ความเห็นที่ 5 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน อังคาร ที่ 20 มิถุนายน 2543 08:27:59 |
เหตุผลที่เหนื่อยมากเมื่อหัดเจริญสติใหม่ๆ ก็เนื่องจากหลายปัจจัยประกอบกัน
ข้อแรกก็คือ พวกเราส่วนมากไม่ได้ฝึกสมาธิ หรือทำสมถะกันมาก่อน จิตจึงไม่มีความตั้งมั่น เมื่อจะให้ตั้งมั่น ก็ต้องเร่งกำลังของสติขึ้นมาชดเชยความด้อยของสมาธิ คือต้องพยายามเพ่ง จ้อง ควบคุม ตั้งใจมากๆ แต่ถ้าใครมีกำลังของ(สัมมา)สมาธิมาก่อน การจะให้มีสติสัมปชัญญะก็เป็นเรื่องง่าย เพราะสัมมาสมาธิ เป็นเครื่องทำสติให้บริสุทธิ์เพราะอุเบกขา
ถ้าใครรู้ตัวว่าขาดกำลังหนุนของสมถะ ขอให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนไปหัดรู้ตัว หรือหัดดูจิต เพราะอาจจะเหนื่อยมากไป จนท้อใจ ให้ลองเดินจงกรมเล่นๆ เรื่อยๆ ไป เท้ากระทบพื้น ก็รู้ความรู้สึกที่เท้ากระทบพื้นไปเรื่อยๆ แต่อย่าเพ่งที่เท้า หรืออย่าให้จิตเผลอไปอยู่ที่เท้า หรือไปคิดเรื่องเท้า ให้เดินสบายๆ รู้ความรู้สึกที่เท้ากระทบพื้นไปอย่างสบายๆ เมื่อจิตมีกำลังแล้ว จะเกิดกำลังรู้ตัว พอที่จะดูจิตหรือเจริญสติปัฏฐานใดๆ ต่อไปได้
เหตุที่เหนื่อยอีกประการหนึ่งก็คือ ความไม่ชำนาญในการ รู้ การจะให้รู้โดยไม่เผลอ หรือไม่เพ่ง เป็นจุดพอดีที่ทำยากมาก ยิ่งพยายามทำ ก็ยิ่งผิด แต่ถ้าไม่ระมัดระวัง ไม่พยายาม ก็ต้องเผลอ เพราะเผลอมาหลายกัปป์แล้ว หรือถ้าจะไม่ให้เผลอ ก็ต้องเพ่งเอา ซึ่งส่วนมากก็เพ่งแบบเผลอๆ อีก คือเพ่ง แต่ไม่รู้ตัวว่ากำลังเพ่งอยู่ ความรู้ตัวจึงเหมือนการที่เราต้องประคองตัวอยู่บนปลายเสาเล็กๆ จะให้สบายเหมือนยืนอยู่บนพื้นกว้างๆ ไม่ได้แน่
อันที่จริงเราอย่าไปพยายามสร้างความรู้ตัวขึ้นมา เอาแค่ว่าเผลอก็รู้ว่าเผลอ เพ่งก็รู้ว่าเพ่ง พอไม่เผลอและไม่เพ่งแล้ว ก็รู้ตัวขึ้นมาเอง พอฝึกมากเข้า ชำนาญเข้า เราจะพบว่า ในขณะที่รู้ตัวนั้น จิตใจเบิกบาน สบายโดยอัตโนมัติ แต่ในขณะที่หลงที่เผลอ ซึ่งเคยคิดว่าเป็นความสบายมาแต่ก่อนนั้น มีสภาพไม่ผิดกับการนั่งกอดขยะกองใหญ่เอาไว้ทีเดียว |
|
โดยคุณ ปราโมทย์ วัน อังคาร ที่ 20 มิถุนายน 2543 08:27:59 |