Author Topic: คุณลุงค่ะ อาการแบบนี้นี่ติดเพ่งรึเปล่าค่ะคุณลุง  (Read 9823 times)

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
ยิ่งรู้ว่าหลงบ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีนะครับ

ทีนี้เวลาจะพัก แล้วจิตไม่ยอมพัก แต่เหนื่อยมากแล้ว ก็ต้องอาศัยวิธีการทำสมถะแบบฝรั่งบ้างก็ได้ครับ บอกกับตัวเองเบาๆเรื่อยๆว่า "ไม่มีอะไรแล้ว ขอพักผ่อน" ทำใจไว้ว่า มีแรงแล้วจะมาภาวนาต่อ แล้วก็บอกตัวเองเบาๆอย่างนี้ ในอิริยาบถที่สบายๆ เช่น นั่งเอกเขนก นั่งในเก้าอี้ที่นุ่ม วางศีรษะในทีๆมีที่หนุน แล้วก็บอกตัวเองว่า "ขอพักก่อน มีแรงแล้วเดี๋ยวจะภาวนาต่อ" บอกกับตัวเองเบาๆเรื่อยๆอย่างนี้ก็ได้นะครับ ลองดู

หากทำได้ คราวนี้ก็สบายหน่อยแล้วครับ จะพัก ก็พักได้ จะภาวนา ก็ภาวนาได้

แต่ถ้าเป็นช่วงใกล้สอบนะครับ อันนี้ต้องยอมที่ไม่ได้ภาวนาตามรูปแบบ แต่อาศัยกิจกรรมในระหว่างเว้นจากการเรียน การอ่านหนังสือ เช่น เดินไปหาน้ำดื่ม ไปเข้าห้องน้ำ ตอนอาบน้ำ ภาวนาไปก็ได้ครับ อย่างน้อยก็จะช่วยทำให้จิตยังคงคุ้นเคยกับการภาวนาอยู่บ้างครับ

ขอให้เจริญในธรรมครับ _/|\_
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา

Offline เด็กน้อย

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 62
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา
สวัสดีค่ะคุณลุง หนูขอขอบคุณคุณลุงมากๆๆๆอีกครั้งนะคะ

วันนี้หนูเอามาลงใช้แล้วคะ พอได้พักบ้าง แต่ยังพักไม่สนิทค่ะ
จะรู้ๆอยู่ (คือช่วงไหนที่รู้ก็จะคอยรู้อะคะ แต่ถ้าหลงไปนี่ก็นานเลยคะ แหะๆ)
บางครั้งหนูก็มีอารมณ์ขี้เกียจนะคะ ไม่อยากทำในรูปแบบ
แต่แค่รู้สึกแบบนี้ก็ รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องเลยค่ะ ไม่มีวินัย
เลยทำทุกวันมากบ้างค่ะ

หนูขอขอบคุณคุณลุงมากๆๆๆอีกครั้งนะคะ  _/l\_
รบกวนเวลาคุณลุงประจำเลย อิอิ ^^

ปล.คุณลุงค่ะ ถ้าอย่างเวลาที่เพื่อนให้หนูสอนการบ้าน ถึงแม้จะเหนื่อยๆ
แต่หนูก็รู้สึกว่า ไม่เป็นไร สอนเพื่อน เป็นทานบารมี ช่วยเพื่อนๆๆ
(ปกติหนูไม่ได้ทำทานด้วยการบริจาคอะไรเลยค่ะ ส่วนใหญ่มีแต่อภัยทาน
ธรรมทานบ้างนานๆที แล้วก็ช่วยเพื่อนเรื่องการบ้านอะไรแบบนี้อะคะ)
หนูก็ช่วยเต็มที่เลยนะคะ ที่หนูทำนี่ถือว่าทำตามกิเลสรึเปล่าค่ะ
(อันนี้จะนอกเรื่องการเจริญสติรึเปล่าค่ะ แหะๆ ขออภัยด้วยนะคะคุณลุง)
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย" ^^

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
อย่ากลัวเรื่องการทำสิ่งใดนะครับ จะเป็นกิเลสหรือไม่ใ่ช่กิเลส ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ เมื่อพิจารณาแล้วว่าสมควรทำ ก็ทำ และถ้าให้ดีที่สุด ก็ดูจิตเสียก่อน แล้วค่อยพิจารณาว่าควรทำหรือไม่ควรทำนะครับ

การดูจิตเสียก่อน ก็เพื่อให้ได้รู้จักกิเลสเสียก่อน เมื่อรู้จักกิเลสแล้ว จะทำตามกิเลสหรือไม่ทำตามกิเลส ให้พิจารณาจากความสมควร ทำแบบนี้ได้กำไร 2 ต่อครับ ต่อแรกก็คือ ได้เจริญสติ ได้ดูจิต ได้เห็นกิเลส ต่อที่สองก็คือ เมื่อพิจารณาแล้วว่าควรทำ แล้วได้ลงมือทำ ก็ได้ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์อีกครับ

