กลับสู่หน้าหลัก

กิจที่พึ่งปฏิบัติต่ออริยสัจ 4

โดยคุณ มะขามป้อม วัน ศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2543 10:12:14

อริยสัจ 4 หมายความจริงอันประเสริฐ 4 ประการที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศให้โลกรู้
ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ซึ่งสามารถกล่าวโดยย่อได้ดังนี้
-ทุกข์- หมายถึงความเป็นทุกข์ที่ทนอยู่ได้ยาก อันได้แก่ ขันธ์ทั้ง 5 อันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน
-สมุทัย- คือเหตุเกิดแห่งทุกข์ อันได้แก่ ตัณหาความทะยานอยาก
-นิโรธ- คือความดับไปแห่งตัณหา
-มรรค- คือหนทางดับทุกข์ อันประกอบด้วยองค์ 8

นอกจากนี้พระองค์ทรงกำหนดกิจที่ควรกระทำต่ออริยสัจไว้อย่างชัดเจนว่า
ทุกข์ควรกำหนดรู้ สมุทัยควรละ นิโรธควรทำให้แจ้ง มรรคควรเจริญให้ยิ่ง

ในการปฏิบัติ ให้ครบทั้ง 4 กิจของอริยสัจ อาจจะดูยุ่งยาก พะรุงพะรัง และดูเหมือนจะต้องใช้
เวลานานกว่าจะสำเร็จ แต่แท้ที่จริงแล้ว กิจทั้ง 4 สามารถปฏิบัติได้ในคราวเดียวกัน พร้อมๆ กัน
ขณะนี้ เดียวนี้ ในปัจจุบันกาล เราสามารถสรุปรวบกิจทั้ง ลงเหลือเพียง 1 เดียวคือ
ทุกข์ให้กำหนดรู้

การกำหนดรู้นั่นแหละคือการละตัณหา
เมื่อเรากำหนดตามรู้ในอารมณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา โดยเฝ้ารู้อยู่เฉยๆ
ในเบื่องต้น หากเรากำหนดรู้ในกิเลสตัณหาที่เกิดขึ้น กิเลสตัณหานั้นๆ ก็จะดับไปเอง
เช่นเดียวกับการที่เราเปลี่ยนความสนใจ จากสิ่งหนึ่งไปเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ความสนใจ
ในเรื่องแรกย่อมดับไป เปลี่ยนมาสนใจเรื่องถัดมา
ตัณหาในขั้นแรกของการปฏิบัติดับไปในลักษณะนี้

เมื่อฝึกฝนปฏิบัติจนชำนาญ จะพบว่าจิตนั้นอยู่ต่างหาก จากอารมณ์ 
จิตเปรียบเหมือนแผ่นฟ้า มีอารมณ์จรมาดั่งปุยเมฆ
เมื่อจิตมีความรู้เกิดขึ้นอย่างนี้แล้ว
ย่อมเห็นแจ้งในสามัญลักษณะของอารมณ์ และพร้อมที่จะสลัดทิ้ง
ตัณหา ราคะต่างๆ กิเลสจึงเบาบางลงได้
ตัณหาได้ถูกคุมกำเนิด ในการปฏิบัติขั้นถัดมาเช่นนี้

เมื่อตัณหาที่ควรละได้ละเสียแล้ว
ก็หมายความว่านิโรธที่ควรทำให้แจ้งก็ได้ทำแล้ว

ส่วนมรรคที่ควรเจริญก็ได้เจริญแล้ว
เพราะการกำหนดรู้ในทุกข์ ก็คือการเจริญมรรคนั้นเอง

นั่นหมายความว่าคือเราสามารถย่นย่อ อริยสัจ 4 ลงเหลือเพียง 1 เป็น
อริยสัจ 4 ฉบับพกพา ปฏิบัติเพียงอย่างเดียวคือ
กำหนดรู้ในทุกข์ ก็สามารถทำกิจทั้ง 4 ให้สำเร็จได้ในทันที ขณะนี้เดียวนี้


โดยคุณ มะขามป้อม วัน ศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2543 10:12:14

กลุ่มวิมุตติ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะ ห้าม ไม่ให้มีการคัดลอกข้อความบางส่วนหรือทั้งหมด ไปใช้ใน webboard หรือ กระดานข่าวอื่นโดยมิได้รับ อนุญาตอย่างเป็นทางการ จากทางกลุ่มวิมุตติในทุกกรณี

ความเห็นที่ 1 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน ศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2543 10:42:59
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
เป็นธรรมที่งดงามมากทีเดียว
โดยคุณ ปราโมทย์ วัน ศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2543 10:42:59

ความเห็นที่ 2 โดยคุณ พัลวัน วัน ศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2543 10:51:18
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 3 โดยคุณ listener วัน ศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2543 13:34:19
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 4 โดยคุณ นิพ วัน ศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2543 14:52:36
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 5 โดยคุณ ไพ วัน ศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2543 14:54:58
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 6 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน ศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2543 14:58:46
เรื่องของจิตกับธรรมนี่เป็นของอัศจรรย์ครับ
บางครั้งธรรมตั้งมากมาย
เวลาพิจารณาหรือปฏิบัติ กลับรวมลงที่จุดเดียว
คือบทจิตจะย่อธรรมขึ้นมา บางทีย่อจนเหลือแต่รู้ ไม่มีคำพูด
แต่บางครั้ง ธรรมในจุดเดียว
จิตกลับพิจารณากระจายกว้างขวางออกไปได้ตั้งมากมาย
จิตถ่ายทอดธรรมให้เจ้าของ(จิต)รู้ เป็นชั่วโมงๆ หรือเป็นวันๆ ก็ได้

ขอเพียงปฏิบัติจนเข้าถึงจิตตนเองจริงๆ
จะรวบย่อธรรมก็ได้ จะกระจายธรรมก็ได้
เพราะจิตนั้นแหละคือผู้ทรงธรรม
โดยคุณ ปราโมทย์ วัน ศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2543 14:58:46

ความเห็นที่ 7 โดยคุณ นิดนึง วัน อาทิตย์ ที่ 18 มิถุนายน 2543 22:01:38
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 8 โดยคุณ Lee วัน จันทร์ ที่ 19 มิถุนายน 2543 21:43:48
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 9 โดยคุณ ปิ่น วัน พุธ ที่ 21 มิถุนายน 2543 17:50:29
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 10 โดยคุณ aek123 วัน พุธ ที่ 21 มิถุนายน 2543 18:24:41
สาธุ ครับ / ค่ะ

ติดต่อกลุ่มวิมุตติได้ที่ wimutti@hotmail.com