Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

Dhammada News: New Files Uploaded (๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖)

    New Files Updated วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖

  • 561017: วัดผาณิตาราม จ.ฉะเชิงเทรา แสดงธรรมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ความทุกข์แปรไปตามกำลังของความยึดถือ

mp3 for download : ความทุกข์แปรไปตามกำลังของความยึดถือ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :จริงๆแล้วการปฏิบัติธรรมนะ เอา Basic เลย มันไม่มีอะไรหรอก มันคือการเรียนรู้ความเป็นจริงของตัวเราเอง สิ่งที่เรียกว่าตัวเราก็คือกายกับใจของเรานี่แหละ ถ้าเราเรียนรู้ความจริงได้นะ เราจะหมด ถ้าไม่หมดนะก็ลด ความยึดถือกายยึดถือใจลงได้ ถ้าเรายึดถือมากก็ทุกข์มาก ยึดถือน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่ยึดถือก็ไม่ทุกข์ ใจของเรามันทุกข์ขึ้นมาได้เนี่ย ก็เพราะว่ามันเข้าไปยึดถือสิ่งต่างๆ ส่วนร่างกายที่เป็นทุกข์น่ะ เป็นไปตามธรรมชาติของมัน มีร่างกายแล้วถึงอย่างไรก็ทุกข์

ร่างกายของพระอรหันต์ก็ทุกข์เหมือนที่พวกเราทุกข์นั้นแหละ แต่จิตใจเนี่ย ท่านรู้ความจริงมากก็ไม่ยึดถือ ท่านก็ไม่ทุกข์ พระอนาคามีท่านยังยึดถือจิตอยู่ แต่ว่าไม่ยึดถือกาย ร่างกายเจ็บป่วยแปรปรวนอะไรก็ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าจิตไม่มีสมาธิอะไรอย่างนี้ ยังเดือดร้อน ยังพยายามรักษาจิตอยู่ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ก็ยังคงยึดถือขันธ์ ๕ เหมือนที่พวกเรายึดนี่แหละ แต่ท่านยึดน้อยกว่า ของเรายึดมาก ถ้าเราเห็นว่าขันธ์ ๕ ของเรา ร่างกายจิตใจของเรา เป็นของดีของวิเศษ หวงแหนมาก รักมาก อยากให้มันอยู่อย่างนี้แหละ อมตะนิรันดร อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเราคงที่อยู่ในสิ่งที่ดี ถ้ามีของไม่ดีมาก็อยากให้มันพ้นไปเร็วๆ

ความอยากนั้นเป็นต้นตอให้เกิดความยึดถือ เนี่ยเราจะเรียนนะ จนกระทั่งวันหนึ่งมันไม่ยึด ไม่ยึดไม่ทุกข์ ตัวที่ทำให้เข้าไปยึดถือสิ่งต่างๆนั้นน่ะคือ ความยึดถือ มีชื่อเรียกว่า “อุปาทาน”


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 551208B
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๐ วินาทีที่ ๒ ถึงนาทีที่ ๒ วินาทีที่ ๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : จิตกับลูกบอล

จิตกับลูกบอล

เคยเห็นลูกบอลลอยน้ำใช่มั้ย

 

 จิตที่ขาดสติเปรียบเหมือนลูกบอลที่ถูกปล่อยให้ลอยไปมาอยู่ในน้ำอย่างไร้ทิศทาง

 

 จิตที่มีสติรู้อารมณ์เดียวต่อเนื่องเปรียบเหมือนลูกบอลที่ลอยนิ่งสงบไม่ไหลไปไหลมาเพราะถูกมือจับเอาไว้

 

จิตที่ถูกกดถูกข่มเอาไว้เปรียบเหมือนลูกบอลที่ถูกจับกดลงในน้ำ จะมีแรงต้านและพร้อมจะดีดกลับเมื่อเลิกกดมัน

 

 จิตที่มีสติ จะเปรียบเหมือนลูกบอลที่ถูกมือแตะไว้อย่างอ่อนโยน ยอมให้ไหลไปมาได้ตามสมควร

มือที่แตะไว้จะรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวไปตามแรงคลื่นของน้ำที่มากระทบลูกบอล

 

 ถ้านึกไม่ออกก็ลองไปหาลูกบอลมาเล่นในน้ำซิ แล้วจะเข้าใจว่าทำไม เวลาจะเรียนรู้กายใจ ต้องเรียนด้วยจิตที่มีสติ

ไม่ใช่เรียนด้วยจิตที่ขาดสติ สงบนิ่ง หรือถูกกดข่มเอาไว้

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน)

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน)

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน)

ประมวลคำของครูบาอาจารย์ ที่กล่าวถึงเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ

ประมวลคำของครูบาอาจารย์ ที่กล่าวถึงเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เมื่อภาวนามากเข้าก็จะเห็นว่า สภาวธรรมต่างๆเหมือนเล่นละครให้เราดู

mp3 for download : เมื่อภาวนามากเข้าก็จะเห็นว่า สภาวธรรมต่างๆเหมือนเล่นละครให้เราดู

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :สติก็ต้องละเอียดขึ้น ศรัทธา วิริยะ สติ ต้องดีขึ้นๆ สมาธิคือความตั้งมั่นของจิต จิตใจต้องอยู่กับเนื้อกับตัว จิตไหลไปแล้วรู้ จิตไหลไปแล้วรู้ รู้ไวๆ เอาสตินั้นแหละไปรู้ สมาธิก็จะเพิ่มขึ้นๆ ต่อไป จิตก็จะเป็นคนดู เห็นทุกอย่างแสดง รูปธรรมแสดงละครให้ดู นามธรรมแสดงละครให้ดู โลภโกรธหลงก็แสดงละครให้เราดู สุขทุกข์ก็แสดงละครให้เราดู ใจเป็นคนดู นี่เรียกว่าใจมีสมาธินะ

ปัญญาก็จะเกิด ก็จะเห็นเลย รูปธรรมที่แสดงละคร มันก็แค่ละคร ละครมันไม่ใช่ของจริงหรอก นามธรรมทั้งหลายนะ พวกความสุขความทุกข์ กุศล-อกุศลทั้งหลายนะ ก็แสดงละครให้เราดู ไม่ใช่ของจริงอะไรหรอก ไม่มีตัวมีตน ตัวจิตเองก็แสดงละคร เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยววิ่งไปทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ ก็เล่นละครให้เราดูอีกนะ ปัญญามันก็เกิดนะ มีแต่ละครนะ มีแต่ของหลอกนะ มีแต่ภาพลวงตานะ
ขันธ์ ๕ นี้ไม่มีจริง (หมายถึง ไม่ถาวรจริง) มีขึ้นมาชั่วครั้งชั่วคราว เหมือนภาพลวงตา เหมือนความฝัน เหมือนพยัพแดด เห็นปัญญาแก่กล้า ก็ปล่อย

ปล่อยขันธ์ไปตามลำดับนะ เบื้องต้นก็ปล่อยรูปธรรมไปก่อน เบื้องปลายก็ปล่อยนามธรรม ปล่อยรูปธรรมได้ ได้พระอนาคา(มี) ปล่อยนามธรรมได้ก็หมดแล้ว จบกิจ ไม่มีธุระที่จะต้องปฏิบัติอีกแล้ว

ไปฝึกเอานะ ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ แล้วจะรักพระพุทธเจ้า ไม่ใช่กูเก่งนะ ภาวนาแทบเป็นแทบตาย แล้วจะรู้สึกว่าพระพุทธเจ้าเก่ง ไม่ใช่กูเก่งหรอก เพราะกูไม่มี กูไม่มี มันว่างจากความเป็นตัวเป็นตน

เอ้าไปฉัน ไปทานข้าวกันไป


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 560111A
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๒ ถึงนาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Video: แสดงธรรม โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ตุลาคม ๒๕๕๖

Link(VIDEO) : www.youtube.com/watch?v=no_ED6nsM4g

Link(AUDIO) : 561015

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
แสดงธรรมที่‏ โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
เลขที่ ๙๐ ถนนศรีธรรมไตรปิฎก
ตำบลในเมือง อำเภอเมือง
จังหวัดพิษณุโลก ๖๕-๐๐๐
เมื่อวันอังคารที่ ๑๕ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

จิตผู้รู้นี้แหละ ตัวทุกข์

mp3 for download : จิตผู้รู้นี้แหละ ตัวทุกข์

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :จิตต้นกำเนิดหรือจิตอวิชา หรือจิตผู้รู้ ตัวเดียวกัน ที่พวกเราต้องฝึกหาจิตผู้รู้นะ ให้มีจิตผู้รู้นะ นั่นแหละจิตผู้รู้นั้นแหละ ยังเป็นจิตอวิชาอยู่ แต่อาศัยมันก่อน แล้ววันหนึ่งก็ค่อยมาทำลายตัวนี้ไปอีกทีหนึ่งก่อน เนี่ยดูแล้วมันละเอี๊ยดละเอียดนะ มันสว่าง มันผ่องใสนะ มันมีอวิชาซ่อนอยู่ ถ้าหยาบๆขึ้นมานะ ไม่ใช่อวิชาแล้ว ตื้น กลายเป็นกิเลสหยาบๆแล้ว

ตรงที่จิตเข้าถึงความเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานนั้นแหละ อวิชาซ่อนอยู่ที่นั้นเอง ไม่รู้ ไม่รู้อะไร ไม่รู้ทุกข์ ทุกข์อะไร ไม่รู้ว่าตัวผู้รู้นี้แหละ ตัวทุกข์ มันบังกันอยู่นิดเดียวเอง ถ้าเห็นตัวผู้รู้เป็นตัวทุกข์ ก็เรียกว่ารู้ทุกข์แจ่มแจ้งแล้ว ถ้ารู้ทุกข์แจ่มแจ้งเมื่อไหร่นะ ก็หมดความยึดถือจิต มันจะสลัดคืนจิตให้โลกไปเลย จะสลัดคืนตัวรู้ คืนตัวรู้ให้โลกไป

พอสลัดตัวรู้ทิ้ง ตัณหาจะไม่เกิดอีก ทันที่รู้แจ้งทุกข์นะ มันจะสลัดตัวทุกข์ออกไป พอรู้ทุกข์แจ่มแจ้งแล้วมันจะสลัดทิ้งเอง สลัดคืน เรียกว่าสลัดคืน ปฏินิสสัคคะสลัดคืนจริงๆ คืนโลก เนี่ยคำแต่ละคำในพระไตรปิฎก ในตำรับตำรานะ ตรงเป๊ะๆเลย เห็นทุกข์แจ่มแจ้ง เห็นตัวจิตผู้รู้นี้แหละเป็นตัวทุกข์ ไม่ใช่ตัวดีตัววิเศษหรอก ก็สลัดคืนตัวผู้รู้ให้โลกไป ในขณะนั้นละสมุทัยเรียบร้อยแล้ว ความอยากจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว รู้ทุกข์เมื่อไหร่ก็ละสมุทัยในคราวเดียวกันเลย ในขณะนั้นแจ้งนิโรธคือพระนิพพานเลย ในขณะเดียวกัน ในขณะนั้นเกิดอริยมรรคเลย ในขณะเดียวกัน

อัศจรรย์ อัศจรรย์ที่สุดนะ ธรรมะของพระพุทธเจ้า พวกเราต้องพากเพียรนะ ค่อยๆศึกษาไปเรื่อยๆ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 560111A
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๒๑ วินาทีที่ ๕๓ ถึงนาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : สำหรับคนที่ทำสมถะไม่เป็น

สำหรับคนที่ทำสมถะไม่เป็น

คนที่ทำสมถะไม่ได้ (หรือยังทำไม่ได้ กำลังหัดทำ) ก็ให้ทำรูปแบบตามที่หลวงพ่อพูดถึง

โดยทำรูปแบบแล้วก็มารู้กายรู้ใจไปสบายๆ พอรู้ว่าเผลอลืมตัวไป ก็มารู้กายรู้ใจต่อใหม่อีก

ทำไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดจิตตั้งมั่น (มีสมาธิ) ขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง

แล้วจะเห็นเจริญปัญญาเห็นไตรลักษณ์ได้เป็นขณะๆ ไปครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ความคืบหน้า พระอุโบสถ วัดสวนสันติธรรม ตุลาคม ๒๕๕๖


ภาพความคืบหน้า การก่อสร้างพระอุโบสถ

วัดสวนสันติธรรม

๒๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

ถ่ายในวันกฐินวัดสวนสันติธรรม

ภาพโดยพี่ธนา

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้เพื่อจะรู้ถูกเข้าใจถูกในกายในใจนี้

mp3 for download : เรียนรู้เพื่อจะรู้ถูกเข้าใจถูกในกายในใจนี้

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :หลวงพ่อตอนเด็กนี้อยากได้นิพพาน ไม่รู้หรอกว่านิพพานหน้าตาเป็นยังไง ไปหาท่านพ่อลี พ่อพาไป ไปเองไม่ได้หรอก ยังเป็นเด็กอยู่ ไปถึงท่านก็สอน หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ นับหนึ่ง หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ นับสอง นับไปถึงสิบนะ แล้วก็ลงมาเก้าแปดเจ็ด เหมือนปล่อยจรวดน่ะ หลวงพ่อทำไม่เป็น นับเลขถอยหลังยังไม่ชำนาญเลย ตอนนั้น ก็นับไปถึงร้อยเลย ไม่ไปถึงแค่เก้าแค่สิบหรอก นับไปสิบเอ็ดสิบสอง นับไปถึงร้อยแล้วนับหนึ่งใหม่ ฝึก นี่มีการแอปพลายนะ ให้เข้ากับความสามารถเฉพาะตัว ก็ความสามารถของเราตอนนั้นยังนับเลขถอยหลังยังไม่เป็นล่ะนะ

ทำแล้วมันมีความสุข มีความสุขแล้วก็ไม่เลิกเลย ตอนนั้น ทุกวันก็ทำไปเรื่อยๆ เพราะมีความสุขจากการทำสมาธิน่ะนะ ต่อมามาเจอหลวงปู่ดูลย์ ตอนนั้นก็อายุเยอะแล้วนะ อายุ ๒๙ ปี ถึงจะเจอหลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่ดูลย์เป็นครูบาอาจารย์ที่อัศจรรย์มากเลย ปัญญาของท่านนั้นแก่กล้ามาก สมาธิอะไรต่ออะไร ท่านเพียบพร้อมไปหมดเลย ก่อนจะสอนกรรมฐานให้กับใครสักคนหนึ่ง หากท่านเห็นแววว่าจะเอาดีจริงนะ จะเอาจริง ท่านไม่สอนง่าย ท่านจะนั่งหลับตาสอบประวัติเราเกือบชั่วโมง แล้วถึงจะสอน เวลาสอนก็สอนประโยค สองประโยคเอง

