Author Topic: วิธีออกจากการเจริญสติ  (Read 5647 times)

Offline Aporn

  • Newbie
  • *
  • Posts: 24
  • คะแนนความนิยม: +1/-0
  • เมตตา สันติ เจริญสติ
สวัสดีคะคุณลุง  _/|\_ มีปัญหาอีกแล้วค่ะ  :-[ ขออนุญาตเล่านิดหนึ่งว่า เวลานั่งเจริญสติจะไปที่วัด ซึ่งที่นั่นจะมีที่วิเวก หนูจะไปเจริญสติที่นั่น ตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น (แบบว่าเย็นไม่รู้ตัว) ต่อมาได้ยินเสียงพระ-เณรมาเรียก ซึ่งเค้าบอกว่า ต้องเรียกกันนานทีเดียว (หนูไม่ได้ยินค่ะ) พอได้ยินก็ลืมตาทันที จึงทำให้เกิดอาการจะเป็นลม ใจเต้นเร็วมาก เหนื่อย และดวงตาไม่สามารถจับภาพที่มองเห็นได้ชัดเจน และไม่สามารถพูดกับใครได้ชั่วขณะ จนกว่า อาการเหล่านี้จะหายไป จะแก้ไขอย่างไรดีคะ หนูว่าต้องมีอะไรผิดไปแน่ๆ..ปล. หนูจะไปส่งการบ้านวันที่ 18 นี้ค่ะ หวังว่าจะไม่ถูกดุ  :-[

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาที่ตั้งใจจะไปส่งการบ้านนะครับ เพราะจะได้เกิดความมั่นใจ ว่าที่ปฏิบัติอยู่นี้ไม่ออกนอกทาง หรือหากมี(ถ้าจะมีนะครับ) ก็จะได้รับการแก้ไขได้ทันท่วงทีครับ  _/|\_

มาต่อกับคำถามนะครับ

Quote
สวัสดีคะคุณลุง  _/|\_ มีปัญหาอีกแล้วค่ะ  :-[ ขออนุญาตเล่านิดหนึ่งว่า เวลานั่งเจริญสติจะไปที่วัด ซึ่งที่นั่นจะมีที่วิเวก หนูจะไปเจริญสติที่นั่น ตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น (แบบว่าเย็นไม่รู้ตัว) ต่อมาได้ยินเสียงพระ-เณรมาเรียก ซึ่งเค้าบอกว่า ต้องเรียกกันนานทีเดียว (หนูไม่ได้ยินค่ะ

ครับ เมื่อเข้าสมาธิลึกๆแล้วก็จะเป็นเช่นนี้ครับ เพียงแต่ว่า สมาธิชนิดนี้ เป็นสมาธิสงบชนิดที่ใจไหลไปรวมกับอารมณ์ (ในที่นี้คือ ไหลไปรวมกับตัวบริกรรม เช่นลมหายใจ หรือคำบริกรรม) หรือว่าเป็นสมาธิชนิดที่มีจิตตั้งมั่นครับ (แต่ถ้าให้เข้าใจเอาเอง ก็จะเข้าใจเอาว่า เป็นสมาธิชนิดที่จิตไหลไปรวมกับอารมณ์ ขาดความรู้เนื้อรู้ตัวอยู่ ถ้าเป็นลักษณะนี้ ก็คือ เข้าฌานตามนิยามของหลวงปู่เทสก์ หรือสมาธิทั่วๆไปที่มีในทุกศาสนาครับ)

Quote
พอได้ยินก็ลืมตาทันที จึงทำให้เกิดอาการจะเป็นลม ใจเต้นเร็วมาก เหนื่อย และดวงตาไม่สามารถจับภาพที่มองเห็นได้ชัดเจน และไม่สามารถพูดกับใครได้ชั่วขณะ จนกว่า อาการเหล่านี้จะหายไป

เป็นอาการที่จิตถอยออกจากสมาธิเร็วเกินไป เป็นอย่างนี้ล่ะครับ ต่อไปให้ค่อยๆถอยออกมานะครับ ปกติแล้ว ถ้ามีคนมาเรียกจนได้ยิน จิตจะถอยออกจากฌานได้เองอยู่แล้วนะครับ แค่ปล่อยจิตเขา เขาก็ถอยออกมาเองอยู่แล้ว หายใจแรงขึ้นอีกนิด ขยับตัวเล็กๆน้อยๆ จิตก็จะถอยออกมาเร็วขึ้นได้อยู่แล้วครับ แต่ถ้าลืมตาทันทีล่ะก็ อาการจะเป็นอย่างที่เห็นน่ะครับ ยกเว้นว่าเป็นผู้ที่เข้าออกฌานได้อย่างรวดเร็วชำนาญช่ำชองที่เรียกกันว่า วสี น่ะครับ ถ้าอย่างนั้นจะไม่เป็นไร (แต่ก็ต้องฝึกออกแบบนี้ไปก่อน จนถึงช่วงหนึ่งเมื่อชำนาญ ก็ใช้เวลาน้อยลงจนแทบไม่ใช้เวลาเลย)

