บันทึก กรกฎาคม ๒๕๕๔

[ลุงถนอม]

การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ เป็นการศึกษาผู้อื่น ไม่เห็นสภาวะเอง จึงต้องตั้งสมมุติฐาน เพื่ออธิบายปรากฎการณ์

การศึกษาทางพระพุทธศาสนา เป็นการศึกษากายใจของตนเอง ได้เห็นสภาวะและกระบวนการจริงๆ ไม่ต้องตั้งสมมติฐาน ไม่ต้องคิดล่วงหน้า เฝ้าสังเกตการณ์ก็พอ

[ลุงถนอม]

มนุษย์แสวงหาอิสรภาพเพราะมีความ​ต้องการ(ให้ได้อย่างใจหวัง) แต่เพราะความต้องการนั้นเองกลับ​ทำให้มนุษย์สูญสิ้นอิสรภาพเสมอม​า

[ลุงถนอม]

ไม่ใช่ดูให้ชัด ไม่ใช่ไปฝืนเพื่อทำให้ชัด รู้ว่าไม่ชัด ใจอยากชัดรู้ว่าอยาก นั่นเรียกว่าเรายังรู้อยู่ / ลพ.ปราโมทย์ RT @sophony

[ลุงถนอม]

ทางเดินออกจากสังสารวัฏฏ์ ถูกปิดล็อคด้วยกุญแจ 3 ชั้น

ชั้นแรก การมีสติรู้กายรู้ใจตนเอง ถูกปิดล็อคเพราะคนทั่วไปจะสนใจแต่เรื่องราวของคนอื่น ไม่สนใจปัจจุบันของกายใจของตนเอง

ชั้นที่สอง การมีจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลาง รู้อารมณ์โดยไม่ถลำเข้าไปรวมกับอารมณ์ ถูกปิดล็อคด้วยสมาธิชนิดจมแช่กับอารมณ์

ชั้นที่สาม เห็นไตรลักษณ์ของสภาวธรรมทั้งหลาย ที่เป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน ถูกปิดล็อคด้วยการบังคับให้นิ่ง ให้ว่าง ไม่ให้เห็นไตรลักษณ์ของกายของใจตนเอง

พระโพธิสัตว์ ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 20 อสงไขยมหากัปป์ จึงจะเป็นผู้สะเดาะกุญแจ 3 ดอกนี้ได้ด้วยตนเอง

และใช้เวลาไม่น้อยกว่า 4 อสงไขยมหากัปป์ในการใคร่ครวญและสั่งสมความสามารถในการชี้ทางแก่ผู้อื่น

คำถามก็คือ เมื่อของยากกลายเป็นของง่าย (แต่ปรากฎอยู่เพียงชั่วคราว) แล้วเราจะพากันเพิกเฉย พากันประมาทอยู่หรือ?

[ลุงถนอม]

ลืมตัวเอง แล้วบอกว่ารักตัวเอง ลืมตัวเองบ่อยที่สุดแล้วเมื่อไรจะรู้เรื่องของตัวเอง เรามาเรียนเรื่องตัวเองให้ได้นะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมตัวเองนาน คอยรู้สึกกายคอยรู้สึกใจบ่อยๆ #ลพ.ปราโมทย์ RT @Sirijit

[ลุงถนอม]

"ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย คำว่าตาย ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าร่างกายเราตาย หมายถึงจิตใจคนเราตาย คือตายจากมรรคผลนิพพานต่างหาก" ลป.คำดี RT @dhammakru

[ลุงถนอม]

เราสร้างอะไรขึ้นมาหลอกตัวเองก่อน แล้วก็หลอกคนอื่นทีหลัง / ลพ.ปราโมทย์ RT@sophony

[ลุงถนอม]

จุดอ่อนของเราก็คือ เราซ่อนกิเลสเอาไว้ ขุดคุ้ยตัวเองขึ้นมา ปอกเปลือกตัวเองออก อย่าสร้างภาพลวงตา / ลพ.ปราโมทย์ RT@sophony