ท่านสอนหลวงพ่อให้ดูจิตดูใจของตัวเอง ไม่ได้เริ่มต้นจากการดูกาย หลวงปู่ดูลย์สอนหลวงพ่อ สอนเข้าเรื่องการดูจิตเลย สอนบางองค์ก็สอนดูกาย สอนมีหลายแบบ พอหลวงปู่ดูลย์สอนให้ดูจิตนะ เห็นความเปลี่ยนแปลงของจิตนะ แต่ละวันเนี่ย มันเหมือนมีอะไรใหม่ๆให้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา สนุกมากเลยกับการดูจิต มีฉันทะ วิริยะก็เกิดเอง ฉันทะคือมีความพอใจที่จะได้ดูจิตของตนเอง มันได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆตลอดเวลา ตัวของเราเองแท้ๆนะ ก็ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้รู้สิ่งที่ไม่เคยรู้ ได้เข้าใจในสิ่งที่ไม่เคยเข้าใจ ก็ยิ่งฮึกเหิมนะ ยิ่งขยันภาวนา ลืมคำว่านิพพานไปเลย ไม่ได้ภาวนาเอานิพพานนะ แต่ภาวนาเพื่อที่จะเรียนรู้ความจริงของจิตใจของตัวเองเรื่อยๆไป เรียนรู้เพื่อที่จะให้รู้นะ ไม่ใช่เรียนรู้เพื่อที่จะเอาอะไร เรียนรู้เพื่อที่จะรู้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นในที่สุด เมื่อเรียนรู้ก็จะเกิดความรู้ความเข้าใจขึ้นมา

เนื้อแท้ของพระพุทธศาสนาก็คือความรู้ถูกความเข้าใจถูก ตัวสัมมาทิฎฐินั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าจะเรียนเพื่อเอาอย่างอื่นน่ะ เรียนยาก ยิ่งเรียนไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ แต่ถ้าเราเรียนเพื่อจะรู้ถูกเข้าใจถูกในกายในใจนี้นะ เรียกว่าเราเรียนรู้ตรงวัตถุประสงค์ของการเป็นชาวพุทธแล้ว พอรู้ถูกเข้าใจถูกแล้วใจจะปล่อยวางเอง เพราะรู้ตามความเป็นจริงจึงเบื่อหน่าย เพราะเบื่อหน่ายจึงคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัดจึงหลุดพ้น เพราะหลุดพ้นจึงรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว ทำต้นทางเลย คือรู้ถูก คราวนี้ขยันรู้เลยนะเพราะว่ามันน่ารู้ มีอะไรแปลกๆให้รู้ตลอด ทุกวันนะเฝ้ารู้เฝ้าดูไปเรื่อย รู้แล้วบางทีเกิดความเข้าใจขึ้น ตรงความเข้าใจก็คือปัญญา นานๆเกิดทีหนึ่ง

บางช่วงความเข้าใจไม่เกิดเลย ตั้งเดือนหนึ่งนะ ใจชักไม่สบายใจรู้สึกว่าการภาวนาไม่ก้าวหน้า จะได้เวลาไปส่งการบ้านกับครูบาอาจารย์แล้วยังไม่มีผลงานอะไรอย่างนี้นะ เร่งใหญ่เลย แต่ยิ่งเร่งยิ่งเลอะ เลอะเทอะใช้ไม่ได้เลย เร่งสุดขีดแล้ว เฮ้อ..ไม่ได้เรื่องแล้ว ปล่อย ปล่อยก็ดีทุกทีเลยนะ แต่ตอนจะปล่อยแล้วดีเนี่ย ต้องทำมาสุดขีดก่อนนะ ถ้ายังไม่ได้ทำเลย แล้วก็ปล่อยๆ ปล่อยๆ ทุกวัน ปล่อยอะไร ปล่อยกิเลสปล่อยโง่ออกมาเต็มไปหมด ก็ต้องขยันดูนะ ขยันดู

เนี่ยเมื่อเราเห็นผลของการปฏิบัตินะ ศรัทธาก็เพิ่ม วิริยะมันก็เพิ่มไปเรื่อย ขยันภาวนา ภาวนาแล้วมันสนุกสนานมีความสุข ได้รู้ได้เห็น ได้เข้าใจ มากขึ้นๆ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 560111A
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๑๓ ถึงนาทีที่ ๑๖ วินาทีที่ ๐๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

สังโยชน์เบื้องสูงมีลักษณะเหมือนกุศล

mp3 for download : สังโยชน์เบื้องสูงมีลักษณะเหมือนกุศล

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :มีอะไรบ้าง สังโยชน์เบื้องสูง ใครตอบได้บ้าง ไม่รู้เลยหรือ ไม่รู้ก็ไปหาอ่านเอา ไม่เทศน์ล่ะ จะเหมือนกุศลเลยนะ เหมือนกุศล คือรูปราคะ อรูปราคะ อะไรอย่างนี้นะ ดูเป็นคนรักความสงบ ดีมั้ย รักความสงบ รักความสงบฟังแล้วดีใช่มั้ย รักความฟุ้งซ่านดีมั้ย รักฟุ้งซ่านไม่ดี รักสงบดี แต่ยินดีพอใจไม่รู้ว่าพอใจ ไม่รู้ว่ายินดี เนี่ยมีราคะซ่อนอยู่ ในการที่เพ่งรูปเพ่งนาม รักความว่าง ชอบความว่าง แล้วบอกว่าไม่มีกิเลส นั่นแหละมีกิเลสอยู่ ติดอยู่ในความว่างก็มีอรูปราคะ มองไม่เห็นเอง เนี่ยจะต้องค่อยๆฝึกนะ กิเลสชั้นสูงเนี่ย หน้าตาเหมือนกุศลเลยนะ

ความฟุ้งซ่าน อุทธัจจะ ว่าจะไม่เทศน์นะ เทศน์เสียหน่อยก็ได้ หน้าตาแป๋วๆอย่างนี้ ถ้าให้ไปอ่านเองคงไม่ไปอ่าน หน้าตาขี้เกียจอย่างนี้ ไม่ค่อยขวนขวาย อุทธัจจะนะ อุทธัจจะอย่างที่พวกเรารู้จักอยู่อย่างนี้ เป็นอุทธัจจนิวรณ์ คือใจฟุ้งซ่าน ฟุ้งไปในอารมณ์โน้น ฟุ้งไปในอารมณ์นี้ วิ่งพล่านไปทางตาทางหูทางจมูกทางลิ้นทางกายทางใจ นี้เรียกว่าอุทธัจจะที่เรารู้จัก ตัวที่จะสู้มันก็คือสมาธิ ทำสมาธิสู้ได้ แต่อุทธัจจสังโยชน์นี้ไปอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่จิตฟุ้งซ่านเลยนะ เพราะผู้ที่จะไปสู้กับอุทธัจจสังโยชน์คือพระอนาคามี สมาธิบริบูรณ์ ไม่มีคำว่าฟุ้งซ่าน(นิวรณ์)อีกแล้ว แต่ยังมีอุทธัจจะอยู่ อุทธัจจะตัวนี้มันเป็นความที่จิตดิ้นรน จิตดิ้นรนแสวงหาธรรมะ อยากปฏิบัติ อยากให้พ้นไปเสียทีนะ หาทาง ทำยังไงจะดี ทำยังไงจะดี พวกเราเคยรู้สึกมั้ย บางครั้งเราก็นึก ตื่นนอนมาเราก็นึกนะว่าจะปฏิบัติยังไงแล้วจะดี เนี่ยรู้จักไว้บ้างนะ เนี่ยเป็นตัวอย่างเล็กๆน้อยๆของ อุทธัจจสังโยชน์ ฟุ้งซ่าน แสวงหานั่นแหละ อยากแสวงหา ใจดิ้นๆดิ้นๆไม่เลิกเลย ทำยังไงจะหลุดพ้น ทำยังไงจะหลุดพ้น ทำยังไงจะปฏิบัติได้ดีกว่านี้อีก ใจจะดิ้นๆดิ้นๆอยู่อย่างนั้นน่ะ

แล้วมีอะไรอีก มานะ ยกตัวอย่างพวกเรามีมานะ ก็คือ มีกูเก่งนะ พอภาวนาสูงขึ้นไปแล้วไปเจอมานะละเอียดนะ กลายเป็นกูไม่เก่ง กูไม่เก่งนะ ไม่ใช่กูเก่งนะ ไม่ดีเลย สู้เขาไม่ได้นะ หมายถึงสู้ใคร สู้ครูบาอาจารย์ไม่ได้ ครูบาอาจารย์สะอ๊าดสะอาดนะ ทำไมเรามอมอย่างนี้ แค่อย่างนี้ไม่ได้คิดเทียบกับครูบาอาจารย์เลยนะ แต่ในใจคิดว่า โห..ท่านดีจังเลย เมื่อไหร่จะดีอย่างท่านนะ มีท่านมีเราขึ้นมานะ มีการเทียบน่ะ เทียบสภาวะของตัวเองกับของคนอื่นขึ้นมา มันก็เป็นมานะแล้วล่ะ

โห.. มันละเอียดนะ ยิ่งอวิชาเนี่ย สุดยอดละเอียดเลย หลวงตามหาบัวสอนไว้นะ จิตผู้รู้นั้นแหละ จิตอวิชา หลวงปู่เทสก์ท่านก็สอนนะ ตัวที่เข้ามาเป็นใจของเรานี่แหละ มีอวิชาซ่อนอยู่ข้างในนะ เคยไปถามท่าน ตอนนั้นหลวงพ่อยังไม่ได้บวชหรอก ภาวนามาช่วงหนึ่ง เข้าไปถามท่าน ถามว่าหลวงปู่ ผมเห็นจิตต้นกำเนิดแล้วล่ะ จิตต้นกำเนิดนั้นน่ะ มันมีเชื้อเกิดอยู่ข้างใน ทำอย่างไรจะทำลายมันได้ ท่านก็สอนเยอะนะ แจกแจงให้ฟัง มันทำลายตัวอวิชา จิตต้นกำเนิดหรือจิตอวิชา หรือจิตผู้รู้ ตัวเดียวกัน ที่พวกเราฝึกหาจิตผู้รู้นะ ให้มีจิตผู้รู้นะ นั้นแหละ จิตผู้รู้นั้นแหละยังเป็นจิตอวิชาอยู่ แต่อาศัยมันก่อน พอวันหนึ่งก็ค่อยมาทำลายตัวนี้ลงไปอีกทีหนึ่ง


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 560111A
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๑๘ วินาทีที่ ๑๔ ถึงนาทีที่ ๒๒ วินาทีที่ ๑๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

แรกฝึกสติก็เห็นแต่กิเลสหยาบๆ ฝึกมากเข้าๆก็จะเห็นกิเลสที่ละเอียด

mp3 for download : แรกฝึกสติก็เห็นแต่กิเลสหยาบๆ ฝึกมากเข้าๆก็จะเห็นกิเลสที่ละเอียด

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :สติก็เหมือนกัน ยิ่งเราขยันภาวนานะ สติก็ยิ่งเร็วขึ้นๆ หัดใหม่ๆเรารู้แต่ของหยาบ ต้องโกรธแรงๆถึงจะรู้ว่าโกรธ ต้องโลภแรงๆถึงจะรู้ว่าโลภ บางทีโกรธแรงยังไม่รู้เลย นี่สติไม่เกิดเลย หัดใหม่ๆก็รู้ของหยาบ พอฝึกมากเข้าๆนะ ของละเอียดก็เริ่มเห็นมากขึ้น

แต่เดิมจะเห็นเมื่อโกรธแรงๆถึงจะเห็น ต่อมานะ แค่เดินออกไปนอกห้องอย่างนี้ แสงแดดกระทบเปลือกตา เกิดความขัดใจ เกิดปฏิฆะแล้ว ขัดใจแล้ว แค่แดดกระทบตานิดเดียวไม่พอใจแล้ว หรือนั่งอยู่ในห้องน้าวหนาวนะ ใครก็ไม่รู้เปิดหน้าต่างแล้วลมหนาวเยือกเข้ามานะ ไม่พอใจ แต่ถ้าเป็นหน้าร้อนลมพัดเข้ามานะ ราคะก็เกิด แค่นิดเดียวแค่นี้นะ

แสงแดด สายลมและแสงแดดนี่แหละ พาให้กิเลสเกิดเพียบเลย รักสายลมและแสงแดดระวังให้ดีนะ จะเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบจักสิ้น รักสายลมและแสงแดด รักธรรมชาติและเสียงเพลง รักความยุติธรรม โอ้..เหลวไหล ลมพัดมาก็มีกิเลสมาด้วย แดดมากระทบก็มีกิเลสมาด้วย ไม่ราคะก็โทสะ เห็นมั้ย เล็กๆ เนี่ยค่อยฝึกนะ แม้แต่กิเลสเล็กๆก็มองเห็น

หรือฝึกแต่เดิม เซลฟ์จัด ไม่เห็นเลย พอฝึกมากเข้าๆนะ แค่ทิ้งขยะก็ยังเห็นเลย ประกอบ เบื้องหลังของการโยนขยะไปทิ้งเนี่ย มี Self อยู่ด้วย มีกูเก่ง กูแน่โว้ย กูหนึ่ง นี่แหละกู ซ่อนอยู่ มันละเอียดๆขึ้นนะ

เนี่ยหัดภาวนานะ ทีแรกสติก็เกิดช้า เกิดน้อย รู้สภาวะได้เฉพาะของหยาบ ต่อไปสติเร็วขึ้นๆนะ สภาวะละเอียดๆก็รู้ก็เห็น กิเลสชั้นละเอียดนี้ละเอียด ละเอียดมากนะ กิเลสชั้นสูงๆน่ะ หน้าตาเหมือนกุศลเลย ยิ่งสังโยชน์เบื้องสูง ๕ ตัว หน้าตาเหมือนกุศลเลย


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 560111A
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๑๖ วินาทีที่ ๙ ถึงนาทีที่ ๑๘ วินาทีที่ ๑๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ฆราวาสธรรม คุณมาลี ปาละวงศ์แนะนำวิธีการเดินจงกรม

Link(VIDEO) : www.youtube.com/watch?v=lZ5F3BICubM

คุณมาลี ปาละวงศ์
แนะนำวิธีการเดินจงกรม

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : วิธีหัดรู้ว่าเมื่อกี้ลืมตัวไป

วิธีหัดรู้ว่าเมื่อกี้ลืมตัวไป

วิธีหัดรู้ว่าเมื่อกี้ลืมตัวไป ก็ให้หาอะไรมาเป็นสิ่งระลึกถึงเอาไว้สบายๆ

อย่างเช่นเอาลมหายใจเป็นสิ่งระลึกถึงอยู่

ก็ให้รู้สึกถึงร่างกายที่กำลังหายใจเข้าออกไปสบายๆ

อย่าฝืน อย่าห้ามไม่ให้จิตไปนึกคิดเรื่องในอดีต

ซึ่งเมื่อใดที่จิตหลงไปคิด เราก็จะลืมไปว่ามีร่างกายหายใจอยู่

ถ้าสังเกตได้ว่าเมื่อกี้ลมหายใจหายไป เมื่อกี้ลืมตัวไป

ก็คือรู้สึกตัวขึ้นได้แล้ว

 

เวลาทำกิจกรรมอะไรอยู่เช่นกำลังเดินก็เช่นกัน

ก็ให้มารู้สึกมีร่างกายเดินอยู่ รู้สึกไปสบายๆ

ถ้าจิตหลงไปคิดก็จะลืมร่างกายที่กำลังเดินไป

ถ้าสังเกตได้ว่าเมื่อกี้ลืมร่างกาย ลืมตัวไป

ก็จะกลับมารู้สึกตัวพร้อมๆกับความคิดที่มันดับลงไปชั่วขณะ

 

ให้หัดอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เท่าที่พอจะหัดได้

นึกได้ตอนไหนก็หัดเอาตอนนั้นเลย ไม่นานหรอกครับ

จิตก็จะค่อยๆ สงบลงเพราะมีความรู้สึกตัวได้บ่อยขึ้น

จะรู้ทันจิตที่หลงไปคิดได้บ่อยขึ้น รู้ทันจิตที่เศร้าหมองที่กังวลได้บ่อยขึ้น

เมื่อรู้ทันได้บ่อยขึ้น จิตก็จะสงบมากขึ้น ตั้งมั่นมากขึ้น

ความทุกข์ใจก็จะลดลงไปเองครับ

 

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News: New Files Uploaded (๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๖)

    New Files Updated วันเสาร์ที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖

  • 561015: โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก แสดงธรรมเมื่อวันอังคารที่ ๑๕ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การภาวนาที่ประกอบด้วย พละ ๕ / อินทรีย์ ๕

mp3 for download : การภาวนาที่ประกอบด้วย พละ ๕ / อินทรีย์ ๕

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :ฝึกจิตฝึกใจของเราเนี่ย ให้มันมีสติบ่อยๆ ให้มันมีสมาธิหรือความตั้งมั่นให้มาก เคารพอ่อนน้อมในพระพุทธเจ้า มีความขยันหมั่นเพียรทำในรูปแบบ แล้วเจริญปัญญาไป เห็นมั้ยที่หลวงพ่อสอน สอนครบนะ ในพละ ๕

สอนให้เคารพรักในพระพุทธเจ้า เบื้องต้นก็เคารพรักด้วยการน้อมใจไปก่อน เพราะยังไม่เห็นจริง ก็มีความเพียรนะ ทุกวันต้องปฏิบัติในรูปแบบ ต้องฝึกสติ ขาดสติไม่ได้ ต้องฝึกสมาธิ ต้องมีใจอยู่กับเนื้อกับตัว ต้องเจริญปัญญา ต้องแยกรูปแยกนาม เห็นมั้ย งานที่สอนให้ทำ เพราะฉะนั้นเราต้องฝึกนะ ฝึกของเรา อินทรีย์ ๕ ต้องครบ

ถ้าเบื้องต้นนะ คอยคิดถึงคุณของพระพุทธเจ้าไว้ คุณของพระพุทธเจ้ามีมาก ท่านมีปัญญาอย่างยิ่ง ท่านค้นพบเส้นทางที่แสนจะยาก ขนาดท่านนำมาบอกเรานะ เรายังทำไม่ค่อยจะได้เลย กระพร่องกระแพร่ง แต่คนที่ทำได้ก็มี แสดงว่าสิ่งที่ท่านค้นพบนั้นมันถูกต้อง

ยกตัวอย่างเวลาที่เราเห็นครูบาอาจารย์เนี่ย หลวงพ่อแต่ก่อนเห็นครูบาอาจารย์เยอะ ตระเวณไปหาครูบาอาจารย์มากมาย ไม่ใช่สายวัดป่าอย่างเดียวนะ ไปสายอื่นก็มีที่ภาวนาเก่งๆ นอกสายวัดป่าก็มี นอกลู่นอกทางไปเลยก็เยอะ นอกสายวัดป่าที่ท่านเก่งๆ ยกตัวอย่างเช่น ครูบาพรหมจักร์ ท่านเก่ง หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านเก่ง เก่งของท่านน่ะ ไม่ใช่วัดป่าหรอก อีกองค์ที่เก่ง แต่หลวงพ่อไม่ทันท่าน ไปหาไม่ทันคือ หลวงปู่บุดดา หลวงปู่บุดดานะ ท่านภาวนา ๓ พรรษาเอง เร็วกว่าเพื่อนเลย เร็ว เนี่ยตระเวณไปเห็นครูบาอาจารย์แต่ละองค์นะ ผ่องใส ขนาดว่าแก่มากๆนะ ยังดูสดใส หลวงปู่คร่ำใครเคยรู้จักมั้ย หลวงปู่คร่ำ ชื่อคร่ำ แต่ดูไม่คร่ำคร่า สดใส อายุร้อยกว่าปี อยู่ที่เมืองแกลง สิ้นไปแล้วล่ะ ใจดี เมตตาสูง จิตเนี่ย โห..เย็นฉ่ำเลย สติสมาธิปัญญาบริบูรณ์เลย ดีมากๆเลย ท่านก็ฝึกของท่านนะ คนละแบบคนละแนวกันมา ท่านก็ดีของท่านน่ะ

เห็นท่านแล้ว โอ้.. สดใส แต่ละองค์ๆ แก่ขนาดไหนก็สดใส ท่านมีธรรมะของพระพุทธเจ้า เจ็บป่วยขนาดไหนก็สดใส เห็นหลวงปู่สุวัจน์ (เพิ่มเติม : เรื่องเล่าครูบาอาจารย์ : หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ บรรลุธรรมด้วยอิริยาบทเดิน) นั่งบนรถเข็นแท้ๆเลย ท่านดูผ่องใสจังเลย สะอาดหมดจดเหลือเกินนะ เราสกปรกมอมแมมไม่ได้อย่างท่านเสียที มองไป โอ้.. งาม นั่งรถเข็นนะ จะกลืนน้ำลายยังกลืนไม่ได้เลย พระต้องคอยดูดน้ำลายให้นะ ท่านก็นั่ง.. ไปนั่งใกล้ๆนะ เดี๋ยวท่านก็ปรารภธรรมะ สุขแท้น้อ.. สุขแท้น้อ.. มองท่าน หา..สุขเหรอหลวงปู่ เป็นเรา เราทุกข์แท้น้อ.. เลยเนอะ ป่วยซะขนาดนั้น

หรือไปหาหลวงปู่เหรียญ ใกล้จะมรณภาพแล้ว ไปหาท่านนะ นอนอยู่บนเตียงแบบโรงพยาบาลน่ะ อยู่ที่วัด ไปถึงพระก็ไขเตียงให้ท่านตั้งหลังขึ้นมา หลังตั้งขึ้นมา นั่งขึ้นมา เท้าก็ยังเหยียดอยู่ โห..ผ่องใส งดงาม ดูจิตใจท่านร่าเริง จิตใจท่านเบิกบาน ท่านมีความสุข แก่ก็มีความสุข เจ็บก็มีความสุข จะตายอยู่แล้วยิ่งผ่องใสหนักขึ้นๆ เนี่ยท่านต้องมีอะไรดีของท่านน่ะ

การที่เราได้รู้ได้เห็นได้สัมผัสครูบาอาจารย์ที่ท่านดีของท่านจริงๆ ก็จะทำให้เรามีศรัทธาขึ้นมาเหมือนกัน แต่ละองค์ ท่านเหล่านี้น่ะ เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า แต่ละองค์สรรเสริญพระพุทธเจ้า แสดงว่าพระพุทธเจ้าท่านต้องมีอะไรดีๆแน่เลย ค่อยๆศรัทธาไปถึงพระพุทธเจ้าอีก เห็นลูกศิษย์แล้วศรัทธาอาจารย์ ถ้าลูกศิษย์โหลยโท่ยก็เสื่อมศรัทธาไปถึงอาจารย์ เนี่ยพอเห็นนะ พระพุทธเจ้าท่านต้องดีแน่ๆ ธรรมะที่ท่านสอนนะ ปราณีตลึกซึ้ง ยิ่งภาวนานะ ยิ่งจับจิตจับใจ โองามเหลือเกิน ธรรมะของท่านงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ซาบซึ้งถึงอกถึงใจมากขึ้น ศรัทธามันก็จะแก่กล้ามากขึ้นเรื่อยๆ

แล้วศรัทธาของเราจะไปเต็มตอนที่เป็นพระโสดาบันนะ เป็นพระโสดาบันเนี่ย ยอมตายถวายชีวิตเลย ใครจะบอกว่าพระพุทธเจ้าพูดโกหกเนี่ย ไม่เชื่อเด็ดขาดเลย รู้แล้วว่าท่านพูดจริง สอนของจริง ท่านสะอาดหมดจดจริง เพราะเราได้สัมผัสความสะอาดหมดจดอันนั้นด้วยการปฏิบัติของเราเอง เพราะฉะนั้นศรัทธาเนี่ยจะแก่กล้าขึ้นไปตามลำดับของการปฏิบัติของเราเอง ปฏิบัติถูกแล้วศรัทธาจะแก่กล้าขึ้นเรื่อยๆ

หรือวิริยะก็เหมือนกัน หัดใหม่ๆขี้เกียจขี้คร้าน ครูบาอาจารย์ขอวันละ ๑๐ นาที ให้ไม่ค่อยจะได้เลย อยากได้นิพพาน เวลาอ้าปากขึ้นมาก็ขอนิพพาน จะให้ภาวนา ๑๐ นาที ไม่เอา ท้อแท้ หมดแรง ขาดกำลังใจ โหย..ฟังแล้ว หือ..

วิริยะนะ หัดใหม่ๆนะ โอ้ย..ภาวนานิดๆหน่อยๆจะเป็นจะตาย แล้วพอเราค่อยเห็นผลนะ อย่างหลวงพ่อหลอกล่อ เอาสิบนาที สิบนาที ห้านาที อะไรอย่างนี้ พอทำน้อยๆแล้วรู้สึกมีความสุข ทนได้ พอผ่านไปได้สักช่วงนะ ใจค่อยมีกำลังเข้มแข็งขึ้น วิริยะมันเพิ่มเองแหละพอภาวนาแล้วมีความสุข ภาวนาแล้วมีความสุข เรื่องอะไรจะมีความสุขสิบนาที เห็นมั้ย ใจก็อยากภาวนามากๆขึ้น ขยันหมั่นเพียรมากขึ้น ยิ่งเดินจงกรมก็ยิ่งมีความสุข นั่งสมาธิยิ่งมีความสุขนะ

ทำสมถะก็มีความสุข ทำวิปสสนาก็มีความสุขไปอีกแบบ ไม่เหมือนกัน ทำสมถะเนี่ยนะ ทำถ้าชำนาญ มีวสีนะ ทำเมื่อไหร่มีความสุขเมื่อนั้นเลย แต่ว่าการเจริญปัญญาไม่เป็นอย่างนั้นหรอก การเจริญปัญญานั้นบางทีตั้งครึ่งเดือน เกิดความรู้ความเข้าใจขึ้นมาหน่อยนึง พอเกิดความรู้ความเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยนะ จิตใจจะมีความสุขนะ อิ่มเอิบเบิกบานสักอาทิตย์หนึ่งนะ แล้วก็หมดละ แห้งแล้ง ไม่เหมือนสมถะนะ สมถะถ้าชำนาญแล้วก็ นั่งเมื่อไหร่ก็มีความสุขเมื่อนั้น ส่วนตัวปัญญาไม่เกิดบ่อย ถ้าปัญญาเกิดบ่อยจะไม่ใช่ปัญญาตัวจริง เป็นปัญญาที่เกิดจากการคิดเอาเอง เกิดทุกวัน มีปัญญาทุกวัน ปัญญาหลอกๆนะ ไม่ใช่ของจริงหรอก ถ้าเป็นปัญญาที่จิตมันรู้มันเห็น มันเข้าใจแจ่มแจ้งขึ้นมานะ โอโหย.. มันแช่มชื่นใจนะ มันมีความสุข สุขคนละแบบกันสมถะ

สมถะนั้นเป็นความสุขแบบไร้เดียงสา วิปัสสนาเนี่ยถ้าเกิดปัญญาแล้วจะมีความสุข จะเป็นเหมือนความสุขของผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตน่ะ ความสุขคนละแบบ สมถะมันเป็นความสุขแบบเด็กเล่นดินเล่นทรายอะไรอย่างนั้นไป ก็มีความสุขนะ เพลิดเพลินไป วิปัสสนาเป็นความสุขของผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มันอิ่มเอิบใจ คนละแบบกัน

เนี่ยพอเราเห็นผลของการปฏิบัตินะ ความเพียรมันจะมากขึ้นๆ เห็นมั้ย เห็นผลของการปฏิบัติ ศรัทธาก็มากขึ้นเรื่อยๆ เห็นผลของการปฏิบัตินะ ความเพียรก็มากขึ้นเรื่อยๆ จะยิ่งขยันปฏิบัติ เพราะปฏิบัติแล้วดี ปฏิบัติแล้วสุข ปฏิบัติแล้วของที่ไม่เคยรู้ก็ได้รู้ ของที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น น่าสนใจมาก


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 560111A
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๑๑ ถึงนาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๑๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : รู้รักษาตัวรอดยามวิบากให้ผล

รู้รักษาตัวรอดยามวิบากให้ผล

ทำกรรมใดไว้ย่อมต้องมีผลกรรมนั้นเสมอ

 แม้ปัจจุบันจะทำดีเป็นปกติ จะทำกุศลอยู่เป็นปกติ

 หากได้โอกาส กรรมไม่ดีที่เคยทำไว้ก็จะให้ผล

 อย่าคิดนะว่าเราทำดีปฏิบัติดีแล้วจะไม่เจอเรื่องไม่ดี

 แต่ให้รู้จักเอาตัวรอดในช่วงที่กำลังรับผลไม่ดีนั้น

 ช่วงเวลาใดที่รู้สึกว่าจะประคองตัวไม่ไหว เหมือนดั่งเรือเล็ก

 ที่ไม่อาจต้านความเชี่ยวกรากของสายน้ำได้ ก็ต้องเอาเรือเข้าฝั่ง

 เก็บรักษาเอาไว้ใช้ต่อเมื่อจำเป็น

 

 ถึงวันนี้ เริ่มรู้สึกว่าจะไม่ไหวแล้ว

 ต้องปลดปล่อยภาระที่เกินจำเป็นออกไปก่อน

 รอให้ความเชี่ยวกรากของวิบากแผ่วเบาลง

 รอให้ใจถึงพร้อมมากกว่านี้

 แล้วค่อยออกเรือกันต่อไป.

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Video: แสดงธรรม ชมรมธรรมปรีดา อาคารเล้าเป้งง้วน ตุลาคม ๒๕๕๖

Link(VIDEO) : www.youtube.com/watch?v=6B1ff3DPM9k

Link(AUDIO) : 561008

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
แสดงธรรมที่‏ ชมรมธรรมปรีดา อาคารเล้าเป้งง้วน ๑ ชั้น ๑
เลขที่ ๓๓๓ ซอยเฉยพ่วง ถนนวิภาวดีรังสิต
แขวงจอมพล เขตจตุจักร
กรุงเทพมหานคร ๑๐-๙๐๐
เมื่อวันอังคารที่ ๘ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

บรรลุธรรมได้ต้องพร้อมด้วย พละ ๕ ประการ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา

mp3 for download : บรรลุธรรมได้ต้องพร้อมด้วย พละ ๕ ประการ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :เรียนกรรมฐานนะ ตัวสำคัญมากเลย ก็คือ เราจะทำวิปัสสนาได้มั้ย หลายคนไม่รู้จักวิปัสสนากรรมฐาน รู้จักแต่เพ่ง กะว่าเพ่งไปเรื่อยๆแล้ววันหนึ่งจะบรรลุมรรคผล บรรลุไม่ได้หรอก เพ่ง

เพ่งอารมณ์อันเดียว เป็นสมถะ เรียกว่า “อารัมณูปนิชฌาน” เพ่งอารมณ์อันเดียว เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้ทำวิปัสสนา คือการเห็นรูปนามกายใจตามความเป็นจริง ไม่มีทางบรรลุมรรคผลนิพพาน เนี่ยต้องเห็นรูปนามตามความเป็นจริงไปเรื่อย

ก็มีข้อยกเว้นเหมือนกัน คนที่บารมีเต็มจริงๆนะ สมัยพุทธกาล บางคนเขาบารมีเต็ม ได้ยินคนสรรเสริญพระพุทธเจ้า จิตซึ่งมันเต็มแล้วนะ มันขาดเลยนะ ที่ได้พระโสดาฯก็มี บางคนไม่เคยเจอพระพุทธเจ้า ไม่เคยได้ยินคำว่ารูปนาม มีเยอะเลย สมัยพุทธกาล เพราะบารมีเขามาก ยกตัวอย่างอนาถปิณฑิกะนะ ไม่รู้จักขันธ์ ๕ ไม่รู้จักขันธ์ ๕ เลย ไปฟังคำพระพุทธเจ้า ฟังธรรมดาๆ ธรรมดานี่เอง ได้โสดาฯ นี่คือพวกที่เขาแก่กล้า เขาสะสมมามากพอแล้ว แค่ใจเขามีพลังเพิ่มขึ้นนิดเดียวก็ขาดเลย เป็นอย่างนั้นได้ต้องสะสมมาก่อน

พวกเราขาดทั้งสองอย่างนะ ขาดปัญญาบารมี ไม่ได้รู้รูปรู้นามมาให้มากพอ อีกอันขาดบุญบารมี กำลังบุญยังไม่พอที่จะตัด สมัยพุทธกาลนะ ตัด เขาตัดกันง่าย เขาเคยทำเคยสร้างของเขามา แต่ละคนๆไม่ใช่น้อยๆหรอก ขนาดว่าไม่เคยได้ยินเรื่องรูปนามนะ พอใจได้ยินพระพุทธเจ้า ได้ยินการสรรเสริญพระพุทธเจ้า ใจอิ่มเอิบใจนะ บุญมันเต็มขึ้นมา กำลังมันพอน่ะ คล้ายๆเคยซ้อมมาอย่างดีแล้ว พอแรงพอก็ขาดเลย

ทีนี้พวกเราก็ต้องค่อยๆพัฒนา ทั้งกำลังนะ ทั้งปัญญา ปัญญาจริงๆก็เป็นกำลังอย่างหนึ่ง หลวงพ่อแยกออกมาก็เพื่อให้เห็นชัดๆนะว่า เดินปัญญาไปแต่จิตไม่มีพลังเนี่ย ใช้ไม่ได้

ส่วนที่ทำให้จิตมีพลังเนี่ยเรียกว่า พละ ๕ มีศรัทธาเพียงพอมั้ย มีวิริยะมั้ย มีสติ มีสมาธิ มีปัญญามั้ย นี่ล่ะ พละ ๕ ถ้าพละ ๕ เพียงพอนะ ก็ขาด

บางคนมันขาดพละอื่นๆ สติ สมาธิ อะไรอย่างนี้นะ ไม่มี หรือศรัทธาไม่มีนะ เดินปัญญารวดไปเลย ปัญญาล้ำหน้าไป เก่งกว่าพระพุทธเจ้า บางคนดูถูกพระพุทธเจ้าเลยนะ บางคนปรามาสล่วงเกินพระพุทธเจ้า ถือว่ายิ่งปรามาสล่วงเกินได้นะ ยิ่งเท่ แสดงว่าไม่ยึดถือ นี่โง่สุดๆเลย นรกจะกินหัวเอา ไม่มีหูมีตา พูดส่งเดชไป สอนกันด้วยซ้ำไป ไม่ยึดถืออะไร เจอพระพุทธรูปนะ เหยียบเล่นก็ได้ อะไรก็ได้ เพราะไม่ยึดถือ เนี่ยพวกปัญญาล้ำหน้าเนี่ย อะไรก็ไม่ยึดๆ เพราะทุกอย่างว่างเปล่า ไม่มีตัวมีตน ศรัทธามีมั้ย ไม่มีศรัทธาอะไรเลย กูเก่งลูกเดียวเลย มีวิระยะมั้ย ไม่มีวิริยะ ไม่เร่งขยันหมั่นเพียรปฏิบัตินะ เอะอะก็จะว่างๆ ไม่ยึดถืออะไรเลย สติมีมั้ย ไม่มีหรอก กิเลสท่วมหัวมองไม่เห็น สมาธิมีมั้ย ไม่มี มีแต่ความฟุ้งซ่าน เนี่ยอันตรายมากเลยนะ เพราะฉะนั้นถ้ามีปัญญาอย่างเดียวนะ ตัวอื่นไม่มีเนี่ย เหลวไหลที่สุดเลย ต้องระมัดระวังนะ โดยเฉพาะคนที่จะไปสอนคนอื่นเขา ต้องระมัดระวัง จะไปสอนแต่ว่าจะให้เจริญปัญญารวดไปเลย ไม่ได้ อินทรีย์ ๕ (อีกชื่อหนึ่งของ พละ ๕ – ผู้ถอด) ต้องแก่กล้าเสมอกันไป พวกเราก็ค่อยๆฝึก


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 560111A
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๐ วินาทีที่ ๒ ถึงนาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๑๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

รถตู้ฟรี เพื่อไปฟังธรรมสวนสันติธรรม พฤศจิกายน ๒๕๕๖

รถตู้ฟรี เพื่อไปฟังธรรม สวนสันติธรรม

รถตู้ฟรี เพื่อไปฟังธรรม สวนสันติธรรม

หลวงพ่อปราโมทย์ แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม

ไม่มีการแสดงธรรมที่สวนสันติธรรม

รถตู้โดยกลุ่มธรรมดา.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางกลุ่มธรรมดา.net

รถตู้โดยกลุ่มธรรมทาน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางรถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

รถตู้โดยลุงเมา (คณะเจ้าภาพหลากหลาย) กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางรถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

รถตู้โดยชมรมพุทธศาสน์ กฟผ. กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางรถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

1. รถตู้โดยกลุ่มธรรมดา.net

พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๖ (ดูรายการรถตู้ฟรีโดยเจ้าภาพท่านอื่น คลิ้กที่นี่)

วัน เวลา นัดพบ วันที่รับสมัคร
วันเสาร์ที่ ๒ พ.ย. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊ม ปตท. รังสิต ๒๑ ต.ค. – ๓๐ ต.ค. ๕๖
วันอาทิตย์ที่ ๑๐ พ.ย. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั้ม ปิโตรนาส เจริญนคร ๒๘ ต.ค. – ๖ พ.ย. ๕๖
วันเสาร์ที่ ๑๖ พ.ย. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊ม เอสโซ่ สถานีอารีย์ ๔ – ๑๓ พ.ย. ๕๖
วันเสาร์ที่ ๓๐ พ.ย. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊ม เอสโซ่ บางแค ๑๘ – ๒๗ พ.ย. ๕๖
๐๕:๑๐ น. ปั้ม ปตท. พระราม ๒

ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ (ดูรายการรถตู้ฟรีโดยเจ้าภาพท่านอื่น คลิ้กที่นี่)

วัน เวลา นัดพบ วันที่รับสมัคร
วันอาทิตย์ที่ ๖ ต.ค. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊ม ปตท. รังสิต ๒๓ ก.ย. – ๒ ต.ค. ๕๖
วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ต.ค. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั้ม ปิโตรนาส เจริญนคร ๓๐ ก.ย. – ๙ ต.ค. ๕๖
วันเสาร์ที่ ๑๙ ต.ค. ๕๖ ๐๕:๐๐ น. ปั๊ม เอสโซ่ สถานีอารีย์ ๗ – ๑๖ ต.ค. ๕๖
วันเสาร์ที่ ๒๗ ต.ค. ๕๖
เพิ่มรอบพิเศษเนื่องจากงานกฐิน
๐๕:๐๐ น. ปั๊ม เอสโซ่ สถานีอารีย์ ๑๔ – ๒๓ ต.ค. ๕๖
๐๕:๐๐ น. ปั๊ม เอสโซ่ บางแค
๐๕:๑๐ น. ปั้ม ปตท. พระราม ๒

แผนที่
(คลิ้กที่ภาพ เพื่อดูแผนที่ขนาดเต็ม)

แผนที่ ปั๊มพ์ ปตท.รังสิต

แผนที่ ปั๊มพ์ ปตท.รังสิต

แผนที่ ปั๊มเอสโซ่บางแค

แผนที่ ปั๊มเอสโซ่บางแค

ปั๊มปตท.พระราม 2

ปั๊มปตท.พระราม 2


โดยมีรายละเอียดและการสำรองที่นั่ง ดัง นี้
1. กรุณาสำรองที่นั่งภายในวันเวลาที่ รับสมัคร โดยส่งชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และจำนวนที่นั่งที่ต้องการจองมาที่

    หมายเลขโทรศัพท์: 08-9694-2994 ติดต่อคุณดีนี่
    หมายเลขโทรศัพท์: 089-955-9565 ติดต่อ คุณเอ้(หากไม่รับสาย รบกวนโทรเบอร์อื่น หรือ ส่ง sms )
    หมายเลขโทรศัพท์: 089-996-4456 ติดต่อ คุณทราย

2. ทางกลุ่มฯของดรับบริจาคหรือเรี่ยไร สมทบทุนทุกกรณี หากมีการเรี่ยไรจากผู้ให้บริการ จะไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฯ และทุกท่านมีสิทธิ์ที่จะไม่ต้องสมทบทุนได้ และหากมีกรณีเช่นนี้ขอความกรุณาแจ้งมาทางเมล์ของกลุ่มฯด้วยครับ

3. หากมีปัญหาจากการให้บริการ หรือไม่ได้รับความสะดวกประการใด หรือมีข้อเสนอแนะประการใด กรุณาติดต่อมาที่ van.dhammada.net@gmail.com ได้

4. อนึ่งขอให้ทุกท่านตรงต่อเวลาและใน กรณีที่มีเหตุจำเป็นจะยกเลิกการสำรองที่นั่ง กรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้ผู้อื่นได้ใช้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยครับ

2. รถตู้โดยคณะเจ้าภาพอื่น

รายการรถตู้ฟรีเพิ่มเติม เพื่อเดินทางไปฟังธรรมที่สวนสันติธรรม (ดูรายการรถตู้ฟรีของ Dhammada.net คลิ้กที่นี่)

วันและเวลาออกเดินทาง จุดนัดพบ การสำรองที่นั่ง คณะเจ้าภาพ
5.30 น. อาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน Mc Donald’s ที่ แมกซ์วาลู ศรีนครินทร์
(เปิด 24 ชม.)
ติดต่อ02-717-5111
ที่คุณกบ หรือ
คุณหนิงเท่านั้น
กลุ่มธรรมทาน
5.00 น. อาทิตย์ที่ 1 ของทุกเดือน ปั๊ม ปตท สนามเป้า ข้าง ททบ. 5
ตรงข้าม รพ.พญาไท 2
ติดต่อ ลุงเมา
084-360-6881,
086-780-4368,
086-556-2623
บ้านขนมนันทวัน จ.เพชรบุรี
5.00 น. อาทิตย์ที่ 2 ของทุกเดือน บ.สาลี่เอกชัย จ.สุพรรณบุรี
5.00 น. เสาร์หรืออาทิตย์ที่ 3
ของทุกเดือน
บ.ชัยรัชการ จก.
โตโยต้า บางนา-ตราด กม. 16
5.00 น. อาทิตย์ที่ 4 ของทุกเดือน กลุ่มเพื่อน ทพญ. ยาหยี,
ทพญ. จ๊ะจ๋า,
คุณ เจษฎ์จรรย์
5.00 น. อาทิตย์ที่ 5 ของทุกเดือน (ถ้ามี) คุณสุปรียา (น้อง)
5.00 น. อาทิตย์ที่ 2 ของทุกเดือน (เฉพาะเดือนธันวาคมนี้ (๒๕๕๕) ขอเปลี่ยนแปลงเป็นวันอาทิตย์แรก วันอาทิตย์ที่ ๒ ธันวาคม แทน) ม.เอเชียอาคเนย์ ติดต่อ คุณนิตยา 02-807-4500 ต่อ 321 หรือ คุณปิยะธิดา 083-609-5752 เวลา 8.30 – 16.30 น. วัน อังคาร – เสาร์ ม.เอเชียอาคเนย์
5.00 น. เสาร์ที่ 2 ของทุกเดือน
(กรุณาสำรองที่นั่ง
ก่อน 12.00 น.ของวันพฤหัสที่ 2 ของเดือน)
หน้าป้อมยาม กฟผ. ถ.จรัญสนิทวงศ์ ติดต่อ คุณใกล้รุ่ง
080-465- 4924
เวลา 9.00-20.00 น.
ทุกวัน หรือ
mdc@egat.co.th
กิจกรรมพัฒนาจิต
อ. บางกรวย จ. นนทบุรี
ชมรมพุทธศาสน์ กฟผ.

เนื่องจากเป็นการเดินทางของหมู่คณะ ขอให้ทุกท่านตรงต่อเวลา และในกรณีที่มีเหตุจำเป็นจะยกเลิกการสำรองที่นั่ง กรุณาแจ้งยกเลิกล่วงหน้าเพื่อให้ผู้อื่นได้มีโอกาสเดินทางแทน
หมายเหตุ
1. จะไม่มีการเดินทางตามตารางข้างต้นหากวันเดินทางที่กำหนดไว้ตรงกับวันที่สวนสันติธรรมปิด
2. รอบรถตู้ข้างต้นของดรับบริจาคหรือเรี่ยไร ทุกกรณี หากญาติธรรมมีความประสงค์จะร่วมบุญ กรุณาติดต่อเจ้าภาพโดยตรง หากมีการเรี่ยไรให้ช่วยค่าใช้จ่ายจากคนขับรถตู้ ขอความกรุณาแจ้งมาทาง santi.vangroup@gmail.com
3. หากมีข้อร้องเรียน คำถาม หรือมีข้อเสนอแนะประการใด กรุณาติดต่อมาที่ santi.vangroup@gmail.com หรือ mdc@egat.co.th (ในกรณีที่เป็นรถตู้ของชมรมพุทธศาสน์ กฟผ.)

ขออนุโมทนาคณะเจ้าภาพและญาติธรรมผู้แสวงหาธรรมะทุกท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 1 of 3123