กลับสู่หน้าหลัก

สติปัฏฐาน ง่ายนิดเดียว

โดยคุณ มะขามป้อม วัน จันทร์ ที่ 25 กันยายน 2543 10:18:44

ฟังธรรมที่เป็นปฏิบัติล้วนๆ กันบ้างนะครับ
สบายใจดี พูดเรื่องง่าย ให้เป็นเรื่องง่าย
ฟังแล้วฟังอีก ก็อยากเพิ่งบ่นนะครับ
เพราะเรื่องของการปฏิบัติ มันก็มีให้พูดอยู่แค่นี้ :)
----------------------------------------------------------------

บางทีการที่เราอ่านมากๆ หรือฟังจากคนนั้นคนนี้มากๆ ก็สับสน และรู้สึกว่าทำไม
การหาจุดที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง ในการกำหนดสติเจริญสัมปชัญญะจึงยากเย็นนัก?
ทำไมเรามักจะเผลอซะมากกว่า "รู้" ? จิตผู้รู้ ที่เขาว่ากันอยู่ไหน?

ที่จริงการเจริญสติสัมปชัญญะไม่ใช่เรื่องยาก ปัญหาของผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่
จะติดอยู่ที่บัญญัติ คือตัวความคิดฟุ้งซ่าน ได้ยินได้ฟังมาอย่างไร ก็พยายาม
คิด บังคับ หรือ หาวิธีให้ได้ตามนั้น

สติปัฏฐาน จะไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าเราเอาบัญญัติ ว่านั่นคือโมโห นั่นคือสงสัย
นี่คือความอยาก ฯลฯ วางไว้ก่อน อย่าหยิบธรรมารมณ์ใดๆ มาคิด พิจารณา
ความรู้ ตำราทุกชนิดวางให้หมด ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องคำนึงถึงวิธีการใดๆ
ที่เคยได้ยินได้ฟังมา ไม่ต้องจำแนกแจกแจง ในจิต ในอารมณ์ใดๆ ให้พิสดาร
ทำใจให้สบายๆ ไม่ตึงเครียดเท่านั้น

เหลืออยู่เพียงสิ่งเดียวที่เราปฏิบัติ ในขณะนั้นคือ เฝ้าสังเกต ไปเรื่อยๆ
แม้มีความคิดวิพากษ์ วิจารณ์ใดๆ เกิดขึ้น ก็ให้เฝ้าสังเกต ความคิดนั้น
ตั้งแต่เริ่มจนจบไป เป็นการเฝ้าสังเกต ในลักษณะของอารมณ์แท้ๆ
ที่ไม่มีคำพูด ไม่มีบัญญัติ แล้วปัญญา เห็นโลกตามความเป็นจริง ก็จะเกิดแก่ตน

จับหลักวิธีปฏิบัติอันนี้ได้ พร้อมๆ กับการสร้างสภาพแวดล้อมให้จิตเป็นปกติ
ได้แก่การให้ทาน และรักษาศีล, การเจริญสติภาวนา ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
เมื่อเราภาวนาเป็นแล้ว หยิบตำราเล่มใดขึ้นมาดู ฟังคำจากใครพูด
ก็มีแต่จะร้อง อ๋อๆ อยู่ในใจเท่านั้น เพราะสิ่งที่เขาเขียน เขาพูด เราล้วนประสบ
แก่ตนเองแล้วนั่นเอง
โดยคุณ มะขามป้อม วัน จันทร์ ที่ 25 กันยายน 2543 10:18:44

กลุ่มวิมุตติ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะ ห้าม ไม่ให้มีการคัดลอกข้อความบางส่วนหรือทั้งหมด ไปใช้ใน webboard หรือ กระดานข่าวอื่นโดยมิได้รับ อนุญาตอย่างเป็นทางการ จากทางกลุ่มวิมุตติในทุกกรณี

ความเห็นที่ 1 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน จันทร์ ที่ 25 กันยายน 2543 10:31:23
เห็นด้วย ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 2 โดยคุณ วิทวัส วัน จันทร์ ที่ 25 กันยายน 2543 14:54:43
ผมเห็นด้วยในระดับทฤษฏีครับ แต่ในระดับปฏิบัติแล้วตัวผมเองยังต้องกัดฟันปฏิบัติอยู่ครับ จะว่าง่ายก็ง่าย เพราะมันแค่รู้จริงๆ จะว่ายากก็ยากเพราะแค่รู้ไปเรื่อยๆ ทำไมมันถึงหาจุดพอดีได้ยากนัก แถมจิตก็ยังสัดส่ายเดี๋ยวเผลอ เดี๋ยวเผลออีกต่างหาก

เลยต้องบอกว่าถ้าจะเห็นด้วยขนิดเอาธรรมที่อยู่ในใจมาพูด ก็ต้องกัดฟันเห็นด้วยล่ะครับ ไม่เหมือนอาจารย์ที่ท่านแค่คลิกเห็นด้วยเท่านั้นเอง : )
โดยคุณ วิทวัส วัน จันทร์ ที่ 25 กันยายน 2543 14:54:43

ความเห็นที่ 3 โดยคุณ listener วัน จันทร์ ที่ 25 กันยายน 2543 18:34:52
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 4 โดยคุณ มะขามป้อม วัน อังคาร ที่ 26 กันยายน 2543 08:22:25
เป็นไปได้ครับคุณวิทวัส
มันเหมือนคนหัดขี่จักรยาน
คนขี่เป็นแล้วก็แทบไม่ต้องพยายาม คนขี่ยังไม่เป็นก็ว่ายาก

ผมก็พยายามมองหาเทคนิควิธี ที่ง่ายๆ มาบอกกล่าวกัน
อย่างที่บอกนั่นแหละครับแค่สังเกตเฉยๆ
สังเกตทุกอย่างที่เกิดขึ้น จะหลงไปบ้างก็ช่างมัน
จิตจะพัฒนาละเอียดขึ้น และเรียนรู้ถูกผิดด้วยตัวเอง
ไม่ต้องกังวลว่าเผลอหรือไม่เผลอครับ
โดยคุณ มะขามป้อม วัน อังคาร ที่ 26 กันยายน 2543 08:22:25

ความเห็นที่ 5 โดยคุณ อี๊ด วัน อังคาร ที่ 26 กันยายน 2543 12:01:08
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 6 โดยคุณ หนึ่ง วัน อังคาร ที่ 26 กันยายน 2543 13:44:26
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 7 โดยคุณ พัลวัน วัน อังคาร ที่ 26 กันยายน 2543 16:07:22
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 8 โดยคุณ พีทีคุง วัน อังคาร ที่ 26 กันยายน 2543 23:29:15
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 9 โดยคุณ Tuledin วัน พุธ ที่ 27 กันยายน 2543 09:58:26
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 10 โดยคุณ โยคาวจร วัน พฤหัสบดี ที่ 28 กันยายน 2543 09:02:13
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 11 โดยคุณ จ้อม วัน ศุกร์ ที่ 29 กันยายน 2543 12:58:43
สาธุ ครับ / ค่ะ

ความเห็นที่ 12 โดยคุณ น้ำ วัน ศุกร์ ที่ 29 กันยายน 2543 22:20:36
ตรงใจทีเดียวครับคุณมะขามป้อม แม้กระทั่งในชีวิตประจำวัน ที่ก่อนนี้เคยโมโหโทโสกับพฤติกรรมของชาวบ้าน เดี๋ยวนี้ก็แค่ อ๋อ...

ช่วงที่ไปพักกับสำนักแม่ชีที่พนัสนิคม ผมไปเจอหนังสือธรรมะเข้าเล่มหนึ่งครับ เป็นของอาจารย์ชาวพม่า (เขียนเป็นภาษาไทยครับ) ท่านเขียนไว้น่าอ่านมาก มีแง่มุมจากการพิจารณาแบบนักปฏิบัติแท้ๆอีกท่านหนึ่งเช่นกัน มีบางข้อที่ถ้าคนที่ไม่เคยปฏิบัติ (แต่เก่งตำรา) มาอ่านเข้ามีหวังของขึ้น แต่สำหรับนักปฏิบัติด้วยกันแล้วเหมือนกับสมการคณิตศาสตร์ที่เขียนคนละรูปเท่านั้นเอง อ่านแล้วก็
อ๋อ .... เหมือนกันครับ

ผมอ่านมาได้นิดหน่อย เพราะตั้งใจว่าระหว่างที่ถือศีลแปดนั้น ก็กำหนดไว้อีกข้อหนึ่งว่า จะไม่อ่านตำราให้มาคิดเพิ่ม มาเห็นเอาตอนเตรียมจะกลับบ้านแล้ว เลยอ่านผ่านๆ

จุดที่ท่านเขียนไว้น่าประทับใจคือคำอธิบายเกี่ยวกับสัมปชัญญะที่เป็นขณิกสมาธิในแต่ละขณะๆของปัจจุบัน เห็นความเกิดดับ เกิดดับ ต่อเนื่องกันไป หากมาเทียบกับที่เราเคยอ่าน คือเราพูดถึงอัปนาสมาธิพิจารณาอารมณ์ในปัจจุบันต่อเนื่องกันไป

แค่นี้ถ้าถือเอาตามตัวอักษรมีหวังทะเลาะกันตายครับ

หากที่ผมเขียนที่ผมเข้าใจที่ผมได้สัมผัสมา มีอะไรผิดพลาดก็ขอความเมตตาชี้แนะเช่นเคยนะครับ

โดยคุณ น้ำ วัน ศุกร์ ที่ 29 กันยายน 2543 22:20:36

ติดต่อกลุ่มวิมุตติได้ที่ wimutti@hotmail.com