Author Topic: สภาวะธรรม  (Read 6720 times)

Offline Lily

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 56
  • คะแนนความนิยม: +2/-0
  • เมตตา สันติ เจริญสติ
สภาวะธรรม
« on: Thu 25 Oct 12, 10:17:32 »
สวัสดีค่ะ ลุงถนอม
ลิลี่หายไปซะนานค่ะ ไม่ได้เข้ามาคุยแต่ก็แวะเวียนเข้ามาดูเวปเรื่อยๆค่ะ มาคราวนี้จะมารบกวนถามเรื่องสภาวะธรรมค่ะ ซึ่งค่อนข้างเข้าใจยากไม่รู้จะถามใครดีค่ะ
คือ เกิดสภาวะธรรมบางอย่างที่เกิดขึ้นแล้วจับใจมากค่ะ จิตวนคิดไปหาสภาวะธรรมนั้นๆเรื่อยๆ ด้วยความกลัว กลัวมากๆค่ะ ไม่เข้่าใจเหมือนกันค่ะว่าคือ อะไรแต่พยายามจะอยู่กับปัจจุบัน ก็ทำไม่ค่อยได้ค่ะ วนไปคิดด้วยความกลัวอยู่เรื่อยไปค่ะ
เหตุการณ์คือ ลิลี่ปวดท้องมากๆค่ะ แล้วพี่สาวก็ไปส่งหาหมอตอนประมาณ ตี 4 ค่ะ พอไปหาหมอๆก็ฉีดยาลดกรดและแก้ปวดท้องค่ะ อาการก็ดีขึ้นค่ะ แต่ระหว่างนั้นเกิดอาการร้อนมากๆค่ะ เหมือนร่างกายกระสับกระส่ายตลอดเวลา ถามคนอื่นเค้าก็ไม่มีใครร้อนค่ะ
แล้วก้กลับบ้าน ก้ยังเป็นอยู่ค่ะ เหมือนไม่ค่อยมีสติ สมาธิเลย กระสับกระส่ายอยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องขยับตัวตลอดเวลา จิตกระจายฟุ้งซ่านมากๆค่ะ รู้สึกเหมือนไม่ใช้จิตของมนุษย์เลยค่ะ ปรกติเคยป่วยจะทรมานแค่ไหนใจก็พอมีสมาธิ สิติ แบบโลกๆของมนุษย์ทั่วๆไปอยู่ได้บ้างค่ะ จะมีความทุกข์ยังงัยใจก็ไม่ใช่แบบจะแตกกระจาย ทรมานกาย ใจ แบบนี้ค่ะ..เกิดสภาวะแบบนี้ใจก็เป็นโทสะซ้ำคือ ทรมานและกลัวมากๆค่ะ ลิลี่ก็หลับตาลงนอนแล้วก็นึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วก้อธิฐานจิตว่า ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นจะยอมรับ ชดใช้หนี้กรรมเค้าไป ทุกอย่างยุติธรรมแล้วค่ะ ใจก้พอสงบลงค่ะ แล้วก็พยายามตามรู้ ตามดูสภาพจิตค่ะ แล้วจิตก็นึกขึ้นว่า ขอให้สภาพจิตเป็นจิตปรกติธรรมตา และ มีสมาธิ สติ ธรรมดาเหมือนมนุษย์นี้ก็บุญ นักหนาแล้ว เป็นสภาพจิตที่ไม่ทรมารเช่นที่พบเจอ ชาตินี้จะลำบากกายใจ ทุกข์ยังงัย ก็ยังเป็นจิตที่มีสมาธิ สติ เป็นมนุษย์สู้กับชีวิตให้ัดีขึ้น ลิลี่ไม่ได้คิดไปเองนะคะ คือ สภาวะที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่เหมือนทั่วไปที่เคยเจอ จำได้ว่าตอนเด็กๆ เคยเจอแบบนี้หนนึงทรมารมาก นานไม่หลับ ใจหมุนเวียนกับทุกข์มากๆ ไม่รู้สาเหตุเหมือนเครียดๆมากๆเศร้าหมองจนอยากตายซ้ำๆ ...ตอนนี้กลัวมากๆ มากที่สุดจริงๆค่ะ จนวนกับไปคิดถึงสภาวะแบบนั้นแล้วก็กลัวมากๆจริงๆค่ะ รบกวนช่วยแนะนำลิลี่ด้วยค่ะ เอาบุญค่ะ ผ่านไปไม่ได้จริงๆค่ะ แล้วตอนนี้ก็ป่วยด้วยค่ะ
พยายามมีสมาธิ สติ ก็ไม่ได้มากค่ะ รู้ว่าถ้าคุณภาพใจดี จะไม่เกิดจิตชนิดที่น่ากลัวแบบนั้นค่ะ..เป็นไปได้มั้ยคะ ว่าสภาพจิตชนิดนั้นเป็นสภาพจิตของจิตที่ลงอบาย อยู่ในความทุกข์ทรมาณทั้งกายและใจ ไม่สามารถอยู่สงบนิ่งทางใจได้เลย ต้องฟุ้งซ่านทรมาณร้อนรนตลอดเวลา ลุงถนอมคะ ช่วยลิลลี่ด้วยค่ะ ทางเดียวที่เราทำได้คือ ฝึกสติ อยู่กับปัจจุบัน ทำใจให้เป็นกลาง แล้วเราจะไม่พบเจอสภาวะเช่นนั้นได้หรือไม่คะ..แต่ตอนนี้เป็นปรกตินะคะ คือ เป็นจิตชนิดธรรมดาค่ะ ไม่ร้อนรนทุรนทุลายแบบนั้นค่ะ แต่ใจยังกลัวมากค่ะ ไม่เคยกลัวอะไรอย่างนี้มาก่อนเลยค่ะ ลิลลี่ไม่กล้าเล่าให้่ใครฟัง คงไม่มีใครเข้าใจ แล้วก็พบเจอเหมือนลิลี่หรอกค่ะ เค้าจะหาว่าบ้าเอาค่ะ

