ความเห็นที่ 14 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน ศุกร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2544 09:53:42 |
คุณหมอธุลีถามว่า "อารมณ์ รู้ ตื่น เบิกบาน มันก็มีตัวราคะปนอยู่ จะเป็นสัมมาสมาธิหรือเปล่าครับ"
จะเป็นสัมมาสมาธิหรือเปล่า พักไว้ก่อนเถอะครับ ยังไม่สำคัญหรอกครับ มาสนใจตรงนี้ดีกว่าครับ คือว่าจิตผู้รู้จริงๆ เป็นแค่ผู้รู้ครับ อารมณ์หรือกิเลส ก็เป็นคนละส่วนกับจิตผู้รู้ แต่ที่คุณหมอเห็นว่า จิตผู้รู้ของคุณหมอยังมีราคะปนอยู่นั้น ดีแล้วครับที่เห็น เพราะราคะมันแฝงตัวในจิตคุณหมอมานานแล้ว ผมก็รอเวลาอยู่ว่า เมื่อใดคุณหมอจะรู้ทันตรงนี้ครับ เมื่อรู้ทันแล้วค่อยรู้ต่อไปอีกครับ ในที่สุดก็จะพบจิตที่รู้ ตื่น และเบิกบานจริงๆ จิตใจก็จะก้าวหน้าต่อไปอีกครับ เพราะรู้ทันกิเลสตัณหาได้ละเอียดยิ่งขึ้น
"แล้ว ปิติ สุข ในสัมมาสมาธิ จัดว่าเป็น ราคะหรือเปล่า" สุขเป็นเวทนาครับ ปีติก็เป็นสังขารอันหนึ่ง แยกต่างหากจากราคะ แต่เพราะมีสุขนั่นแหละครับ ราคะจึงแฝงตัวอยู่ในจิต เพราะราคะมันเกิดตามสุขเวทนามา เมื่อรู้ทันแล้ว ราคะดับไป ก็มารู้ปีติและสุขต่อไปด้วยจิตที่เป็นกลาง ปีติก็จะดับไปเหลือแต่สุข รู้ไปอีกสุขก็ดับอีก กลายเป็นจิตที่มี สติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา การรู้อย่างนี้ เป็นการเอาองค์ฌานมาเป็นอารมณ์ของวิปัสสนาครับ เป็นวิธีปฏิบัติที่สุขสบายจนน่าอิจฉาเชียวครับ |
|
โดยคุณ ปราโมทย์ วัน ศุกร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2544 09:53:42 |