Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : รู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังเจริญวิปัสสนาเห็นไตรลักษณ์ของสภาวะธรรมอยู่?

รู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังเจริญวิปัสสนาเห็นไตรลักษณ์ของสภาวะธรรมอยู่?

ต้องสังเกตว่า ที่เห็นนั้นเห็นแบบมีจิตเป็นผู้รู้อยู่อีกส่วนหนึ่ง
หรือว่าเห็นแบบจิตไปจ่อจ้องกับสิ่งกำลังดู
ถ้าเห็นแบบมีจิตเป็นผู้รู้อยู่อีกส่วนหนึ่ง ก็เป็นการเจริญวิปัสนาได้ครับ

ไตรลักษณ์ ไม่ใช่ความว่างเปล่า
แต่เป็นลักษณะของทุกสภาวะแม้แต่ความรู้สึกว่าว่างเปล่าแบบไม่มีอะไร
คือเกิดแล้วย่อมดับไป เกิดแล้วย่อมคงทนไม่ได้ ไม่อยู่ใต้อำนาจควบคุมของใคร

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

หลักการวางตัวของผู้ปฏิบัติธรรม (๑) มักน้อย สันโดษ

mp 3 (for download) : หลักการวางตัวของผู้ปฏิบัติธรรม (๑) มักน้อย สันโดษ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : พวกเราต้องเรียนว่าหลักของการปฏิบัติจริงๆเป็นยังไง การจะวางตัวควรจะวางตัวแบบไหน อันนี้ต้องเรียนเอา

การจะวางตัวของผู้ปฏิบัติต้องมักน้อย แต่ฆราวาสเนี่ย มักน้อยยังเป็นเรื่องรองนะ มักน้อยเนี่ยสำหรับพระเป็นหลักเลย นักบวช ปรารถนาน้อยหมายถึงว่า อย่างพระอย่างหลวงพ่อเนี่ย มีลาภสักการะมากอาหารมาก อาหารมากเราบริโภคทั้งหมด ผิดมั้ย ไม่ผิดนะ สันโดษมั้ย สันโดษ เพราะยินดีตามมีตามได้ แต่มันได้เยอะ หลวงพ่อได้จีวรมาปีนึงหลายร้อยชุด ใส่ทั้งหมดได้มั้ย ก็ได้ สันโดษมั้ย ไม่ได้ไปซื้อเลย สันโดษ ไม่ได้ไปดิ้นรนหลอกลวงใครเค้ามาสันโดษ แต่ไม่มักน้อย งั้นนักปฏิบัติโดยเฉพาะนักบวช อันแรกเลยต้องมักน้อยก่อน ถึงมีมากก็ใช้น้อย

พวกเราก็ลองฝึกดู มีเงินเยอะลองใช้น้อยๆหน่อย มีเงินกินข้าวได้วันละ ๕ มื้อนะ เอาแค่ ๓ มื้อ นอกมื้อไม่กินอะไรงี้ อย่างนี้มักน้อย นอกจากมักน้อยแล้วก็ควรจะสันโดษ สันโดษหมายถึงว่ายินดีตามมีตามได้ ไม่ใช่แปลว่าขี้เกียจ สันโดษเนี่ยนะให้ขยันทำเหตุให้เต็มที่นะ แต่ว่าได้ผลเท่าไหร่ก็ยินดีตามที่มันได้ ทำสุดฝีมือแค่นี้แล้ว ได้แค่นี้ ทำธุรกิจตั้งเป้าจะเอาให้ได้พันล้านก็ทำได้พันสองร้อยล้าน ยินดีที่ได้พันสองร้อยล้านก็ยังสันโดษอยู่ ได้แปดร้อยล้านก็ยังสันโดษอยู่ ก็ยังพอใจ ถ้าตั้งเป้าพันล้านแล้วได้เก้าร้อยล้านแล้วเสียใจ ไม่สันโดษ

งั้นสันโดษนี้เป็นสันโดษในผล เนี่ยเราลองสำรวจตัวเรานะ เราเป็นคนปรารถนาน้อยมักน้อยมั้ย หรือมักมาก เรายินดีในสิ่งที่เราได้รับจากการที่เราทุ่มเททำงานเต็มที่แล้วหรือเปล่า สันโดษ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๔
Track: ๑๘
File: 550325.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๓ ถึง นาทีที่ ๕ วินาทีที่ ๓๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News : ขอเชิญฟังพระธรรมเทศนาจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ณ บ้านจิตสบาย ในวันที่ 5 สิงหาคม 2555

ขอเชิญท่านผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังพระธรรมเทศนาจาก

พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช

สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม จ.ชลบุรี

ในวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2555 เวลา 9.00-10.30 น.

ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2

รายละเอียดรถตู้ รับ-ส่งผู้จะมาฟังธรรมในวันอาทิตย์ที่  5 สิงหาคม 2555


 ** สำรองที่นั่งที่ ลุงเมา** 084-360-6881, 086-780-4368, 086-556-2623
คันที่ 1 จุดจอดรับที่ ปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า ถนนพหลโยธิน ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ออกเดินทางเวลา 7.00 น.ตรง

คันที่ 2 จุดจอดรับ ลานจอดรถโลตัสอ่อนนุช (สุชุมวิท 50) ออกเดินทางเวลา 7.00 น.ตรง

รถประจำทางที่ผ่าน สาย 157, 123, ปอ.พ.79

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ 02-448-3392 เวลาทำการ 9.00 – 18.00 น. หยุดวันพุธ

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง, การเดินทางและแผนที่  >>

Dhammada News : แนะนำบ้านจิตสบาย แหล่งเรียนรู้และภาวนาโดยการเจริญสติ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ปัญหาจากการดูสภาวะความอยาก

ปัญหาจากการดูสภาวะความอยาก

ถาม : เวลาที่เกิดสภาวะของจิตอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา พอเกิดขึ้นแล้ว เราก็รู้สึกตัวได้ว่า จิตมันกำลังเป็นแบบนี้นะ แต่ก็ไม่เห็นว่าสภาวะนั้นมันจะหายไปน่ะค่ะ เช่น เกิดความอยากได้ของสิ่งหนึ่งขึ้นมา สักพักเราก็รู้ว่าเออจิตมันอยากได้ แต่ก็ไม่เห็นว่าความอยากได้ของ มันจะหายไปเลยค่ะ มันก็คงอยากได้อยู่เหมือนเดิม ก็รู้ว่าจิตมันมีสภาวะความอยาก แต่เราก็ยังคงซื้อสิ่งของนั้นอยู่ดี ไม่ทราบว่าอย่างนี้เราปฎิบัติผิดไช่ไหมคะ

ตอบ : โดยหลักแล้วก็ไม่ผิดหรอกครับ
เพราะเราหัดดูเพื่อให้ “รู้” ว่าจิตไม่เที่ยง เกิดดับเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย
เราไม่ได้หัดดูเพื่อจะให้สภาวะนั้นดับลงไปเท่านั้นนะครับ

หากเราหมั่นหัดดูไปเรื่อยๆ ก็จะค่อยเห็นว่า
บางครั้งพอรู้แล้วสภาะจิตที่เป็นอยู่ก็ดับลงไปได้ บางครั้งก็ไม่ดับ
เพราะจิตจะเกิดดับก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย
ถ้าดูแล้วไม่ดับก็ให้หัดดูต่อไปสบายๆ นะครับ

สำหรับเรื่องความอยากก็เช่นกัน
พอเห็นว่าอยากแล้ว ก็ไม่จำเป็นว่าต้องดับไปขณะนั้น
ส่วนเราจะทำตามความอยากหรือไม่
ก็ต้องดูว่า สิ่งที่ทำผิดศีลผิดธรรมหรือไม่
ถ้าผิดศีลผิดธรรมก็ต้องไม่ทำ
แต่ถ้าไม่ผิดไม่ผิดธรรม ก็สามารถทำได้ตามสมควร
ก่อนทำก็หัดดูความอยากไป
ระหว่างทำ จิตเป็นอย่างไร กายเป็นอย่างไร ก็หัดดูจิตหัดดูกายไป
ทำแล้วจิตเป็นอย่างไร กายเป็นอย่างไร ก็หัดดูจิตหัดดูกายไปครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์โดยตัวของมันเอง

mp 3 (for download) : ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์โดยตัวของมันเอง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : ผู้ใดเข้าใจอริยสัจจ์ก็จะข้ามภพข้ามชาติ ใครไม่เข้าใจอริยสัจจ์ก็ต้องเวียนว่ายตายเกิด เข้าใจย้ากยาก ฟังเหมือนเข้าใจง่าย

ยกตัวอย่างบอกว่าขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ กายกับใจเป็นทุกข์ ฟังแล้วง่ายใช่มั้ย แต่กว่าจะรู้สึกว่ากายกับใจเป็นทุกข์นั้นยากที่สุดเลย เพราะเรารู้สึกว่ากายนี้เป็นทุกข์บ้างเป็นสุขบ้าง จิตเป็นทุกข์บ้างเป็นสุขบ้าง เราไม่ได้เห็นเลยว่ากายกับใจเป็นทุกข์ล้วนๆน่ะ เราไม่เห็นน่ะ เนี่ยเรียกว่าเราไม่รู้ทุกข์

หรือเราเห็นว่า ถ้ามีตัณหาแล้วจิตจะมีความทุกข์ คือมีความอยากขึ้นมานะ จิตดิ้นรนขึ้นมาแล้วจิตทุกข์ แต่กับคนทั่วไปอย่างนี้ก็ไม่เห็นนะ คนทั่วไปเห็นว่ามีความอยากยังไม่ทุกข์ ถ้าไม่สมอยากถึงจะทุกข์ แต่ถ้าสมอยากแล้วมีความสุข เนี่ย(ปัญญา-ผู้ถอด)ตื้นขนาดนี้

ผู้ปฏิบัติเห็นว่า ถ้ามีความอยากถึงจะมีความทุกข์ นี่ก็ยังตื้นนะ ยังไม่ใช่รู้ธรรมะแท้ๆ ถ้ารู้ธรรมะแท้ๆเราจะรู้เลย จะมีความอยากหรือไม่มีความอยาก ขันธ์ก็เป็นทุกข์ กายนี้ใจนี้ก็เป็นทุกข์ล้วนๆโดยตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่ถ้ามีความอยากซ้ำขึ้นมา อยากให้ขันธ์มีความสุข อยากให้ขันธ์พ้นทุกข์ล่ะก็ จิตใจจะดิ้นรนและมีความทุกข์ซ้ำซ้อนขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งนะ เรียกว่าทุกข์ซ้อนทุกข์ ทุกข์แล้วทุกข์อีก ทุกข์ไม่เลิก

นิโรธ นิพพาน ก็ไม่เข้าใจ ตอนที่หลวงพ่อเรียนสมัยเด็กๆ กระทรวงศึกษาฯแต่งตำรา นิพพานแปลว่าตาย นิโรธก็คือนิพพาน เพราะฉะนั้นนิโรธคือตาย เราก็บอก เออ! ทุกข์ สมุทัย มรรค อะไรนี้นะ ไม่น่ารังเกียจนะ แต่นิโรธนี้น่ารังเกียจที่สุดเลย ขอไม่เอา ภาวนาขอไม่เอานิพพานนะ กลัวตาย

นิโรธนี้ก็ลึกซึ้งนะ นิโรธ พวกเราแปลตามตำราก็ว่า “ความดับทุกข์” แต่ในสภาวะ ถ้าเราภาวนาจนจิตหลุดพ้นแล้ว เราไม่รู้สึกว่าดับทุกข์หรอก แต่เรารู้สึกพ้นทุกข์ พระอรหันต์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่เนี่ยนะ นิโรธเนี่ยคือความพ้นทุกข์ ไม่ใช่ความดับทุกข์ เพราะว่าอะไร เพราะว่าขันธ์ยังอยู่ ขันธ์เป็นตัวทุกข์ ขันธ์ของพระอรหันต์ก็ทุกข์เช่นเดียวกันกับขันธ์ของญาติโยมทั้งหลายนั่นเอง

เพราะฉะนั้นนิโรธไม่ใช่ความดับทุกข์ แต่เป็นความพ้นทุกข์ หมายถึงจิตมันพ้นออกจากขันธ์ จิตมันไม่ยึดถือขันธ์ เพราะฉะนั้นขันธ์จะแปรปรวนอย่างไร จิตไม่ทุกข์ด้วย

มรรคก็เหมือนกันนะ เข้าใจยาก มรรคของเรามี ๘ ถ้ามรรคมี ๘ ก็เรียกว่ามักมาก มรรคในความเป็นจริงมี ๑ มรรคมี ๑ แต่มีองค์ประกอบ ๘ คล้ายๆแมงมุม ๑ ตัว มีขา ๘ ขา ไม่ใช่ขา ๑ ขา คือแมงมุม ๑ ตัว ขา ๒ ขา คือแมงมุม ๑ ตัว ไม่ใช่ เนี่ยธรรมะนะลึก ลึกมาเลย ค่อยๆเรียนไป ค่อยๆเรียน

หรืออย่างนิโรธนะ นิโรธ นิโรธพอลึกซึ้งถึงที่สุดเนี่ย แปลว่าความไม่เกิดขึ้นของทุกข์ ความไม่เกิดขึ้นอีกของทุกข์ อันนั้นเป็นพระอรหันต์ที่นิพพาน(หมายถึง ดับขันธปรินิพพาน – ผู้ถอด)แล้ว ไม่มีความเกิดขึ้นอีกของทุกข์ เพราะฉะนั้นเราแปลว่าดับทุกข์ๆ เราก็คิดว่าเหมือนไฟไหม้นะ ไหม้ขึ้นมาแล้วหมดเชื้อแล้วมันก็ดับไป แต่โดยสภาวะแล้ว ถ้ายังดำรงขันธ์อยู่มันก็พ้นทุกข์ ถ้าสิ้นขันธ์ไปแล้วก็คือ ทุกข์ไม่เกิดอีก คือความไม่เกิดขึ้นของทุกข์


CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๑๕
File: 501118.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๒ วินาทีที่ ๔ ถึง นาทีที่ ๒๕ วินาทีที่ ๒๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : การปฎิบัติในรูปแบบควรทำสมถะ หรือวิปัสสนา

การปฎิบัติในรูปแบบควรทำสมถะ หรือวิปัสสนา

ทำรูปแบบจะเป็นสมถะ เป็นวิปัสสนา หรือจะฝึกสติก็ได้ครับ
แล้วแต่ว่าใครจะทำแบบไหน แต่ไม่ว่าจะทำแบบไหนก็ต้องทำด้วยใจสบายๆ
ไม่ฝืนกดข่มบังคับจิตจนหนักๆ ทื่อๆ
ดังนั้นที่ทำแล้วหนักๆ ทื่อๆ ก็แสดงว่าทำผิดไปแล้วครับ
ให้กลับไปทำแบบ เดินไปแล้วรู้ทันจิตที่หลง พุทโธแล้วรู้ทันจิตที่หลง
แค่รู้ว่าจิตหลงไปก็พอแล้วครับ ส่วนจะหลงนานบ้างก็เป็นธรรมดา
ไม่ใช่ว่าต้องไม่หลงนานนะครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การภาวนา สุดท้ายไม่ได้อะไรมาและไม่เสียอะไรไป

mp 3 (for download) : การภาวนา สุดท้ายไม่ได้อะไรมาและไม่เสียอะไรไป

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : ไม่ยากนะ ไม่ยากอะไร เรียนรู้ไปเรื่อย เรียนรู้จนเห็นความไม่มีอะไร ไม่ใช่เรียนรู้จนได้อะไรมาเยอะแยะนะ ในความเป็นจริงก็คือ ภาวนาไปถึงขีดสุดเลยนะ นี่ครูบาอาจารย์เคยสอนมา ภาวนาจนเป็นพระอรหันต์น่ะ ไม่ได้อะไรมา ไม่เสียอะไรไป

ไม่ได้อะไรมาเลย เพราะไม่ได้เข้าไปยึดถืออะไรเลยซักอย่างเดียว กระทั่งมรรคผลนิพพาน ถ้ายังอยากได้มรรคผลนิพพานอยู่ มันก็ไม่มีมรรคผลนิพพานหรอก พอหมดอยากต่างหากล่ะ ไม่เอาต่างหากล่ะ ไม่ได้ยึดถืออะไรต่างหากล่ะ มันก็ถึงจะถึงมรรคผลนิพพาน

ไม่ได้เสียอะไรไป เพราะเราไม่เคยมีอะไรอยู่แล้วตั้งแต่แรก ร่างกายก็ยืมเค้ามาใช้ใช่มั้ย จิตใจก็มีเหตุก็เกิดขึ้นเป็นคราวๆ แล้วก็ดับหายไปเรื่อยๆ เพราะงั้นเราไม่ได้เสียอะไรไป ไม่ได้อะไรมา

ถ้าจะได้อย่างเดียวคือได้ความเข้าใจ ได้ความรู้ ได้สัมมาทิฏฐิ เพราะงั้นศาสนาพุทธเนี่ยเมื่อเราเจริญสติเต็มที่ ทำสติปัฏฐานเต็มที่ สิ่งที่เราจะได้มาคือตัวสัมมาทิฏฐิเท่านั้นเอง เห็นความจริงของสิ่งที่เรียกว่าอริยสัจ

หลวงพ่อมีหนังสือแจกมั้ยวันนี้ อริยสัจมีมั้ย ไปอ่านนะ ไปอ่าน ผู้ใดเข้าใจอริยสัจก็จะข้ามภพข้ามชาติ ใครไม่เข้าใจอริยสัจก็ต้องเวียนว่ายตายเกิด

CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๑๕
File: 501118.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๐ วินาทีที่ ๕๑ ถึง นาทีที่ ๒๒ วินาทีที่ ๑๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ต้องทำอย่างไรในเมื่อช่วงนี้มีสติรู้สึกตัวน้อยลง?

ต้องทำอย่างไรในเมื่อช่วงนี้มีสติรู้สึกตัวน้อยลง?

ถ้ายังปฏิบัติไปตามปกติคือ ถึงเวลาก็ทำตามรูปแบบ แล้วก็หัดรู้ในชีวิตประจำวันไปเรื่อยๆ
ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับที่บางช่วงจะรู้สึกตัวได้น้อยหรือหลงนานไปบ้าง
ที่สำคัญคือ อย่าพยายามดิ้นรนทำอะไรมากกว่ารู้ไปตามจริงเพื่อให้รู้สึกตัวได้บ่อยนะครับ
เพราะถ้ายิ่งดิ้นรนด้วยความอยากให้รู้สึกตัวดีๆ ก็จะยิ่งหลงทางไปครับ
แต่ถ้าแค่รู้ไปเท่าที่รู้ได้ และยังปฏิบัติไปตามปกติ เดี๋ยวก็จะกลับมารู้สึกตัวได้บ่อยเอง

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News: New Files Uploaded (๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕)

    New Files Updated ประจำวันเสาร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๕ (สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๕)

  • 550518: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๕ แสดงธรรมเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๘ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕
  • 550513: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๕ แสดงธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕
  • 550512: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๕ แสดงธรรมเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๒ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕
  • 550511: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๕ แสดงธรรมเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ขณะที่มีสัมมาสติ ก็มีองค์มรรคครบทั้งแปด

mp 3 (for download) : ขณะที่มีสัมมาสติ ก็มีองค์มรรคครบทั้งแปด

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

 หลวงพ่อปราโมทย์ : มรรคมีองค์แปด เวลาภาวนาจะทำยังไง เวลาภาวนาก็เจริญสติปัฏฐานสิ

  • ถ้าเรามีสติรู้กาย มีสติรู้ใจ เรียกว่าเรามีสัมมาสติ
  • ถ้าเรารู้ความจริงของกายของใจ เรียกว่ามีสัมมาทิฏฐิ
  • ในขณะที่เรามีสติรู้กายรู้ใจเนี่ย เราก็ไม่มีความดำริชั่วๆทั้งหลาย ดำริในกาม ดำริในพยาบาท ดำริในการเบียดเบียน ไม่มี เพราะมีสติอยู่ สัมมาสังกัปปะมันก็มีอยู่ในตัวเอง
  • ในขณะที่เรามีสติอยู่สัมมาวาจาก็เกิดเอง สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะจริงๆก็คือศีล ๕ นั่นเอง จะมีอยู่เอง
  • สัมมาอาชีวะมันก็จะมีอยู่เอง
  • ในขณะที่เรามีสติขึ้นมานะ สัมมาวายามะก็มีอยู่เอง สัมมาวายามะคือความเพียรชอบ ทันทีที่มีสติเนี่ย อกุศลที่มีอยู่จะดับ อกุศลใหม่จะไม่เกิด กุศลได้เกิดขึ้นแล้ว กุศลที่เคยเกิดแล้วก็จะเกิดถี่ๆบ่อยๆขึ้น เพราะว่าคุ้นเคยที่จะเกิดกุศล เนี่ยลักษณะของสัมมาวายามะความเพียรชอบ ก็คือเพียรละกิเลสที่มีอยู่ ปิดกั้นกิเลสใหม่ไม่ให้เกิด ทำกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิด (กุศล)ที่เกิดแล้วให้พัฒนาขึ้นไป งอกงามไพบูลย์
  • ในขณะที่เรามีสัมมาสติอยู่เนี่ย จิตก็จะตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดู มีสัมมาสมาธิอยู่ในตัวเอง

งั้นถ้าเรามีสัมมาสติ เราก็จะมีองค์มรรคครบ พระพุทธเจ้าอธิบายสัมมาสติด้วยสติปัฏฐานนั่นเอง งั้นหน้าที่เราก็ทำสติปัฏฐาน รู้กายรู้ใจไป


CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๑๕
File: 501118.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๕ วินาทีที่ ๓๑ ถึง นาทีที่ ๒๗ วินาทีที่ ๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : การดูกาย กับ การดูวิญาณขันธ์

การดูกาย กับ การดูวิญาณขันธ์

การดูกาย (เพื่อเจริญสติ) จะหมายถึง การดูร่างกายเคลื่อนไหว ดูร่างกายหายใจ
ดูร่างกายยืน เดิน นั่ง นอน เป็นการดูแบบมีจิตเป็นรู้ผู้ดู มีร่างกายเป็นสิ่งที่ถูกรู้ครับ
แต่ถ้าเป็นผู้มีกำลังของสมาธิมาก การดูกายก็จะดูได้ลงไปถึงธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ก็ได้ครับ

การดูวิญญาณขันธ์ จะเป็นการใช้ตัวรู้ปัจจุบันมารู้ว่าตัวรู้ก่อนหน้าที่เพิ่งดับไปเป็นอย่างไร
เช่นตัวรู้ปัจจุบันรู้ว่าตัวรู้ก่อนหน้านี้(ตัวรู้ที่เพิ่งดับไป)เป็นตัวรู้ที่ออกไปรับอารมณ์ทางตาเป็นต้นครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

วิปัสสนูปกิเลส เกิดจากสมาธิไม่พอ จิตไม่ถึงฐาน

mp 3 (for download) : วิปัสสนูปกิเลส เกิดจากสมาธิไม่พอ จิตไม่ถึงฐาน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : พระอานนท์ ท่านเรียกวิปัสสนูปกิเลสว่า “ธมฺมุทฺธจฺจ” (ธัมมุทธัจจะ) ธรรมะ อุทธัจจะ รู้จักอุทธัจจะมั้ย อุทธัจจะความฟุ้งซ่าน ฟุ้งซ่านในธรรมสิบประการ เรียกว่า วิปัสสนูปกิเลสนั่นเอง

วิธีที่จะหายจากความฟุ้งซ่าน หายจากวิปัสนูฯก็คือ จิตถึงฐาน แค่นี้เอง จิตเขาถึงฐานแค่นี้เอง เมื่อก่อนนี้เรียนจากหลวงปู่เทสก์นะ คนมีวิปัสนูฯมาอะไรอย่างนี้ ให้ท่านสอนท่านแก้ เสร็จแล้วท่านบอก ยังจำได้ ท่านสอนบอกว่า ถ้าสมาธิพอนะ ก็จะหลุดจากวิปัสนูฯ

ตอนนั้นท่านสอนแบบนี้ แต่เราไม่เข้าใจ ว่าเอ๊ะ วิปัสนูฯมันเดินปัญญาอยู่แท้ๆเลย ทำไมท่านบอกว่า สมาธิพอแล้วจะหลุดจากวิปัสนูฯ ทั้งที่วิปัสนูฯมันเกิดจากการทำวิปัสสนา ไม่เข้าใจท่านนะ ตอนหลังมาภาวนาแล้วมาอ่านอภิธรรม มาอะไรเข้านะ มาศึกษาพระสูตรอะไรอย่างนี้ เออ… ใช่อย่างที่ท่านบอกจริงๆ พระอานนท์สอนมาแล้วนะ อยู่ในสูตรคือ ยุคนัทธสูตร ถ้าจิตมันฟุ้งซ่านไปนะ รู้ทันมัน จิตตั้งมั่น ก็พ้นจากธรรมสิบประการนี้ พ้นจากวิปัสนูปกิเลส

เวลาพวกเราภาวนา เจริญวิปัสสนาแล้ว ไม่ต้องกลัววิปัสนูฯ เจอแน่นอน เจอทุกคน ไม่ต้องกลัว มันเป็นท่างผ่าน คนไหนเดินแล้วเจอวิปัสนูฯนะ ต้องชมว่าภาวนาเก่ง เริ่มวิปัสสนาได้แล้ว ถ้าไม่เริ่มวิปัสสนาไม่มีวันไปเจอวิปัสนูฯเลย จะเจอแต่นิมิตร ทำแต่สมถะจะมีแต่นิมิตรนะ นิมิตรเป็นเครื่องหลอกของพวกทำสมถะ วิปัสนูฯเนี่ยเป็นเครื่องหลอกของพวกทำวิปัสสนา


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๓
Track: ๕
File: 541211A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๘ วินาทีที่ ๕๖ ถึง นาทีที่ ๒๐ วินาทีที่ ๓๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : การตัดสินใจ

การตัดสินใจ

ในการตัดสินใจเรื่องใดก็ตาม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่มีจำนวนคนที่เกี่ยวข้องเพียงคนเดียว
หรือเรื่องใหญ่ระดับชาติที่เกี่ยวข้องกับคนหลายสิบล้านคน
มีวิธีง่ายๆ ในการตัดสินใจคือ…

“ตัดสินใจไปตามความจริง และความถูกต้อง ชอบด้วยศีลและธรรม ถูกก็ว่าถูก ผิดก็ว่าผิด อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปก็ให้เป็นเรื่องของเหตุปัจจัยแวดล้อม”

แต่ปัญหาคือ เรามีสติ มีปัญญา ที่จะมองออกหรือไม่ว่า
อะไรคือถูก อะไรคือผิด อะไรคือความจริง
เพราะแค่กายเราเองจิตเราเอง
เรายังเห็นผิดอยู่เลยว่า มันเป็นอัตตาเป็นตัวตน
จึงไม่แปลกที่ใครสักคนจะหลงไปเห็นกงจักรเป็นดอกบัว

ทางเดียวที่จะมาทำให้ตัวเองมีสติ มีปัญญา
รู้ว่าอะไรคือถูก อะไรคือผิด อะไรคือความจริง
ทางนั้นคือ การเจริญสติปัฏฐาน ๔ นั่นเอง.

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ความทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่ต้องไปละ หมดเหตุก็ดับเอง

Mp3 for download:  ความทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่ต้องไปละ หมดเหตุก็ดับเอง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : คือ รู้ตรงนี้ว่าพอไปคิดเนี่ยนะ เกิดความทุกข์ เห็นความทุกข์ในใจเราเนี่ยนะ มากขึ้นบ้าง เบาลงบ้าง มากขึ้นบ้าง เบาลงบ้าง

ในขณะที่เรามาเฝ้ารู้ใจของเราที่เป็นทุกข์เนี่ย เราไม่ได้คิดละ ความทุกข์นั้นจะค่อยๆสลายตัวไป แต่สลายเพราะอะไร เพราะว่าเราไม่ได้คิด ทำไมเราไม่ได้คิดตอนนั้น เพราะเรามาเฝ้ารู้อยู่ แล้วเราจะเห็นเลย ความทุกข์เองไม่ใช่สิ่งที่ต้องไปละมันหรอก พอมันหมดเหตุมันก็ดับ ไม่ใช่มันดับเพราะเราไปละมันเข้า

ถ้าเราไม่ละเอียดลออ เราจะไปคิดว่าเราไปดับทุกข์ได้ พอเราดูปุ๊บ ความทุกข์ก็ดับไป พอเราโกรธขึ้นมา เราเห็นความโกรธ ความโกรธก็ดับไป มันเกิดความสำคัญผิด ความจริงเป็นเพราะว่าเราไม่ได้ไปทำเหตุของมัน มันหมดเหตุแล้วมันดับ

อย่างเราโกรธใครสักคนนะ เราคิดถึงเขาบ่อยๆ นะ ยิ่งโกรธใหญ่ ใช่มั้ย เรามารู้อยู่ที่ความโกรธของเรานี้ เห็นความโกรธตั้งอยู่ในจิตใจ จิตใจเร่าร้อนเป็นเพราะความโกรธ ไม่ได้ไปคิดเรื่องที่ทำให้โกรธ เดี๋ยวความโกรธมันก็หายไป เราก็จะได้ความเห็นที่ถูกต้องว่าความโกรธก็ไม่เที่ยงหรอก เกิดจากเหตุ คือ การไปคิดเรื่องที่ไม่ชอบใจ พอหมดเหตุมันก็ดับ

แต่ความโกรธเกิดขึ้นเนี่ย ถ้าความโกรธครอบงำใจเราได้ ใจเราจะเป็นทุกข์ ก็เห็นต่อไปอีกชั้นนึง อ้อ จิตใจที่เป็นตัวของตัวเอง เป็นอิสระนี้ ไม่ทุกข์หรอก เบิกบาน มีความสุข แต่พอถูกอารมณ์ ถูกกิเลสครอบงำ ก็จะเป็นทุกข์ นี่มันจะเห็นตรงนี้

งั้นเรามีสติอยู่ เราค่อยเห็นข้อเท็จจริง มันคือการเห็นข้อเท็จจริงทั้งนั้นเลย

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๗ เดือนกรกฏาคม พ.ศ.๒๕๔๕ ก่อนฉันเช้า
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๑
File: 450707A
ระหว่างนาทีที่ ๓๗ วินาทีที่ ๐๑ ถึง นาทีที่ ๓๘  วินาทีที่ ๔๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ดูจิตดูนิมิต

ดูจิตดูนิมิต

ถาม : ช่วงนี้ทำสมาธิโดยการทรงภาพพระเป็นอารมณ์ตลอดเวลาเมื่อนึกได้ เมื่อมีการเผลอก็รู้ว่าเผลอ
เมื่อมีอารมณ์อื่นแทรกก็รู้มีอารมณ์อื่นแทรก หลังจากรู้ก็ทำการทรงภาพพระ เป็นอารมณ์ต่อ ไม่ทราบว่าจะถือว่าเป็นการดูจิตได้ไหมครับ 

ตอบ : ขณะใดที่รู้ว่าหลงไปกับอารมณ์อื่น ก็เป็นการดูจิต(รู้ว่าจิตหลงไป)ครับ
ส่วนขณะที่มารู้ภาพนิมิตจะไม่ได้เป็นการดูจิต
แต่ถ้าแวบมารู้ว่าจิตไหลไปอยู่ที่นิมิต หรือแวบมารู้ว่าจิตตั้งมั่นรู้นิมิต ก็จะเป็นการดูจิตครับ
ที่คุณถามมาจึงน่าจะเป็นการดูจิตสลับกันไปกับการดูนิมิตหรือดูกาย(เดิน นั่ง)ครับ
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกตินะครับที่การดูจิตจะสลับไปมากับการดูกายหรือเวทนา
เพราะไม่มีใครดูจิตอย่างเดียวได้ตลอดเวลา
การดูจิตจึงหมายถึงการดูจิตเป็นส่วนมากหรือเป็นหลัก ครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ต้องลงมือปฏิบัติ อย่าให้เสียโอกาส

mp 3 (for download) : ต้องลงมือปฏิบัติ อย่าให้เสียโอกาส

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์  : เนื้อแท้ของวิปัสสนาก็คือมีสติ รู้รูปนามตามความเป็นจริง เท่านี้แหล่ะ

แต่เราจะรู้ตามความเป็นจริงได้ ต้องรู้ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง ถ้ารู้ด้วยจิตที่อินเข้าไปในอารมณ์ จะไม่เห็นความจริง จิตต้องตั้งมั่น แยกตัวออกมาเป็นคนดู ดูอย่างเป็นกลาง ดูห่างๆ ดูแล้วไม่หลงยินดีไม่หลงยินร้ายด้วย ฝึกตัวนี้ให้ได้บ่อยๆนะ

เพราะงั้นทุกวันเบื้องต้นฝึกให้จิตตั้งมั่น พอจิตตั้งมั่นแล้วดูธาตุดูขันธ์ทำงาน นี่คือการเจริญปัญญา ไปฝึกเอานะ อย่าฟังเปล่าๆ เสียแรงหลวงพ่อเทศน์ให้ฟัง เสียโอกาสที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ เสียโอกาสที่ได้พบพระพุทธศาสนา ปฏิบัติ ต้องปฏิบัตินะ เรียนแต่ปริยัติ ฟังหลวงพ่อเทศน์นี่คือปริยัติ ฟังครูบาอาจารย์เทศน์หรือฟังพระพุทธเจ้าเทศน์คือปริยัติ ต้องลงมือปฏิบัติเอาเองนะ แล้วพ้นทุกข์ด้วยตัวเอง แล้วจะรู้คุณค่าของพระพุทธศาสนา รักพระพุทธเจ้า


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๕ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๔
Track: ๓
File: 550212A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๕ วินาทีที่ ๓๐ ถึง นาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๓๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : วิธีแก้เพ่งแล้วอึดอัดจากการเจริญสติที่ผิด

วิธีแก้เพ่งแล้วอึดอัดจากการเจริญสติที่ผิด

เวลาที่รู้สึกตัวขึ้นมาหลังจากที่เผลอๆไป ก็ไม่ต้องรักษาความรู้สึกตัวไว้
แล้วถ้าเกิดเพ่งจนอึดอัด ก็ให้หัดดูว่าที่อึดอัดมันไม่ใช่เรา แต่เป็นอะไรอย่างหนึ่งที่จิตไปรู้ไปเห็นมัน
แล้วถ้าในขณะนั้นกำลังทำงานอะไรอยู่ ก็ให้ทำงานนั้นไปสบาย
ทำแบบอนุญาตให้จิตเผลอไปคิดของมันเองได้
แล้วค่อยๆ หัดดูว่า เดี๋ยวจิตก็มาอยู่กับงาน เดี๋ยวจิตก็เผลอไปคิด
การหัดรู้ว่าเดี๋ยวก็เผลอไปคิดบ่อยๆ จะลดการเพ่งจนหายเพ่งได้เองครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News: 2 New Files Uploaded สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๕

    New Audio Clips Uploaded CD สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๕

  • 550505: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๕ แสดงธรรมเมื่อวันเสาร์ที่ ๕ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕
  • 550504: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๕ แสดงธรรมเมื่อวันศุกร์ที่ ๔ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

มักคิดว่าทำยังไงถึงจะดีขึ้นอีก

Mp3 for download: มักคิดว่าทำยังไงถึงจะดีขึ้นอีก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม: คือมันมักจะคิดอยู่ว่าทำยังไงให้ดีขึ้นไปอีกค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์: นั่นโลภะแทรกแล้ว ให้รู้ทันว่าโลภะแทรกนะ ถ้ารู้ทันแล้วมันก็ไม่เป็นไร ก็หลุดออกมา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๕ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๗
File: 531028B
ระหว่างนาทีที่  ๑๒ วินาทีที่
๑๗ ถึง นาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๓๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : เหงาและซึมเศร้าจนอยากร้องไห้

เหงาและซึมเศร้าจนอยากร้องไห้

ถาม : มันเหงาๆ แปลกๆ เหมือนจะร้องให้ พอรู้สึกก็หายไป แต่ก็เศร้าอยู่นะ บางครั้งก็รู้สึกทุกข์ เป็นพื้นๆ แต่ก็พยามรู้อยู่ค่ะ บ้างครั้งก็กลัว อาจด้วยร่างกายที่ล้า กับการนอนแล้วรู้สึกตัว มันซ้ำๆ วนๆ อยู่อย่างนี้ ถ้าจะร้องให้น้อมใจนิดเดียวร้องเลยค่ะ รู้สึกชีวิตไม่มีความสุข หาความสุขได้น้อยเต็มที

อยากทราบการปฏิบัติตัวค่ะว่าต้องทำอย่างไร ต่อค่ะ

จากการดูรู้ว่าตัวเองไม่เป็นกลาง และอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว แต่พออยู่คนเดียวก็เหงา เหมือนเป็นโรคซิมเศร้า เลยค่ะ

ตอบ : อาการแบบนี้นะครับ เราต้องเข้าใจและยอมรับว่า มันเป็นของมันเอง
มันเป็นเพราะเป็นช่วงที่เราต้องรับวิบาก จึงเกิดอาการแบบนี้ขึ้น
เมื่อทำความเข้าใจและยอมรับว่ามันต้องเกิดแล้ว
เราก็มาหัดดูจิตที่คอยแต่จะไหลเข้าไปแช่อาการที่เหมือนจะร้องไห้
หัดดูแบบแค่รู้ อย่าไปฝืน อย่าไปต้าน
แล้วก็อย่าจงใจไปน้อมให้มันร้องไห้ ถ้าจะร้องก็ให้มันร้องของมันเอง
ส่วนเราหัดเพียง แค่รู้มันไปตามที่มันเป็นเท่านั้น
เมื่อหัดดูจนจิตไม่ฝืนไม่ต้าน และไม่จงใจน้อมลงไป
จิตก็จะมีกำลังตั้งมั่น เห็นอาการเหมือนจะร้องไห้ถูกรู้อยู่
แล้วจิตจะเบาสบายขึ้นมาเองครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 1 of 41234