ความเห็นที่ 11 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน อังคาร ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2544 09:01:00 |
หลวงพ่อทูลท่านเป็นพระดีแน่นอนครับ ผมไม่สงสัยในคุณธรรมของท่าน เคยกราบ เคยฟังธรรมของท่านบ่อยๆ ก็เห็นว่าท่านไม่ได้สอนให้คิดไปรู้ไป แต่ท่านเน้นให้คิดเพื่อทำความเข้าใจกับชีวิตให้แจ่มแจ้ง
ที่ท่านสอนเช่นนี้เพราะท่านพบความจริงว่า ผู้ปฏิบัติส่วนมากติดสมถะ เอาแต่ทำความนิ่งกันแทบทั้งนั้น ท่านจึงแก้ด้วยการให้หัดคิดพิจารณา ไม่ให้หยุดอยู่นิ่ง โดยให้หยิบยกเรื่องราวอันใดอันหนึ่งมาเป็นหัวข้อคิดพิจารณา เช่นเมื่ออ่านพระพุทธประวัติตอนทรงลอยถาดของนางสุชาดา ก็พิจารณาว่า นี่หมายถึงการทวนกระแสของโลกเข้าหาธรรม หรือเห็นคนแก่ ก็พิจารณาความแก่ในแง่มุมต่างๆ เป็นต้น
การคิดพิจารณาเป็นอุบายที่ดี ทำให้จิตเข้าถึงความสงบ และเข้าใจโลก เข้าใจชีวิตมากขึ้น จะได้ไม่หลงมากนัก เมื่อประสบกับความแปรปรวนต่างๆ ก็มีทางปรับจิตใจให้คลายทุกข์ได้ง่าย ส่วนคิดแล้วจะเข้าถึงความรู้ตัว เข้ามาเจริญวิปัสสนาละเอียดได้หรือไม่ ก็อาจจะเป็นไปได้สำหรับบางคนครับ และเป็นไปได้มากกว่าคนที่หลงความสงบของพุทโธอย่างเดียว
แต่สำหรับคนที่ดูจิตจนชำนาญแล้วอย่างคุณสุรวัฒน์ ก็สามารถเห็นปรมัตถ์หรือตัวจริงของความตรึกของจิต อันเป็นอาการฟุ้งซ่านของจิตอย่างหนึ่ง พอเห็นแล้ว ความตรึก หรือความปรุงไหวก็ดับไป จิตมาหยุดทรงตัวรู้อยู่เฉยๆ ต่อมาก็ตรึก หรือไหวออกมาอีกเป็นระลอกๆ ถ้ามีสติสัมปชัญญะรู้อยู่อย่างนี้ ก็ใช้ได้ครับ แต่ไม่ใช่ไปห้ามมัน
การรู้ความไหว ความตรึกของจิตอย่างนี้ ไม่ได้สนใจเรื่องราวที่คิด เพราะตรงนั้นยังไม่มีสัญญาแปลสัญญาณความคิดออกมาเป็นคำพูด เป็นคนละเรื่อง คนละอย่าง กับการใช้ความคิดพิจารณาเป็นเรื่องราว (เช่นคิดว่าร่างกายนี้เป็นอสุภะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา) อย่างหลังนี่ เป็นการพิจารณาเอาเรื่องราว พิจารณาเอาความรู้ความเข้าใจ
ส่วนการคิดเป็นเรื่องราว แล้วมีสติ คือคิดไปรู้ไปเรื่อยๆ ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งครับ มันทำให้ไม่หลง "อิน" เข้าไปในความคิด แต่ตรงนี้ออกจะเป็นภาระกับจิตมากไปหน่อย เพราะจะรู้ตัวก็ไม่ถนัด จะคิดเอาเรื่องราวก็ไม่ถนัดอีก และจิตก็ยังส่งออกหน่อยๆ ไม่เหมือนการรู้ปรมัตถ์ของวิตก และอุทธัจจะจริงๆ
การที่คุณสุรวัฒน์เห็นว่า จิตหลงเข้าไปในความคิดบ่อยๆ นั้น แสดงว่าการปฏิบัติดีขึ้น สติปัญญาละเอียดขึ้น ที่ผ่านมาไม่ใช่มันไม่หลงเข้าไปนะครับ เพียงแต่เรายังไม่มีกำลังสติที่ละเอียดพอที่จะรู้ทันเสมอๆ เท่านั้น
ตราบใดที่ไม่ใช่พระอรหันต์ ก็ต้องขาดสติบ้างเป็นธรรมดาครับนิพ ดังนั้น เราจึงไม่ควรพยายามจะทำสติให้ต่อเนื่อง เพราะทำไม่ได้หรอก สิ่งที่ต้องทำคือ รู้ว่าเผลอ ให้เร็วทุกครั้งที่เผลอครับ |
|
โดยคุณ ปราโมทย์ วัน อังคาร ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2544 09:01:00 |