ช่วยแนะนำด้วยนะคะ กำลังสับสนหลงทาง ไม่สามารถถอนจากความกลัวเหล่านั้นได้เลยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ
         

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
Re: สภาวะธรรม
« Reply #1 on: Sun 28 Oct 12, 13:51:23 »
ความจริงแล้ว เราไม่ควรที่จะตั้งเป้าภาวนาเพื่อจะไม่ให้เจอกับสภาวะอย่างโน้น สภาวะอย่างนี้ หากแต่เราภาวนาก็เพื่อให้รู้ว่า สภาวะทั้งหลายล้วนแต่แปรปรวนเปลี่ยนแปลง มีเหตุก็เกิด หมดเหตุก็ดับ บังคับไม่ได้ แม้แต่ตัวใจของเราเอง เราก็ยังสั่งไม่ได้ ยังบังคับไม่ได้ เพราะหากว่าสั่งได้ เราคงสั่งให้ใจไม่กลัว หรือไม่ให้เกิดอาการดังที่เล่ามาให้ฟังได้นะครับ

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ล้วนแต่เป็นผลจากการกระทำของเราทั้งสิ้นครับ เมื่อเราทำ เราก็ต้องเป็นผู้รับผลของการกระทำ เมื่อผลของการกระทำนั้นมาถึงตัวเรา เราก็ได้แต่เยียวยาหรือรักษาผลอันเกิดจากรรมนั้นๆไปครับ เราไม่สามารถจะสร้างกรรมใดมาหักล้างกรรมเก่าที่เรายังไม่ได้รับ เราทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ แต่หากเป็นกรรมที่เราเคยรับไปแล้ว แล้วยังคงหลงเหลือเศษกรรมอยู่บ้าง ตรงนี้ หากเราทำคุณงามความดี เช่น การมีสติ เราก็อาจไม่ต้องรับเศษของผลกรรมนั้นอีก ก็จะคล้ายว่าผลของเศษกรรมนั้นก็จะละลายหายสูญไปเอง เหมือนเศษไม้ที่ผุพังไปเองไปตามกาลเวลานั่นล่ะครับ