กำไร 2 ต่อ ตามประสานักภาวนาครับ ^____^

ขอให้เจริญในธรรมครับ _/|\_
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา

Offline เด็กน้อย

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 62
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา
สวัสดีค่ะคุณลุง หนูขอขอบคุณคุณลุงมากๆๆๆเลยนะคะ

แค่พลิกนิดเดียว นี่ได้กำไรสองต่อจริงๆนะคะ
ต่อไปนี้หนูจะพยายามเก็บกำไรสองต่อนี้
เท่าที่จะทำได้ค่าาาา อิอิ

บางทีการตั้งจิตเป็นนี่ เปลี่ยนอะไรได้เยอะจริงๆนะคะ
บางครั้งหนูก็คิดได้ แต่บางทีก็เหมือนกบมากๆเลยค่ะ อิอิ

หนูขอขอบคุณคุณลุงมากๆๆอีกครั้งนะคะ _/l\_  ^^
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย" ^^

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
อนุโมทนาครับ _/|\_

ความจริงได้ต่อที่ 3 ด้วยนะครับ แต่จะเกิดเมื่ือทำดังที่ว่าบ่อยๆก็คือ จะได้นิสัยใหม่ นิสัยพิจารณาตามเหตุ ตามผล ตามความสมควร ไม่ใช้การตัดสินใจตามความรู้สึก ตามอารมณ์ ซึ่งกับเด็กผู้หญิงนั้นสำคัญมาก เพราะหากมีนิสัยนี้แล้ว หนุ่มๆมาหลอกยากครับ (ยกเว้น เรามีวิบากเก่าตามมาทันจริงๆ แต่เืมื่อได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว มีไม่เยอะหรอกครับ)
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา

Offline เด็กน้อย

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 62
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา
สวัสดีค่ะคุณลุง หนูขอขอบคุณคุณลุงมากๆๆๆเลยนะคะ

หนูจะพยายามต่อไปนะคะคุณลุง เผื่อว่าจะได้ต่อที่ 3 ที่คุณลุงบอกด้วยคะ อิอิ
หนูว่าอันที่จริงหนูก็พิจารณาตามเหตุผลในระดับนึงนะคะ แต่ก็อย่างที่คุณลุงว่าเลยค่ะ
บางทีก็ใช้ความรู้สึกเข้ามาร่วมด้วย อาจจะมากด้วยคะ อิอิ แต่อารมณ์สำหรับหนู
ไม่ค่อยเท่าไหร่ค่ะ ยิ่งพอตามดูจิตดูใจ ก็ทำให้เห็นอะไรได้เยอะขึ้นมากๆๆเลยคะ อิอิ

ที่หนูแอบกังวลก็คือ วิบากเก่าที่คุณลุงว่าจะตามทันนี่ละคะ ขึ้นชื่อว่า วิบาก ยังไง
ก็หนีไม่พ้นใช่มั้ยค่ะคุณลุง ฮือๆๆ สังสารวัฎช่างน่ากลัวเหลือเกินจริงๆค่ะ
ไม่รู้ว่าหนูเคยไปทำอะไรเอาไว้บ้าง แต่ตอนนี้จะไม่ยอมพลาดไปทำอะไรเพิ่มแล้วคะ
หนูจะพยายามเต็มที่เท่าหนูจะทำได้ค่ะ อิอิ

ขอขอบคุณคุณลุงมากๆๆ อีกครั้งนะคะ _/l\_ ^^
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย" ^^

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
เมื่อขึ้นชื่อว่า "วิบาก" ไม่มีใครที่จะปฎิเสธได้ เมื่อมาถึงต้องยอมรับ แต่ขอให้เชื่อเถอะครับว่า ปกติแล้ว วิบากที่ตามมาทันภพมนุษย์นั้น ไม่ได้หนักหนาสาหัสเท่าไหร่หรอกครับ แต่ส่วนที่ทำให้หนักหนาสาหัสเกินกว่าจะยอมรับได้จริง ก็คือ กรรมใหม่ที่ได้กระทำเมื่อได้รับวิบากนั้นๆต่างหากล่ะครับ

ต่อให้ได้พบกับเรื่องที่มักเป็นจุดอ่อนของเด็กผู้หญิง คือ เรื่องของความรัก แม้เป็นวิบากที่ส่งผลให้พบกับคนที่ตนพึงพอใจจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ก็ตาม แต่เชื่อเถอะครับว่า การเจริญสติที่เราเพียรฝึกฝนตนเองอย่างไม่เกียจคร้าน จะคุ้มครองให้เราไม่หลงไปกับคารมคมคาย หรือหลอกตัวเองให้หลงเชื่ออยู่กับคำหวานๆ หรือกับความเพ้อฝันลมๆแล้ง จนตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ แล้วกลายไปเป็นตราบาปให้กับตนเอง

เพราะความจริงแล้ว ทั้งหมดทั้งปวงนั้น เกิดจากกิเลสที่เราปล่อยให้ครอบงำจิตใจเราเอง หาใช่อะไรอื่น วิบากส่งผลกับเราได้เพียง เราได้พบกับสถานการณ์ที่จะชักนำเราไป แต่วิบากไม่ใช่ตัวการตัดสินใจของเรา การตัดสินใจเป็นมโนกรรม เป็นกรรมทางใจ ที่เราทำใหม่ๆสดๆ แม้ว่าจะมีส่วนหนึ่ง(ที่เป็นเหตุผลสำหรับการตัดสินใจ)ที่มาจากวิบาก คือ ผลของกรรมที่เราเคยทำในอดีตก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราต้องตัดสินใจไปตามสถานการณ์หรือสิ่งที่มากระทบเราเสมอไป

การเจริญสติปัฏฐาน ๔ จะทำให้เราตัดสินใจทำในสิ่งที่ควรทำ ด้วยความมีสติ มีปัญญา โอกาสที่จะทำความผิดพลาดนั้นก็จะมีน้อยลงๆ ลองสังเกตเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ดูนะครับ ท่านเองต้องผ่านเรื่องราวมามากมาย ทั้งลำบากและยาวนาน แต่ท่านไม่ทำในเรื่องที่ไม่ควรทำ ก็เพราะ ท่านเองนั้น ก็มีสติประกอบอยู่ด้วยเสมอ ซึ่งมิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ หรือเป็นพรของสวรรค์ แต่นั่นเป็นเพราะท่านฝึกฝนการเจริญสติปัฏฐานมาอย่างหนักแน่น และยังเจริญสติปัฏฐานทุกๆครั้งที่มีโอกาสได้ฟังคำสอนของพระบรมศาสดาในสมัยต่างๆ

อย่ากังวลกับวิบากที่จะตามมา แต่จงใช้เวลาที่มีอยู่ ฝึกฝนตนเองให้คุ้นเคยที่จะเจริญสติฯ ฝึกฝนจนเป็นนิสัยที่จะติดตามตัวไปทุกภพทุกชาติ ตราบใดที่ยังไม่สิ้นภพสิ้นชาติ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ แล้วเราจะรับวิบากได้อย่างทรนงองอาจ ด้วยความมีสติ ธรรมะจะรักษาผู้ประพฤติธรรมครับ

ขอให้เจริญในธรรมครับ _/|\_
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา

Offline เด็กน้อย

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 62
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา
สวัสดีค่ะคุณลุง หนูขอขอบคุณคุณลุงมากๆๆๆๆๆเลยนะคะ

หนูเข้าใจเรื่อง วิบาก และมโนกรรมที่เราเพิ่งทำ มากขึ้นเยอะเลยค่ะ
ต่อไปคงไม่ละเลยเหมือนเมื่อก่อน แต่ก่อนหนูจะคิดว่าเป็นผลจากวิบาก
ทำให้เป็นแบบนี้ๆๆๆ ที่เราทำแบบนี้ก็ผลจากวิบากมาให้ตัดสินใจ
เหมือนไม่ค่อยรับผิดชอบยังไงก็ไม่รู้อะคะ แหะๆ

แต่ถือว่าเป็นบุญมากๆๆเลยค่ะที่ได้รู้จักการเจริญสติ รู้สึกเหมือน
กับว่ามีสติคอยคุ้มครองอยู่ยังไงยังงั้นเลยค่ะ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะคะ อิอิ

ย่อหน้ารองสดท้ายนี่เต็มๆเลยค่ะ คุณลุง โดนใจมากๆๆๆเลยค่ะ
หนูจะใช้เวลาที่มีอยู่ฝึกฝนตนเองอย่างเต็มที่ค่ะ

ขอขอบคุณคุณลุงมากๆๆๆๆๆๆๆอีกครั้งนะคะ _/l\_   ^^
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย" ^^

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
ขออนุโมทนากับความตั้งใจนะครับ

เรื่องนี้ เป็นมิจฉาทิฎฐิที่ฝังรากลึกในคนไทยมากที่สุดแล้ว โดยเฉพาะผู้หญิงไทย จนทำให้เกิดการกระทำผิดศีลข้อนี้ได้แม้แต่ในหมู่นักภาวนาครับ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะครับที่เมื่อพบกับเหตุการณ์อย่างนี้แล้ว แล้วจะต้องเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีไม่งามเสมอไป มันแล้วแต่ว่ามีมิจฉาทิฎฐิในข้อนี้หรือเปล่า ถ้าไม่่มี เหตุการณ์ต่างๆก็จะไม่บานปลาย ผ่านเวลาไปช่วงเดียว ความรู้สึกต่างๆเหล่านี้จะค่อยๆคลายจางไป แต่ต้องรับมือกับสถานการณ์ในช่วงที่ขึ้นจุดสูงสุดให้ได้ ด้วยการเจริญสติปัฏฐานที่ถูกต้อง ไม่เพ่ง ไม่เคลิ้มในสมาธิ เพราะหากไม่มีสติคุ้มครองให้ดี (คือ หากไม่เจริญสติปัฏฐานไว้เนืองๆ) ยากนักจะผ่านได้ครับ เพราะอำนาจของกามกิเลสรุนแรงนักครับ

ก็ขออนุโมทนาอีกครั้ง สำหรับความตั้งใจที่จะเจริญสติปัฏฐานครับ เพราะความมีสติและรู้สึกตัว จะทำให้ไม่เกิดความประมาท อีกทั้งสติและสัมปชัญญะ จะช่วยคุ้มครองให้เรารอดปลอดภัย มากไปกว่าเพียงแค่ทำให้เราไม่ตัดสินใจทำผิดศีลเท่านั้น เพียงแต่เรื่องนี้ ลุงถนอมไม่ทราบกลไกตรงนั้น ว่าเป็นไปได้อย่างไรครับ อาจเป็นอำนาจของกรรมที่เคยเจริญสติปัฏฐานเนืองๆ ทำให้เกิดวิบากส่งผลเป็นความปลอดภัย ตรงนี้ก็ได้แต่เดา เคยได้ยินครูบาอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังว่า เืมื่อเจริญสติปัฏฐานเนืองๆ เวลาเกิดอุบัติเหตุ สติและสัมปชัญญะจะคุ้มครองให้ปลอดภัย จนบางรายรถพลิกไปแล้ว ไถลไปไกลมาก มีบาดแผลแค่รอยถลอกเล็กน้อยเท่านั้น

แต่หลักใหญ่ที่สำคัญจริงๆก็น่าจะเป็นเรื่อง การเจริญสติปัฏฐานแล้วจะทำให้ไม่ประมาทเป็นเบื้องต้น ทำให้มีศีลอัตโนมัติ ถึงความหลุดพ้นจากความทุกข์เป็นเบื้องปลาย ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์เป็นที่สุด

ขอให้เจริญในธรรมครับ _/|\_
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา

Offline เด็กน้อย

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 62
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา
สวัสดีค่ะคุณลุง หนูขอขอบคุณคุณลุงมากๆๆๆๆๆเลยนะคะ

ท่าทางกามกิเลสนี่น่ากลัวจริงๆนะคะ ยังดีนะคะที่หนูได้รู้จักการเจริญสติก่อน
จะไปเจออำนาจที่รุนแรงของกามกิเลสที่คุณลุงบอก อิอิ

สำหรับหนูที่เห็นได้ชัดจากการเจริญสติเป็นอย่างที่คุณลุงว่าเลยค่ะ
ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท รู้สึกได้เลยว่าชีวิตเราจะจบลงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เพราะฉะนั้น ต้องใช้ทุกลมหายใจให้มีคุณค่าที่สุด และนั่นคือ การภาวนา
ถึงจะรู้อย่างนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ดีค่ะ ทำเท่าที่ทำได้ค่ะ
บางครั้งก็รู้สึกว่าทำได้มากกว่านี้ แต่ดันแพ้กิเลส อ่านกระทู้เพลิน อิอิ
หรือช่วงนี้ไม่ค่อยสบาย แล้วคิดว่าไปพักผ่อนให้หายก่อนดีกว่า ทั้งๆ
ที่ก็คิดว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แบบว่า รู้ว่ากำลังโดนกิเลสหลอกเอา
ก็ยอมให้หลอกซะงั้น แหะๆ ใช้ไม่ได้มากๆๆๆๆเลยค่ะ
แต่บางทีก็ไม่ไหวเพราะทุกขสัจจริงๆค่ะ แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นทุกข์อุปาทานค่ะ อิอิ

หนูขอขอบคุณคุณลุงมากๆๆเลยนะคะ รู้สึกว่าหนูรบกวนคุณลุงเป็นประจำเลยค่ะ แหะๆ  _/l\_ ^^
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย" ^^

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา