ฟังธรรมที่เป็นปฏิบัติล้วนๆ กันบ้างนะครับ สบายใจดี พูดเรื่องง่าย ให้เป็นเรื่องง่าย ฟังแล้วฟังอีก ก็อยากเพิ่งบ่นนะครับ เพราะเรื่องของการปฏิบัติ มันก็มีให้พูดอยู่แค่นี้ :) ----------------------------------------------------------------
บางทีการที่เราอ่านมากๆ หรือฟังจากคนนั้นคนนี้มากๆ ก็สับสน และรู้สึกว่าทำไม การหาจุดที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง ในการกำหนดสติเจริญสัมปชัญญะจึงยากเย็นนัก? ทำไมเรามักจะเผลอซะมากกว่า "รู้" ? จิตผู้รู้ ที่เขาว่ากันอยู่ไหน?
ที่จริงการเจริญสติสัมปชัญญะไม่ใช่เรื่องยาก ปัญหาของผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่ จะติดอยู่ที่บัญญัติ คือตัวความคิดฟุ้งซ่าน ได้ยินได้ฟังมาอย่างไร ก็พยายาม คิด บังคับ หรือ หาวิธีให้ได้ตามนั้น
สติปัฏฐาน จะไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าเราเอาบัญญัติ ว่านั่นคือโมโห นั่นคือสงสัย นี่คือความอยาก ฯลฯ วางไว้ก่อน อย่าหยิบธรรมารมณ์ใดๆ มาคิด พิจารณา ความรู้ ตำราทุกชนิดวางให้หมด ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องคำนึงถึงวิธีการใดๆ ที่เคยได้ยินได้ฟังมา ไม่ต้องจำแนกแจกแจง ในจิต ในอารมณ์ใดๆ ให้พิสดาร ทำใจให้สบายๆ ไม่ตึงเครียดเท่านั้น
เหลืออยู่เพียงสิ่งเดียวที่เราปฏิบัติ ในขณะนั้นคือ เฝ้าสังเกต ไปเรื่อยๆ แม้มีความคิดวิพากษ์ วิจารณ์ใดๆ เกิดขึ้น ก็ให้เฝ้าสังเกต ความคิดนั้น ตั้งแต่เริ่มจนจบไป เป็นการเฝ้าสังเกต ในลักษณะของอารมณ์แท้ๆ ที่ไม่มีคำพูด ไม่มีบัญญัติ แล้วปัญญา เห็นโลกตามความเป็นจริง ก็จะเกิดแก่ตน
จับหลักวิธีปฏิบัติอันนี้ได้ พร้อมๆ กับการสร้างสภาพแวดล้อมให้จิตเป็นปกติ ได้แก่การให้ทาน และรักษาศีล, การเจริญสติภาวนา ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่อเราภาวนาเป็นแล้ว หยิบตำราเล่มใดขึ้นมาดู ฟังคำจากใครพูด ก็มีแต่จะร้อง อ๋อๆ อยู่ในใจเท่านั้น เพราะสิ่งที่เขาเขียน เขาพูด เราล้วนประสบ แก่ตนเองแล้วนั่นเอง
|
|