ดังนั้น เวลาที่เกิดความกลัวนะครับ จิตใจกระวนกระวาย ดิ้นรนหนี ให้รู้ทันจิตใจที่กระวนกระวาย ไม่ใช่การพยายามข่มใจเป็นไม่กลัวนะครับ
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา

Offline Lily

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 56
  • คะแนนความนิยม: +2/-0
  • เมตตา สันติ เจริญสติ
Re: สภาวะธรรม
« Reply #2 on: Wed 31 Oct 12, 08:23:50 »
สวัสดีค่ะ คุณลุงถนอม  _/|\_

ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยแนะนำ ช่วงนี้ร่างกายไม่ค่อยสบาย ใจก็ไม่ค่อยสบายตามร่างกายค่ะ เกี่ยวเนื่องโยงยัยตัดกันไม่ขาดค่ะ เนื่องจากสภาวะเข้าไปรวมกันเรียบร้อยแนบแน่นสนิทค่ะ
จะพยายามทำความเข้าใจและยอมรับในคำกล่าวที่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราล้วนเป็นผลจาการกระทำของเราทั้งนั้น ช่วงนี้สภาพร่างกายแย่ค่ะ แล้วก็ตั้งครรย์ด้วยค่ะ ทำให้ร่างกายแย่หนักค่ะ
จิตใจก็ไม่ค่อยเบิกบานค่ะ กังวลหลายอย่าง แต่เมื่ออ่านข้อความของลุงถนอมแล้วก็สบายใจขึ้นค่ะ พร้อมยอมรับกับสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นค่ะ ปรกติแล้วคนที่จะเป็นแม่ย่อมห่วงกังวล
ตั้งแต่ลูกอยู่ในท้องว่าจะสมบูรณ์มั้ย ก็เป็นธรรมดาที่ดังคำสอนที่ว่าความรัก ย่อมก่อให้เกิดทุกข์ถ้ารักไม่เป็น เหมือนภวนามามากมายแต่เอาเข้าจริงไม่สามารถพัฒนาจิตวิญญาณให้ดีขึ้นได้เลย
ไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงได้เลย ไม่เห็นตามจริงได้เลย มีแต่อยากอย่างนั้นอย่างนี้ กังวลนั้นนี้ กลัว นั่นนี่ ไม่ได้เรื่องเลยค่ะ ไม่สมกับเป็นศิษย์มีครูเลยค่ะ ...ท้อแท้ไม่เบิกบาน..
กรรมหลายอย่างที่โยงยัยทำให้เกิดเป็นพ่อแม่ลูกกันนะคะ กรรมเก่ามาเช่นไรทำให้ต้องพบเจอ ชดใช้ก็ชดใช้กันไปนะคะ ยังมี ณ ปัจจุบันให้สร้างกรรมใหม่ที่ดีนะคะ..สู้ๆ ค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
Re: สภาวะธรรม
« Reply #3 on: Thu 1 Nov 12, 12:05:14 »
เรื่องของความเจ็บป่วย และเรื่องของจิตที่ยังเข้าไปรวมกับสภาวะเมื่อร่างกายเจ็บป่วยนั้น เป็นเรื่องปกติของปุถุชนนะครับ พระอริยะท่านบางชั้นบางภูมิท่านก็ยังมีอาการอย่างนี้เลยครับ ดังนั้น อย่าได้คิดน้อยเนื้อต่ำใจใดๆเลยนะครับ แต่การที่ร่างกายเจ็บป่วยแล้วใจนั้นไหลเข้าไปรวม เกิดความไม่ชอบใจรุนแรงบ้าง ไม่รุนแรงบ้าง เราก็ยังสามารถอาศัยเป็นเครื่องเจริญสติได้นะครับ

เราอาศัยสิ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ คือ ความเจ็บป่วยของร่างกาย และเวทนาต่างๆที่เกิดแทรกขึ้น เป็นเครื่องเจริญสติปัฏฐานต่อไปได้ครับ เพราะการที่เราไม่สามารถหลีกหนีมันไปไหนได้ มันทำให้เราเหลือทางเลือกเพียงทางเดียวก็คือ รู้ เท่านั้นครับ

