มันไม่ไช่ของยาว ของสั้น ของใหญ่ ของเล็ก. ทั้งนี้เพราะมันอยู่เหนือขอบเขต เหนือการวัด เหนือการตั้งชื่อ เหนือการทิ้งร่องรอยไว้ และเหนือการเปรียบเทียบทั้งหมดทั้งสิ้น.
จิตหนึ่ง นี้ เป็นสิ่งที่เธอเห็นตำตาเธออยู่แท้ๆ  แต่จงลองไปใช้เหตุผล (ว่ามันเป็นอะไร เป็นต้น) กับมันเข้าดูซิ, เธอจักหล่นไปสู่ความผิดพลาดทันที สิ่งนี้เป็นเหมือนกับความว่างอันปราศจากขอบเขตทุกๆด้าน ซึ่งไม่อาจหยั่งหรือวัดได้.
จิตหนึ่งนี้เท่านั้น เป็นพุทธะ. ไม่มีความแตกต่างระหว่างพุทธะกับสัว์โลกทั้งหลาย เพียงแต่ว่าสัว์โลกทั้งหลาย ไปยึดมั่นต่อรูปธรรมต่างๆเสีย และเพราะเหตุนั้น จึงได้แสวงหา พุทธภาวะจากภายนอก. การแสวงหาของสัตว์เหล่านั้น นั่นเอง ทำให้เขาพลาดจาก พุทธภาวะ. การทำเช่นนั้นเท่ากับการใช้สิ่งซึ่งเป็น พุทธะ ให้เที่ยวแสวงหา พุทธะ และการใช้จิตให้เที่ยวจับฉวย จิต. แม้เขาหล่านั้น จะได้พยายามจนสุดความสามารถของเขาอยู่ตั้งกัปป์หนึ่งเต็มๆ  เขาก็จะไม่สามารถลุถึงมันได้เลย. เขาไม่รู้ว่า ถ้าเขาเองเพียงแต่หยุดความคิดปรุงแต่ง และหมดความกระวนกระวายเพราะการแสวงหาเสียเท่านั้น, พุทธะ ก็จะปรากฏตรงหน้าเขา, เพราะว่า จิต นี้ก็คือ พุทธะ นั่นเองและพุทธะก็คือ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายทั้งปวง นั่นเอง. สิ่งๆนี้ เมื่อปรากฏอยู่ที่สามัญสัตว์จะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็หาไม่, และเมื่อปรากฏอยู่ที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายจะเป็นสิ่งใหญ่หลวง ก็หาไม่.
โดยคุณ ธีรชัย วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 07:50:43

กลุ่มวิมุตติ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะ ห้าม ไม่ให้มีการคัดลอกข้อความบางส่วนหรือทั้งหมด ไปใช้ใน webboard หรือ กระดานข่าวอื่นโดยมิได้รับ อนุญาตอย่างเป็นทางการ จากทางกลุ่มวิมุตติในทุกกรณี

ความเห็นที่ 1 โดยคุณ พัลวัน วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 08:13:34
สาธุครับ รออ่านต่อด้วยใจจดจ่ออย่างยิ่งครับ
โดยคุณ พัลวัน วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 08:13:34

ความเห็นที่ 2 โดยคุณ คิดเอาเอง วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 08:33:03
ขอบคุณครับที่พยายามนำคำสอนในทางธรรม
มาให้ได้อ่านกัน
อนุโมทนาด้วยครับ
โดยคุณ คิดเอาเอง วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 08:33:03

ความเห็นที่ 3 โดยคุณ นกเอี้ยง วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 08:39:57
^-^ _/|\_
โดยคุณ นกเอี้ยง วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 08:39:57

ความเห็นที่ 4 โดยคุณ นิพ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 10:24:36
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 5 โดยคุณ นิพ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 10:28:26
รู้สึกว่าบางส่วนจะเหมือนกับคำสอนของหลวงปู่ดูลย์เลยนะครับ ทำให้รู้สึกว่าจะเซ็นหรือจะสายพระป่า
แก่นธรรมก็คืออันเดียวกัน คือพุทธะ
โดยคุณ นิพ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 10:28:26

ความเห็นที่ 6 โดยคุณ เจื้อย วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 10:30:28
สาธุค่ะ _/I\_
โดยคุณ เจื้อย วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 10:30:28

ความเห็นที่ 7 โดยคุณ ดังตฤณ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 12:04:00
เคยอ่านมา (แบบขอฟังไว้ก่อน)
ว่าคำสอนของท่านฮวงโปนั้น
มีผู้อ่านแล้วบรรลุธรรม
เมื่อได้มาอ่านแล้วก็เห็นว่าเป็นไปได้จริง
แต่คนอ่านต้องมีประสบการณ์ปฏิบัติธรรมเป็นพื้น
และจิตต้องมีความดิ่งอยู่ในกระแสพร้อมอยู่ล่วงหน้าด้วยครับ
โดยคุณ ดังตฤณ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 12:04:00

ความเห็นที่ 8 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 12:24:40
เรียนคุณนิพ
คำสอนของหลวงปู่ดูลย์ กับคำสอนของท่านฮวงโป เป็นคำสอนอันเดียวกัน
ผู้บัญญัติคำสอน คือท่านฮวงโป
แล้วหลวงปู่ดูลย์ ซึ่งเห็นด้วยกับคำสอนของท่านฮวงโป
ได้ยืมถ้อยคำของท่านฮวงโปมาใช้สอนศิษย์
เพราะท่านไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องบัญญัติคำสอนขึ้นมาอีก
เพียงเพื่อจะแสดงความเป็น "เจ้าของ" ถ้อยคำเหล่านั้น

ในส่วนคำสอนของท่านฮวงโปที่คุณธีรชัยยกมา
มีถ้อยคำ และสาระสำคัญที่เข้าใจยากอยู่หลายแห่ง
เริ่มจาก จิตหนึ่ง
ผมเคยได้ยินท่านผู้หนึ่งกล่าวว่า
"ปราโมทย์ พระอรหันต์ไม่จำเป็นต้องมีความรู้อะไรมากมายหรอก
ท่านเพียงแต่เห็น "จิตหนึ่ง" เท่านั้น"

การเที่ยวแสวงหาสิ่งภายนอก ทำให้พลาดจากพุทธภาวะ

่หยุดความคิดปรุงแต่ง และหมดการแสวงหาเสียเท่านั้น
พุทธะก็จะปรากฏตรงหน้า


คำสอนเหล่านี้ สอดคล้องกับสิ่งที่หลวงปู่ดูลย์ท่านสอนไว้แล้วตั้งแต่ปี 2491
เข้าใจว่าก่อนที่ท่านพุทธทาสจะแปลคำสอนของท่านฮวงโปเป็นภาษาไทย
คือหลวงปู่ดูลย์ท่านสอนว่า

"จิตที่ส่งออกนอกเป็นสมุทัย มีผลเป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็นมรรค มีผลเป็นนิโรธ"

อย่าส่งจิตออกนอก

จิตคิด จิตถูกทำลาย


พวกเรานักปฏิบัติทั้งหลาย อย่าเอาแต่คิดตามคำสอนทั้งหลาย
แต่ควรเจริญสติสัมปชัญญะให้มาก
อย่าให้จิตไหลออกไปโดยไม่รู้เท่าทัน
เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็จะเข้าใจ จิตหนึ่ง
คือสภาพจิตที่พ้นสิ้นเชิงจากความปรุงแต่งทั้งหลาย
โดยคุณ ปราโมทย์ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 12:24:40

ความเห็นที่ 9 โดยคุณ นิพ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 13:00:13
ขอบคุณพระคุณคุณอาที่ชี้แนะครับ _/I\_ :-)
โดยคุณ นิพ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 13:00:13

ความเห็นที่ 10 โดยคุณ ปิ่น วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 18:32:29
_/|\_ ขอบพระคุณครับ
โดยคุณ ปิ่น วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 18:32:29

ความเห็นที่ 11 โดยคุณ พัลวัน วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 19:32:30
จิตคิด จิตถูกทำลาย

ได้ยินแล้วอ่อนใจเลยครับ เพราะว่า เพราะคิด จึงหลงว่ารู้ ทั้งที่มิได้รู้
โดยคุณ พัลวัน วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 19:32:30