อย่าลืมขอคำแนะนำจากหลวงพ่อเรื่องการเข้าออกสมาธิด้วยนะครับ อย่าเชื่อลุงถนอมมากนักนะครับ แล้วก็ถามท่านเรื่องสมาธิที่เข้านี้ด้วย ว่าเป็นสมาธิชนิดใด ถ้าเป็นสมาธิชนิดที่มีจิตตั้งมั่น ก็อุ่นใจ เพราะจะเกื้อหนุนการภาวนาได้ดีมากๆในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าเป็นสมาธิชนิดที่จิตตั้งแช่ในอารมณ์ การเจริญสติใจชีวิตประจำวัน จำเป็นที่จะต้องตามรู้ตามดูกายให้มากเข้าไว้ ไม่งั้นจะทำให้กลายเป็นคนที่เรื่อยๆเปื่อยๆเฉื่อยชาในสายตาของคนอื่น หรือไม่ก็กลายไปเป็นคนที่เก็บตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และตาหูก็จะขวางพร้อมจะแว้งกัดใครก็ได้หากเข้ามาขวางทาง

ต้องสอบถามหลวงพ่อดูนะครับ (แต่ถ้าจะให้เข้าใจ จะเข้าใจว่า ว่าจะเป็นคนที่เลือกเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใครเสียมากกว่า)

ส่งการบ้านแล้วได้ความว่าอย่างไร แวะเวียนมาเล่าสู่กันฟังด้วยครับ ขอให้เจริญในธรรมครับ  _/|\_
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา

Offline Aporn

  • Newbie
  • *
  • Posts: 24
  • คะแนนความนิยม: +1/-0
  • เมตตา สันติ เจริญสติ
หนูไม่เคยมีอาการตาขวาง  ;D  ;D  ;D (หัวเราะน้ำตาไหล) หนูจะมีสติรู้ตัวดีอยู่ค่ะ ช่วงหลังมานี้หนูไม่ได้ใช้คำบริกรรมเลยคะ พอคู้บัลลังก์ได้ ก็ดูลมหายใจ อยู่กับกายอย่างเดียว มีแล่นแว๊บๆ บ้างแต่ก็ดึงกลับมาอยู่ที่กายได้เร็วมาก  แต่แปลกที่ไม่ได้ยินเสียงเรียก เหมือนกันแว๊บแรกไม่ได้ยินค่ะ ต่อมาจะได้ยินแต่ได้ยินไกลๆ และเสียงก็ค่อยๆ ใกล้ และชัดเจนจนลืมตาทันที

อาการแปลกอีกอย่างคือ ตอนหลับตานั่งเจริญสติในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เวลาได้ยินเสียงผู้คนคุยกันหนูจะฟังได้ศัพท์ดีอยู่ ต่อมาเสียงนั้นเริ่มห่างไป เริ่มฟังไม่ได้ศัพท์ ต่อมาเสียงนั้นเปลี่ยนเหมือนเสียงเพลงลอยลมเรื่อยๆ และห่างไกลออกไปจนไม่ได้ยินอะไรอีกเลยค่ะ อาการนี้เป็นปกติดีอยู่ใช่มั้ยคะ

ส่วนปกติแล้วหนูเป็นคนไม่ค่อยชอบอยู่ในที่ชุมชนที่มีคนคุยกันมากๆ เพราะช่วงหลังๆ เวลาเข้ากลุ่มกับผู้คนมากๆ มักจะมีแต่การพูดคุยกันเรื่องของชาวบ้านเป็นหลัก บางคนก็เล่าแต่ความทุกข์ที่ประสบ บางคนก็ชอบชวนไปดูหมอ กินยาวิเศษ ชวนตระเวณทำบุญ ขอเงินบริจาคสร้างนู้นนี่ ที่หนักๆ ก็ชอบชวนมานอนวัด  :-[ อะไรประมาณนี้ หนูคิดว่ามันเสียเวลาปฏิบัตินะคะ หลายปีมานี้ก็เลยหลีกๆ ออกมาหาที่วิเวกที่เราจะภวนาได้ หนูไม่ได้มีความเชื่อว่าไปนอนวัดแล้วจะปฏิบัติได้ดี  :P (ตัวกูเกิดขึ้นแร้ววว)  ขอบคุณคุณลุงอีกครั้งนะคะ  _/|\_

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
ไม่ค่อยตาขวางเพราะปลีกวิเวกมาได้สิครับ ลองคลุกคลีมากๆดู จะเห็นกิเลสอีกพวกหนึ่ง พวกโทสะเข้ามาในใจไม่น้อยเลย

อาการทางสมาธิที่บอกมา เหมือนกับอาการของจิตที่เข้าฌานนะครับ เข้าฌานแบบจิตสงบ ไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวอยู่

แนะนำว่า ต้องขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากหลวงพ่อปราโมทย์นะครับ อย่างน้อยจะได้ทราบแน่ชัดว่า เป็นการเข้าสมาธิแบบใดกันแน่ หากเป็นการเข้าสมาธิชนิดให้จิตได้พักผ่อน จะได้รู้ว่า ออกจากสมาธิแล้ว ต้องมาขยันดูกายที่เคลื่อนไหว (สัมปชัญญบรรพ ในกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน) หรือ ดูร่างกายยืนเดินนั่งนอน (อิริยาบถบรรพ ในกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน) ให้มากขึ้นน่ะครับ

ขอให้เจริญในธรรมครับ _/|\_
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา