เห็นโลกเป็นสองมิติ(แบนราบ)
ถาม : เรื่องภาพที่เห็นน่ะครับ ว่าหากตอนนั้นๆมีสติอยู่ และไม่ส่งจิตออกนอก ภาพที่เห็นนั้นจะเป็นภาพสองมิติจริง ยังกับว่าเราไปรู้อยู่ที่จอหนังที่รับภาพ
ภาพจะแบนไปหมดครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่ใจมันพุ่งออกไปรับรู้ภาพที่ไกลตัวไป มันจึงจะเป็นภาพสามมิติครับ
ตอบ : การที่จิตรู้อะไรได้เป็นจุดเล็กๆ เฉพาะตรงที่สติกำหนดลงนั้น ก็ถูกครับ
เหมือนอย่างเราคุยกับใครสักคน เรามองหน้าเขา
ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า เราเห็นหน้าของเขาเป็นจุดๆ เท่านั้น
เราต้องกวาดตาเคลื่อนที่ไปตรงนั้นตรงนี้
และอาศัยความจำรูปได้ เป็นเครื่องสนับสนุน
เราจึงเกิดความรู้สึกว่า เราเห็นหน้าเขาทั้งหน้า
ส่วนการเห็นภาพสองมิตินั้น ขอเรียนว่า ไม่ใช่ภาพทางตานะครับ
มันเป็นคำเปรียบเทียบถึงความรู้สึกเท่านั้น
เมื่อใดจิตสักว่ารู้ สักว่าเห็น
เมื่อนั้น รูปก็ดี เสียงก็ดี กระทั่งความคิดนึกปรุงแต่ง ก็จะเป็นเพียงสิ่งถูกรู้ถูกเห็น
เมื่อปราศจากความสำคัญมั่นหมายของจิต
สิ่งที่จิตไปรู้เห็นนั้น ก็ไม่มีความโดดเด่นผิดธรรมดาขึ้นมา
ทุกอย่างจึงเท่าเทียมกันในความเป็นธรรมดา
ใจจึงสัมผัสสิ่งต่างๆ เหมือนอย่างกับตาเห็นภาพสองมิติ
พวกเราอย่าพยายามไปมองภาพสามมิติที่ตาเห็น
ให้กลายเป็นภาพสองมิตินะครับ
มันจะกลายเป็นการเสแสร้งแกล้งทำ
ขอให้เจริญสติสัมปชัญญะให้ต่อเนื่องต่อไปดีกว่าครับ
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อวัน พุธ ที่ 1 มีนาคม2543
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่