Author Topic: ธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เรื่อง "โยนิโสมนสิการ"  (Read 4256 times)

Offline โอ.เค

  • Clips
  • Sr. Member
  • *
  • Posts: 152
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • เมตตา สันติ เจริญสติ
โยนิโสมนสิการ

(ธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช  วันที่ 16 พฤษภาคม 2552)

หลวงพ่อเรียนจากครูบาอาจารย์ไม่ถามมากหรอก นานๆถามทีหนึ่ง แล้วเราใช้ความสังเกตุเอา การภาวนานะ เรียนหลักให้แม่นแล้วก็สังเกตเอา ใจเราไปติดไปข้องไปแอบสร้างอะไรขึ้นมาหรือเปล่า อย่างเราภาวนาบางทีใจมันเครียดๆอย่างนี้ ถ้าจำหลักแม่น จะรู้ว่าทำเครียดๆอย่างนี้ทำผิดแล้ว จิตที่เป็นกุศลมันต้องไม่เครียด จิตที่เครียดมันไม่ใช่จิตที่เป็นกุศล

หรือภาวนาแล้วใจมันโล่ง มันว่าง มีแต่ความสุขเพลิดเพลินทั้งวันทั้งคืน ถ้าช่างสังเกตก็จะเห็นว่าทำไมมันเที่ยง ของมันต้องไม่เที่ยง ทำไมมันเที่ยง ของมันต้องเป็นทุกข์ ทำไมมันมีแต่ความสุข คอยสังเกตไป โอ๊ย ใจมันไม่ย้อนเข้ามารู้กายรู้ใจจริงหรอก ไหลออกไปอยู่ข้างนอก ไปเพลินๆ ไปสร้างภพที่ละเอียดขึ้นมา ใจไปสร้างภพว่างๆ แล้วก็ไปเกาะอยู่ในความว่างๆ ไปติดอยู่ในความว่างๆ อะไรอย่างนี้ นี่ถ้าช่างสังเกตนะ โอ้ ตรงนี้ผิดอีกแล้ว

อีกวันภาวนาไป ภาวนาไปเห็นจิตไหวยิบยับๆอะไรอย่างนี้ เห็นสภาวะอันใดอันหนึ่งเกิดขึ้น มันสนใจอยากรู้ให้ชัด ก็โผล่ไปจ้องๆ concentrate (เพ่ง) มากเลย ใจก็แนบอยู่กับสภาวะอันนั้น ช่างสังเกตก็รู้อีก นี่จิตหลงไปเกาะอารมณ์นิ่งๆอยู่แล้ว ไปแนบอยู่กับสิ่งที่ถูกรู้ ไม่ถูกอีกแล้ว มันไม่สักว่ารู้ไม่สักว่าเห็น ถลำลงไปรู้

หรือภาวนาบางวันจิตฟุ้งซ่าน ทำอย่างไรก็ไม่สงบนะ หาทางทำตั้งนานแล้วก็นึกขึ้นได้ จิตฟุ้งซ่านพระพุทธเจ้าบอกให้รู้ว่าฟุ้งซ่าน จิตเกิดความไม่ชอบความฟุ้งซ่านขึ้นมาเราไม่รู้ทัน พอรู้ทันมันก็หายไป

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าสภาวะอะไรเกิดขึ้น มันอยู่ที่ความสังเกตของเรา ความสังเกตโดยมีคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นบรรทัดฐาน ทำไมมันเที่ยง ทำไมมันสุข หรือภาวนาแล้วรู้สึกว่าเราบังคับได้ นั่งนี่นะ เราเก่ง นั่งทั้งคืนไม่เมื่อยเลย ไม่เมื่อยเลยทำได้ไหม ทำได้ถ้ามีปีติ ถ้ามีปีติไม่รู้ว่ามีปีติ แล้วนั่งเพลินๆไป ก็ติดอยู่ในปีติ ติดอยู่ในภพของนักปฏิบัติ มีความสุข มีความเผลอเพลิน อยู่ที่รู้ทันนะ

บางครั้งจิตไปสร้างสภาวะอะไรขึ้นมา ดูไม่ออกเลย รู้แต่ว่ามันแปลกๆ เพราะหลายวันแล้วมันนิ่งๆอยู่นั่นแหละ พอเห็นว่าทำไมมันนิ่งๆ ดูอย่างไรก็ดูไม่ออกว่ามันไปสร้างตรงไหน สร้างเมื่อไรให้สังเกตตอนตื่นนอน พวกนักปฏิบัติชั้นดี พอตื่นปุ๊บก็คิดเชียวว่าจะปฏิบัติอย่างไรดี พอคิดเรื่องการปฏิบัติปั๊บ จิตจะไหวตัวกุ๊กกิ๊ก 2-3 ที แล้วก็เข้ามาอยู่ในภาวะซึ่งมันเคยติดอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าตรงไหนสังเกตยาก ดูไม่ออกจริงๆนะ ดูมันตอนตื่นนอนนั่นแหละดีที่สุดเลย ตื่นนอนแล้วพอคิดถึงการปฏิบัติปุ๊บ จิตมันจะไปสร้างภพขึ้นมาด้วยความเคยชิน เพราฉะนั้นถ้าเมื่อไรเราสังเกตสภาวะออก จิตไปติดไปข้องอยู่ในภพอันใดอันหนึ่ง หรือจิตปฏิเสธภพอันใดอันหนึ่งนี่ไม่ถูกแล้ว ไม่ได้รู้อย่างเป็นกลาง มีคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นบรรทัดฐาน

ทีนี้บางคนมักง่ายไปนิดหนึ่ง คิดว่าโยนิโสมนสิการคือคิดอย่างแยบคาย คิดอย่างฉลาด คิดอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องมีสภาวะรองรับ ถ้าไม่มีสภาวะรองรับไม่ใช่การทำวิปัสสนาหรอก ฉะนั้นต้องเห็นนะ มีสภาวะรองรับ เช่นจิตมันไปเป็นอย่างนี้

หรือบางคนภาวนารู้สึกจิตเสื่อม มัวๆมืดๆ ดูไม่รู้เรื่อง มาส่งการบ้านว่าหมู่นี้มืดไปหมดเลย ดูไม่รู้เรื่อง หลวงพ่อก็ถาม แล้วรู้ได้อย่างไรว่ามืด แล้วรู้ได้อย่างไรว่าดูไม่รู้เรื่อง ถ้ามืดรู้ว่ามืด นั่นก็รู้แล้ว ดูไม่รู้เรื่อง รู้ว่าดูไม่รู้เรื่อง ไอ้นั่นก็รู้เรื่องแล้ว จะเอาอะไรล่ะ อยากเอาดีใช่ไหม อยากเอาชัดๆใช่ไหม ไม่มีหรอก ดีตลอดชัดตลอดไม่มี มีแต่เจริญแล้วเสื่อม ทุกสิ่งทุกอย่างมีแต่เจริญแล้วเสื่อม ที่สำคัญคือ รู้ด้วยความเป็นกลาง เจริญแล้วหลงยินดีก็ใช้ไม่ได้ เสื่อมแล้วหลงยินร้ายก็ใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นบางทีใจมันเสื่อม ภาวนาแล้วสติไม่เกิดเลยหมู่นี้ โมโหมันนะ ดิ้นรนใหญ่ ใจดิ้นขลุกขลักๆ อย่างชมพูเคยดิ้นเป็นเดือนๆใช่ไหม 2 เดือนใช่ไหม ดิ้นขลุกขลักๆ โอ๊ย เสื่อมไปหมดแล้ว ความจริงถ้ารู้ว่ารู้ได้ไม่ชัด รู้ว่าอยากรู้ให้ชัด รู้ว่ากำลังดิ้นรนเพื่อจะรู้ให้ชัด นี่รู้สภาวะลงปัจจุบัน รู้สภาวะถูกต้องก็ชัดขึ้นมาเองเลย ดีทันทีเลย ไม่มีอะไร ง่ายสุดๆเลย

Offline หงส์น้อยบ้านโค้งดารา

  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *
  • Posts: 118
  • คะแนนความนิยม: +4/-0
  • Gender: Male
หัดรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง

Offline หลี่จิ้ง

  • Global Moderator
  • Full Member
  • *
  • Posts: 56
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • Gender: Male
  • Dhammada.net คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา
นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา
ขอนอบน้อมแด่ท่านผู้หลุดพ้นแล้ว ขอนอบน้อมแด่วิมุตติธรรมของท่านผู้หลุดพ้นแล้ว

Offline ภูหนาว

  • Jr. Member
  • **
  • Posts: 36
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • Gender: Male
  • นักรู้
คำสอนของหลวงพ่อชัดเจน แจ่มแจ้ง เต็มไปด้วยเหตุด้วยผลจริงๆ ครับ

_/|\_ _/|\_ _/|\_
ภิกษุทั้งหลาย ! เธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส อย่าได้ประมาท เธอทั้งหลายอย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจในภายหลังเลย

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา

Offline เด็กน้อย

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 62
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา
ขออนุโมทนาด้วยคนค่าาาา สำหรับหนูแล้ว โยนิโสมนสิการ นี่จำเป็นสุดๆเลยค่ะ อันที่จริงคงจำเป็นมากๆสำหรับทุกคนอยู่แล้ว อิอิ
หนูอยู่ไกลนิดนึงค่ะ เลยต้องคอยสังเกตตัวเอง ซึ่งก็ได้เรื่องบ้างไม่ได้เรื่องบ้างอะคะ ก็ค่อยไรู้ๆไปอย่างนี้ละคะ ^^
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย" ^^

Offline nitivit

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 73
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • Gender: Male
  • ดูอย่างเดียว
สาธุครับ _/|\_
คนไกลอย่างผมโยนิโสมนสิการนี่จำเป็นที่สุดเลยครับ
"สติจำเป็นในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ" หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช