mp3 for download : ทางวิปัสสนา (๓) ปัญญาเป็นเครื่องทำลายความโง่ (อวิชชา)
Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.
หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าเราอยากพ้นทุกข์จริงๆนะ เราต้องมาเรียน ถึงสิ่งที่เรียกว่า “ตัวเรา” “ตัวเรา”
ทำไมต้องมาเรียนตรงนี้ ถ้าเราไม่เรียนในสิ่งที่เรียกว่า “ตัวเรา” เนี่ย ความทุกข์อยู่ที่ไหนล่ะ ความทุกข์อยู่ที่กายใช่มั้ย ความทุกข์ที่ใจของเรา กายกับใจก็คือ รูปธรรม นามธรรม ที่ประกอบกันเป็นตัวเรานั่นเอง ความทุกข์มันตั้งอยู่ในร่างกาย ความทุกข์มันตั้งอยู่ในจิตใจนี้เอง
ถ้าสติปัญญาเราไม่พอ เวลาร่างกายไม่สบาย ร่างกายมีความทุกข์เกิดขึ้น เราก็จะรู้สึกว่าเราทุกข์ ไม่ใช่ร่างกายทุกข์นะ เป็นเราทุกข์ เวลาจิตใจมีความรู้สึกนึกคิด มีความปรุงไม่ดี มีความรู้สึกที่ไม่ดีเกิดขึ้นน่ะ ก็คิดว่าจิตใจของเราทุกข์ จิตใจเราไม่ดี กลายเป็นตัวเราไปหมด ทั้งๆที่จริงๆมันไม่ใช่ตัวเรา มันเป็นแค่สภาวธรรมอย่างหนึ่ง
การที่เรามาปฏิบัติจนกระทั่งล้างความเห็นผิดว่ามีตัวเราได้เนี่ย เป็นเรื่องใหญ่นะ ไม่มีในคำสอนของคนอื่น ยกเว้นแต่ในคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย มีคำว่าทั้งหลายด้วย พระพุทธเจ้าไม่ได้มีองค์เดียว แต่ในยุคหนึ่งๆนะมีทีละองค์ พระพุทธเจ้ามีนับจำนวนไม่ถ้วน แต่ในยุคของเรา พระพุทธเจ้าชื่อ พระโคตมะ พระโคตมพุทธะ ลูกพระเจ้าสุทโธธนะ ชื่อเดิมท่านชื่อสิทธัตถะ มีองค์เดียว
คำสอนของพระพุทธเจ้าเนี่ย ถึงขั้นการเจริญปัญญา ในขณะที่คำสอนของคนอื่นนะ มันไปหยุดอยู่แค่การทำทาน การรักษาศีล การทำสมาธิ การทำทานก็ไม่ใช่เรื่องเลว เป็นการเสียสละความเห็นแก่ตัว สละความเห็นแก่ตัวออกไป ลดความเห็นแก่ตัวลงไป การรักษาศีลก็เป็นเรื่องดี เป็นเครื่องกดข่ม ข่มใจของเราเอง ไม่ให้ทำชั่วตามกิเลส การทำสมาธิก็เป็นเรื่องดี เป็นการข่มกิเลสไม่ให้ครอบงำจิตใจ กลับข้างกันนะ
ศีลเนี่ย เราข่มใจไม่ให้ทำตามกิเลส อยากฆ่าเขา-ไม่ฆ่า อยากตี-ไม่ตี อยากขโมย-ไม่ขโมย อยากโกหก-ไม่โกหก เป็นศีล ข่มใจของตัวเอง
สมาธิน่ะ ข่มกิเลส จิตจะฟุ้งซ่าน จิตจะมีกิเลส ทำสมาธิ กิเลสก็สงบ ความฟุ้งซ่านก็สงบ ดับลงไป จิตก็สงบขึ้นมา มีราคะขึ้นมา มีความใคร่ขึ้นมา เจริญอสุภกรรมฐานอะไรอย่างนี้ จิตก็สงบเข้ามา ข่มกิเลส ข่มราคะได้ ข่มโทสะ มีโทสะขึ้นมาก็เจริญเมตตา เจริญเมตตามากๆนะโทสะก็ถูกข่ม สมาธินี้นะเป็นตัวข่มกิเลส ศีลเป็นตัวข่มใจของตัวเองไม่ให้ทำตามกิเลส
ส่วนปัญญานั้นเป็นการเรียนรู้ความจริงของสิ่งที่เรียกว่าตัวเรา จะทำลายความโง่ ใช้คำว่า “ทำลาย” แล้วนะ ศีล-สมาธิ เป็นเรื่องข่มๆเอาเท่านั้นเอง ข่มจิตบ้าง ข่มกิเลสบ้าง แต่ปัญญาเนี่ย ถึงขั้นทำลายความโง่เขลา เท่านั้นเอง
550409.7m15-10m28
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่ ห้องสุวรรณภูมิบอลรูม ชั้น ๒ อาคารบี
บจก. เตียวฮงสีลม บางพลี
วันจันทร์ที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕
ระหว่างเวลา ๑๓:๐๐ – ๑๕:๐๐ น.
File: 550409.mp3 (ไทย)
File: 550409.mp3 (สหรัฐอเมริกาและยุโรป)
เสียงพระธรรมเทศนา ระหว่างนาที่ ๗ วินาทีที่ ๑๕ ถึง นาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๒๘
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่