ยิ่งคิด ยิ่งไม่รู้ หยุดคิด จึงรู้ แต่ต้องอาศัยคิด
เรื่องคิดกับรู้นี้ สามารถเข้าใจได้มากกว่าหนึ่งนัย
ส่วนตัวผมเองชอบที่จะเข้าใจไปตามนัยว่า
ขณะที่คิดจะไม่ใช่ขณะที่รู้ เมื่อระลึกได้ว่าจิตคิดไปแล้ว
จิตทีี่คิดจะดับไป เกิดเป็นจิตที่รู้ว่าเมื่อกี้จิตหลงไปคิด
หรือจะเข้าใจอีกนัยหนึ่งก็ได้ว่า
การจะภาวนาให้เกิดปัญญานั้น ต้องใช้กระบวนการรู้
ไม่ใช่ใช้กระบวนการคิด แต่ในเบื้องต้นก็ต้องใช้กระบวนการคิด
เพื่อให้เข้าใจหลักการภาวนาจนสามารถปฏิบัติภาวนาด้วยการรู้ได้
เมื่อมีจิตรู้ได้แล้ว ก็จะสามารถรู้รูปนามจนเห็นการเกิดดับของรูปนามได้
การเห็นรูปนามเกิดดับซ้ำๆ ไป ก็จะเกิดปัญญา
เข้าใจแจ่มแจ้งความเป็นไตรลักษณ์ได้
(การเข้าใจคำครูบาอาจารย์ในบางคำนั้น สามารถเข้าใจได้หลายนัย
ขึ้นกับภูมิจิตในขณะปัจจุบัน เมื่อหัดภาวนาใหม่ๆ ก็จะเข้าใจไปอย่างหนึ่ง
ภาวนาไปมากเข้าความเข้าใจก็เปลี่ยนไปอีกนัยหนึ่งหรือลุ่มลึกมากขึ้น)
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่