รู้ แล้วจิตเกิดความไม่ชอบ ก็รู้ทันว่าจิตไม่ชอบ
รู้ แล้วจิตเกิดความกระวนกระวาย ก็รู้ทันว่าจิตเกิดความกระวนกระวาย
รู้ แล้วจิตทุรนทุรนดีดดิ้น ก็รู้ทัน ว่าจิตเกิดความทุรนทุรายดีดดิ้น

รู้ แล้วจิตมีปฏิกริยาอย่างไร เราก็รู้ทัน ปฏิกริยาต่างๆของจิต นานไปเข้าเราก็จะเห็นว่า จิตนั้นไม่ได้อยู่ในอำนาจ สั่งให้เป็นสุขก็ไม่ได้ สั่งให้สงบก็ไม่ได้ จิตจะดีดดิ้นทุรนทุราย ก็ห้ามไม่ได้ จิตจะพลุ่งพล่าน ก็ห้ามไม่ได้ ให้ดูไปอย่างนี้เลยนะครับ

เมื่ออยู่ในระหว่างตั้งครรภ์นะครับ ให้ทำใจสบายๆ แล้วสวดอิติปิโสฯไปเรื่อยๆนะครับ ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเอาไว้นะครับ พอจิตน้อมไปทางเศร้า หรือกังวล พอรู้ทันแล้ว ก็กลับมาสวดมนต์ต่อนะครับ สวดอิติปิโส่ท่อนแรกนะครับ ท่อนพระพุทธน่ะครับ

ขอให้แข็งแรงทั้งแม่และลูก ขอคุณพระรัตนตรัยคุ้มครองให้ทั้งแม่และลูกสุขกายสบายใจครับ -/\-
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา

Offline Lily

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 56
  • คะแนนความนิยม: +2/-0
  • เมตตา สันติ เจริญสติ
Re: สภาวะธรรม
« Reply #4 on: Fri 2 Nov 12, 10:28:28 »
ขอบพระคุณมากค่ะที่คอยเตือนสติมาตลอดค่ะ  _/|\_
จะพยายามฝึกตามค่ะ ในเมื่อหนีไปไหนไม่ได้ก็ต้องสู้ รู้ไปค่ะ  _/|\_

ท้อแต่ไม่ถอย บนรอยทางแห่งพระธรรม  _/|\_

ขอบพระคุณมากๆค่ะ ด้วยหัวใจ ที่คอยประคับประคองเตือนสติมาตลอดค่ะ บนเส้นทางที่จะถูกซัดเซไปทางไหน ก็ยังไม่รู้
ก่อนหน้านั้นก็เกิดสภาวะ เบื่อโลกค่ะ แต่เป็นการเบื่อด้วยโทสะค่ะ เบื่อเพราะอยากหนีทุกข์ เห็นแต่ทุกข์ไปทุกที่ค่ะ หาความสุขอะไรไม่ได้เลยค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
Re: สภาวะธรรม
« Reply #5 on: Wed 7 Nov 12, 17:31:30 »
-/\- อนุโมทนานะครับ
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา

Offline Lily

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 56
  • คะแนนความนิยม: +2/-0
  • เมตตา สันติ เจริญสติ
Re: สภาวะธรรม
« Reply #6 on: Tue 11 Dec 12, 15:42:55 »
สวัสดีค่ะ  _/|\_
ลุงถนอมสบายดีมั้ยคะ ว่างๆ ลิลี่ก็จเข้ามาทักทายค่ะ ช่วงนี้สุขภาพไม่ค่อยดีค่ะ เป็นเรื่องธรรมชาติไปแล้วค่ะ เรื่องสุขภาพ คงเป็นผลจากอดีตนานแสนนานจำไม่ได้ ก็ได้แต่ประคับประคองไปค่ะ
วันนี้ไม่มีอะไรมากค่ะตั้งใจแวะมาทักท่ายค่ะ บางครั้งสิ่งที่เราคิดกับความจริงก็ไม่ใช่สิ่งเดียวกันเสมอไปค่ะ ปรกติลิลี่เป็นคนช่างฟุ้ง และ ขี้กังวลมากๆ เป็นวิบากจิตจริงๆค่ะ พื้นคือ โทสะ และ ราคะจริต ออกแนวฟุ้งกระจาย
ลิลี่ส่งสัยว่า ขณะที่จิตเราปรุงแต่ง ฟุ้งๆไปเรื่อย มีภาพะอะไรต่างๆที่เหมือนจนตนาการขึ้นมาบ้าง เป็นเรื่องราวบ้าง พอมีสติมันก็ดับไปตามธรรมดาของมัน และความกังวลก็เช่นกันพอมีสติ มันก็ดับไป ลิลี่ก็ฝึกไปเช่นนี้เรื่อยๆค่ะ
แต่ที่สงสัยคือ จิตนี่ วิจิตรจริงๆ ค่ะ เค้าก่อเรื่องราวเป็นภาพ เป็นเหตุการณ์ต่างขึ้นให้หัวทั้งเก่าและใหม่โดยที่มันไม่ใช่เราเลยค่ะ ลิลี่ก็เห็นว่ามันไม่ใช่เราค่ะ มันทำของมันเองแล้วเราก็บังคับไม่ได้แม้ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ สงสัยว่าสาเหตุอะไร
ที่เค้าสร้างเรื่องราว ก่อภาพจินตนาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงบ้างไม่จริงบ้าง ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง แต่ที่แน่ๆบังคับมันไม่ได้ค่ะ ( รู้ว่าอาจจะโดนดุที่สงสัยมากมาย อิอิ แต่มันชอบหาสาเหตุรากเหง้าที่มันเป็นค่ะ ) ..
ลิลี่รู้สึกว่า มีวิบากแห่งจิตติดมามากมายเหลือเกิน ก่อทุกข์แสนเหลือ เกิดแต่จิตชนิดที่สร้างทุกข์ เป็นอกุศล จิตที่เป็นกุศลเกิดขึ้นน้อยนิดเหลือเกิน...

กรรมเก่าที่ผ่านไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ จะอดทนฝึกสร้างกรรมใหม่ที่ดีเพิ่มเติมลงไปค่ะ

ขอบคุณค่ะ   _/|\_

Offline ลุงถนอม

  • Administrator
  • Super Member
  • *
  • Posts: 2,296
  • คะแนนความนิยม: +8/-0
  • Gender: Male
  • สติปัฏฐาน ๔ คือทางสายเดียวที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
Re: สภาวะธรรม
« Reply #7 on: Thu 24 Oct 13, 06:42:33 »
เรื่องของสุขภาพ บางทีก็ควรลองวิธีใช้กระแสของจิต พลังของจิต เข้ามาช่วยบ้างนะครับ ลองดู

วิธีการก็คือ สวดอิติปิโสฯ ไปเรื่อยๆนะครับ แล้วค่อยใช้ความรู้สึกไล่จากกลางกระหม่อมไปตามร่างกายจนถึงเท้า พอพ้นเท้าแล้วก็เริ่มใหม่ จากกลางกระหม่อมไล่ลงไปตามร่างกายไปถึงเท้าอีก แล้ววนทำใหม่ไปเรื่อยๆครับ

แรกๆทำยาก ก็ลองใช้มือค่อยๆลูบร่างกายจากกลางกระหม่อม ไล่แตะเบาๆไปเรื่อยๆ จนถึงกลางฝ่าเท้าครับ พอเริ่มไล่เองได้เป็นแล้ว ไม่ต้องใช้มือช่วย เวลาที่จะทำ ก็ให้นั่งเก้าอี้ ฝ่าเท้าสองข้างเหยียบพื้นในเต็มเท้าแล้วก็ทำอย่างที่บอกไปครับ หากสามารถนั่งแล้วเหยียบบนพื้นดินได้ด้วย ก็ยิ่งดีครับ
คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา