Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - Dawnheart

Pages: [1]
2
ความจริงแล้ว จิตจะบังคับได้ หรือบังคับไม่ได้ หรือจิตจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของจิต
หน้าที่ของเราผู้ปฏิบัติ มีแค่ รู้ลงปัจจุบันอย่างเดียว

ขอบคุณคุณลุงครับที่ช่วยเตือนสติ  _/|\_

6
รบกวน คุณลุงถนอมอีกหน่อยนะครับ

พอดีเมื่อกี้ผมอ่านที่คุณลุงให้คำแนะนำกับคุณ ladybug25 ว่า
"ความจริงแล้ว อาการอะไรเกิดกลางอกก็ตาม อย่าคิดว่านั่นคือจิตเสมอไปนะครับ ดังนั้น เวลาไปสนใจมอง ก็ให้รู้ว่าสนใจ (ถ้ามองนานๆแล้วรู้ว่ามองนานๆ อันนั้นไม่ใช่การดูจิตแล้วครับ แต่ต้องรู้กิเลสที่กำลังครอบงำจิต คือความสนใจ) เวลาที่จงใจไปแช่ดู ก็ให้รู้ว่าจงใจ (ไม่ใช่รู้ว่าแช่นะครับ เพราะการแช่นั้นเราบังคับจิต การแช่เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้น หากเราไปรู้ว่าแช่อยู่ เราจะเห็นว่าจิตบังคับได้ จะส่งเสริมมานะอัตตาครับ)"

มีบางครั้งที่ผมรู้สึกลึกๆ ว่า "เราบังคับจิตได้ จิตเป็นของบังคับได้"
สงสัยผมอาจจะดูผิดตัว อย่างที่คุณลุงแนะนำทางด้านบน คือ ผมอาจจะไปดูสิ่งที่ผมเองสร้างขึ้น และรู้สึกว่ามันบังคับได้
จริงๆ ผมก็รู้ว่ามันผิด เพราะพระพุทธเจ้าท่านก็บอกอยู่แล้วว่า จิตเป็น อนัตตา เราไม่สามารถบังคับมันได้
แต่ก็อย่างที่บอกว่า ความรู้สึกลึกๆ เหมือน จิตสามารถบังคับได้ อาจเป็นเพราะก่อนที่จะได้มาฟังธรรมจากหลวงพ่อ ผมเป็นคนที่ชอบบังคับจิตตัวเองครับ  :P

คุณลุงครับ เราจะมีวิธีการรู้ หรือแยกได้อย่างไรว่า อันไหนคือสิ่งที่จิตทำขึ้นเอง หรืออันไหนคือสิ่งที่เราจงใจทำขึ้นมาครับ
(คือ จริงๆคำแนะนำของ คุณลุงด้านบนก็ชัดเจนในระดับนึงอยู่แล้ว แต่อยากให้คุณลุงช่วยขยายความเพิ่มเติมให้เห็นชัดยิ่งขึ้นด้วยครับ)

7
ทั้งๆที่ผมก็เคยฟัง หลวงพ่อท่านเทศน์ เกี่ยวกับการมีสติลงในปัจจุบันแล้วนะครับ
แต่พอตอนที่ปฏิบัติจริงๆ ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง ผมกลับลืม Key word คำว่าปัจจุบันไปได้
กลับไป จมปลักอยู่กับอดีต หรือไม่ก็กังวลเรื่องอนาคตซะงั้น  :P

ผมชอบคำนี้มากๆ "เราไม่สามารถภาวนาในอดีตได้ เราไม่สามารถภาวนาในอนาคตได้ แต่ความจริง เราสามารถภาวนาได้แค่ขณะเดียว คือ ขณะปัจจุบันนี้เท่านั้น"

ขอน้อมรับคำแนะนำของคุณลุงไปปฏิบัติครับ
และ ขอขอบคุณลุงถนอมมากครับ สำหรับคำตอบที่ชัดเจนถึงจิตถึงใจมากๆ _/|\_

8
ลุงถนอมครับ

การใช้ชีวิตปกติธรรมดา และปฏิบัติธรรม(ตามรู้กาย รู้ใจ)ควบคู่ไปด้วยในแต่ละวัน
ผมรู้สึกว่ามีหลายๆ ครั้งที่ไม่ทราบว่า ผมปฏิบัติตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไปครับ

คือ ตั้งแต่ตื่นนอนผมก็จะสังเกตุดูจิตดูใจตัวเอง ดูร่างกายเคลื่อนไหว รู้บ้างเผลอบ้าง
แต่พอเวลาอยู่ที่ทำงานจะรู้สึกว่าหลงนานมาก ทั้งเวลาทำงานบ้าง คุยกัยคนโน้นคนนี้บ้าง
ประชุมบ้าง เดินไปไหนมาไหนบ้าง ฯลฯ กว่าจะรู้ตัวนี่เป็นชั่วโมงๆ เลยครับ
รู้สึกว่าเราหย่อนเกินไป (พอรู้สึกว่าหย่อนเกินไปจิตมันก็จะเพ่งขึ้นมาครับ)
พอกลับถึงบ้านก็นั่งเล่นคอมบ้างตามโอกาส และปฏิบัติตามรูปแบบคือสวดมนต์ นั่งสมาธิ(บริกรรมพุทโธ)
ประมาณ 10-20 นาที ตอนนอนก็นอนรู้สึกดูกายที่นอน และสักพักจิตเค้าก็หลง
ไปคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้รู้บ้างไม่รู้บ้างแล้วก็หลับไป

โดยภาพรวมรู้สึกว่าตัวเองหย่อนเกินไปครับ
ผมขอคำแนะนำวิธีที่จะปฏิบัติธรรมควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตประจำวันธรรมดาๆ จากลุงครับ

ขอบคุณครับลุง

Pages: [1]