ความเห็นที่ 12 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 20:57:10
(เมื่อ)จิตคิด จิต(รู้ก็)ถูกทำลาย
บรรดานักคิดทั้งหลาย ถ้าเข้าใจตนเองได้ว่า
ตนกำลังฝันทั้งที่ลืมตาตื่น ตนกำลังหลงอยู่ในโลกของความคิด
เพียงรู้ทันเท่านี้ ก็รู้แล้ว
และเมื่อรู้แล้วก็อย่าหลงไปคิดต่อไปอีก
ว่า "รู้เป็นอย่างไร ที่รู้นี้ถูกหรือไม่ถูก"
เพราะจะหล่นไปสู่ความผิดพลาดในทันที
คือหลงเข้าไปในโลกของความคิดอีกรอบหนึ่ง
โดยคุณ ปราโมทย์ วัน พุธ ที่ 5 เมษายน 2543 20:57:10

ความเห็นที่ 13 โดยคุณ พัลวัน วัน พฤหัสบดี ที่ 6 เมษายน 2543 05:29:50
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 14 โดยคุณ นกเอี้ยง วัน พฤหัสบดี ที่ 6 เมษายน 2543 14:53:46
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 15 โดยคุณ ธีรชัย วัน ศุกร์ ที่ 7 เมษายน 2543 07:43:20
ขอปรึกษานิดนึงครับ
คือยังมีคำสอนของท่านฮวงโปที่ยังไม่ได้โพสท์อีกหลายบท จะโพสท์ต่อที่กระทู้นี้ หรือเปิดกระทู้ใหม่ดีครับ
โดยคุณ ธีรชัย วัน ศุกร์ ที่ 7 เมษายน 2543 07:43:20

ความเห็นที่ 16 โดยคุณ พัลวัน วัน ศุกร์ ที่ 7 เมษายน 2543 08:08:46
เรียน คุณมวยวัด

หากว่าคุณมวยวัดตั้งเป็นหัวข้อใหม่ ผมก็จะต้องคอย update รายการหัวข้อสนทนาเก่าบ่อยๆน่ะครับทั่น ผมขอเสนอว่าให้ต่อแถวไปเรื่อยๆดีกว่าครับ ยาวมากก็ไม่เป็นไรกระมัง (เพราะ bandwidth และ diskspace ก็ฟรี)
โดยคุณ พัลวัน วัน ศุกร์ ที่ 7 เมษายน 2543 08:08:46

ความเห็นที่ 17 โดยคุณ นกเอี้ยง วัน ศุกร์ ที่ 7 เมษายน 2543 08:49:32
แนะนำดีกว่า ส่งเข้า ห้องสมุด ที่ป๋องกำลังทำอยู่สิคะ ลองปร฿กษาป๋องดูสิคะ ว่าเอาไปเข้าห้องสมุดด้วยได้ไหม เพราะเห็นว่าถ้ามากมายเป็น 100 - 200 หน้าเอี้ยงว่าเอาเข้าห้องสมุดจะดีกว่านะคะ
โดยคุณ นกเอี้ยง วัน ศุกร์ ที่ 7 เมษายน 2543 08:49:32

ความเห็นที่ 18 โดยคุณ ธาตุธรรม วัน ศุกร์ ที่ 7 เมษายน 2543 13:24:57
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 19 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน ศุกร์ ที่ 7 เมษายน 2543 20:27:06
ขอเพิ่มเติมเรื่องคิดกับรู้สักหน่อยครับ เพราะเขียนไว้ไม่ชัดเดี๋ยวจะเข้าใจผิด
คือความคิดนั้น มันเกิดอยู่เสมอ เหมือนลมหายใจนั่นเอง ห้ามไม่ได้
การปฏิบัติก็ไม่ได้มุ่งให้ดับความคิด
เอาแค่ว่า พอรู้อารมณ์แล้วจิตมันคิดนึกปรุงแต่ง ก็ให้รู้ทัน
อย่าให้ฝันทั้งที่ตื่น คือหลงคิดไปโดยไม่รู้ตัว
เท่านี้ก็พอครับ อย่าไปพยายามดับความคิดเข้าเชียวครับ
จิตจะยิ่งฟุ้งซ่านหนักกว่าเก่าอีก
และอันที่จริง เราก็ต้องอาศัยความคิดเหมือนกัน
ในการอบรมสั่งสอนจิต เป็นบางครั้งบางคราว เวลามันดื้อมากๆ
โดยคุณ ปราโมทย์ วัน ศุกร์ ที่ 7 เมษายน 2543 20:27:06

ความเห็นที่ 20 โดยคุณ ป๋อง วัน เสาร์ ที่ 8 เมษายน 2543 00:34:40
เรื่องห้องสมุดคงจะยังไม่เสร็จเร็วๆนี้น่ะครับ  ถ้าพิมพ์แล้ว
เซฟเก็บไว้ด้วย มาเขียนกระทู้ด้วย  จะดีที่สุดครับ เพราะจะ
ได้ให้คนอื่นๆมาอ่านได้ทั่วถึงกว่า   แล้วพอห้องสมุดเสร็จ
เมื่อไหร่ ค่อยขอที่เซฟมาอีกทีครับ
โดยคุณ ป๋อง วัน เสาร์ ที่ 8 เมษายน 2543 00:34:40

ความเห็นที่ 21 โดยคุณ ธีรชัย วัน เสาร์ ที่ 8 เมษายน 2543 08:04:37
ผมมีความคิดว่า ถ้าเกิดรวมอยู่ในกระทู้เดียว ผู้อ่านก็คงจะสับสนและการพูดคุยแจกแจงความคิดเห็นคงจะค่อนข้างลำบาก เพราะถ้าหลายๆบทอยู่ในกระทู้เดียวการอ้างอิงของเนื้อหาในกระทู้คงจะวุ่นวายน่าดู เลยตั้งเป็นกระทู้ใหม่ ประกอบกับเมื่อคืนได้คุยกับพี่ปราโมทย์ก็เลยเอาไปโพสท์เป็นกระทู้ไปพลางๆก่อน
ส่วนหลังจากที่กระทู้นั้นจบไปเรียบร้อยแล้ว ผมเห็นว่าน่าจะตัดเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อหาที่น่าสนใจนำไปฝากไว้โฮมเพจอื่นแล้วทำลิ๊งค์ไป เพราะหนังสือ"คำสอนฮวงโป"นั้น หากผู้อ่าน อ่านโดยการตีความไปเอง มีโอกาสผิดพลาดสูงมากเลยทีเดียวและความผิดพลาดที่ผู้อ่านตีความไปเองนี่แหละจะนำความเสื่อมเสียมาให้ทั้งกับตัวผู้อ่านเองและหากนำไปพูดจากันต่อไปก็จะนำความเสื่อมเสียไปยังหนังสือโดยไม่ได้ตั้งใจ
และหลังจากที่ผมผิดพลาดไปครั้ง ปัจจุบันมีความเห็นว่า
"เซ็น"ลึกเกินคิด แต่ไม่ลึกเกิน"รู้"
กล่าวคือ คิดเท่าไรมันก็ไม่มีทางเข้าใจเซ็นได้เลย นอกจากการตั้งสติ"รู้"ไปเรื่อยๆ ส่วนเรื่องความเข้าใจในระดับความคิดนั้น ทิ้งไปได้เลย เพราะถ้าหวังในระดับเพียงความเข้าใจในระดับความคิดแล้ว ความผิดพลาดก็จะถามหาในทันที
ขอบคุณครับ
โดยคุณ ธีรชัย วัน เสาร์ ที่ 8 เมษายน 2543 08:04:37

ความเห็นที่ 22 โดยคุณ พัลวัน วัน เสาร์ ที่ 8 เมษายน 2543 08:34:56
เห็นด้วย ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 23 โดยคุณ นิดนึง วัน จันทร์ ที่ 10 เมษายน 2543 09:38:28
พี่ปราโมทย์คะ คิดกับรู้อันนี้ เหมือนกับที่หลวงพ่อชาท่านกล่าวว่า
น้ำไหลนิ่ง ใช่ไม๊คะ
คือเห็นความคิดที่เกิดขึ้นไป แต่มีผู้รู้ดูอยู่ ด้วยสัมมาสมาธิ
อันนี้ถือว่าความคิดไม่ได้ดับไป แต่คิดก็คิดไปและก็รู้ไปด้วย
และเห็นความคิดเป็นไตรลักษณ์ไปในที่สุด
โดยคุณ นิดนึง วัน จันทร์ ที่ 10 เมษายน 2543 09:38:28

ความเห็นที่ 24 โดยคุณ นุดี วัน พฤหัสบดี ที่ 18 พฤษภาคม 2543 17:35:14
สาธุ ครับ / ค่ะ

ติดต่อกลุ่มวิมุตติได้ที่ wimutti@hotmail.com