[ลุงถนอม]

สภาวะที่มาปรากฏโดยที่เราบังคับไม่ได้นั้นน่ะไม่ได้ทำให้เราเป็นทุกข์หรอก เราจะทุกข์ต่อเมื่อจิตของเราทะยานเข้าไปยึด ลพ. ปราโมทย์ RT @amberlotte

[ลุงถนอม]

ความจริง กับความลวง ต่างกันตรงที่ ความจริงจะความคงทนต่อการพิสูจน์ ไม่ว่าจะยาวนานเพียงใดก็ตาม

[ลุงถนอม]

ถ้าต้องทำชั่วเพราะอ้างความจำเป็น ชีวิตที่ว่าแย่อยู่แล้วก็จะจำเป็นต้องแย่หนักขึ้นไปอีก RT @somjade @sophony

[ลุงถนอม]

ที่ไม่เห็นจิตทิ่ตั้งมั่น เป็นกลาง เมื่อรู้ทันความไม่เป็นกลาง ก็เพราะเราคุ้นเคยแต่จิตที่ไม่เป็นกลางแต่ไม่เคยรู้ทัน จึงไม่รู้จักจิตที่เป็นกลาง

[ลุงถนอม]

คำว่าบารมีหมายถึงอำนาจ ผู้มีบารมีมากคือผู้มีอำนาจมาก คือทิฎฐิของฮินดู ไม่ใช่พุทธ

ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่จะมีผู้ยกย่องฮิตเลอร์ว่าเป็นผู้มีบารมีมาก เพราะเป็นความสับสน เมื่อมีความสับสนระหว่างอำนาจ กับบารมีในศาสนาพุทธ ก็เลยมีการยกย่องให้ฮิตเลอร์เป็นโพธิสัตว์ไปก็มี ทั้งๆที่โพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนานั้นหมายถึงผู้เสียสละตนเองเพื่อผู้อื่นอย่างแท้จริง แม้ต้องสละชีวิตของตนเอง หรือสละลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เพื่อผู้อื่น ก็สละได้

บารมีทั้ง 30 ประการของพระโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนานั้น มาจากการเสียสละตนเองล้วนๆ แม้กระทั่งสละชีวิตของตนเองเพื่อผู้อื่น แบ่งออกได้ 10 หมวด แบ่งระดับความเข้มข้นได้ 3 ระดับ รวมเป็น 30 ประการ

ส่วนที่เรียกว่าบารมี ก็มิได้หมายถึงการมีอำนาจ หรือการมีชื่อเสียง การมีลาภผล หรือความสุขสบาย หากแต่คือการทำความดีทุกๆประการจึงถึงที่สุดที่จะทำได้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนฝังรากลึกลงในชีวิตจิตใจ

คำว่า "อำนาจ" นั้น คนไทยใช้ในความหมายเดียวกับคำว่า เดช หรือ เดชะ เป็นการเขียนแบบสันสกฤต หากเขียนแบบบาลีก็คือ เตชะ หรือที่เราคุ้นเคยกันคือ เตโช ซึ่งหมายถึง "ไฟ"

ดังนั้น คำว่า "อำนาจ" นั้น มีความหมายโดยพื้นฐานคือ "ไฟ" หรือ การเผาผลาญ มิใช่การเสียสละตนแต่อย่างใด ห่างไกลจากคำว่าบารมีในศาสนาพุทธมาก แม้แต่เมตตา อันเป็นบารมีข้อแรก ด้วยซ้ำไป

[ลุงถนอม]

ถ้ายังภาวนาอยู่ มีด้วยหรือคำว่า "ผิดหวัง" หรือ "แปลกใจ"

[ลุงถนอม]

ในความสวยงาม ล้วนแฝงเร้นไว้ด้วยความโหดเหี้ยมเสมอ ในยามรุ่งอรุณ เราเห็นนกกาออกหากินด้วยความร่าเริง ใจเราเริงร่าไปด้วย แต่... บรรดาหนอนต่างๆคงรู้สึกสยดสยอง...