Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

เชื่อพระพุทธเจ้าก็ต้องตั้งใจภาวนา


mp3 for download : เชื่อพระพุทธเจ้าก็ต้องตั้งใจภาวนา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจากบ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : เมื่อจิตของเราถอยตัวออกมาเป็นคนดูแล้วนะ เราก็มาเจริญปัญญาต่อ ถ้าไม่เจริญปัญญาจะยังไม่ใช่เนื้อแท้ในธรรมะของพระพุทธเจ้าหรอกนะ เพราะลักษณะธรรมะของพระพุทธเจ้าคือ มักน้อย สันโดษ ไม่คลุกคลี เป็นไปเพื่อความมีศีล เพื่อความมีสมาธิ เพื่อความมีปัญญา และสุดท้ายก็คือต้องหลุดพ้นในเวลาอันสั้นด้วย

ไม่ใช่ว่าทำไปชาตินี้แล้วอีกแสนชาติถึงจะบรรลุนะ นั่นสิ้นหวังเกินไปนะ ไม่ใช่คำสอนแท้ๆของพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านสอนท่านเน้นปัจจุบันนะ ทุกวันนี้มีการไปสอนกันนะว่า ยุคนี้ไม่มีพระอรหันต์ ยุคนี้ไม่มีพระอริยะแล้ว ต้องรอพระศรีอริยเมตตรัย พระพุทธเจ้าบอกเองแหละว่า ตราบใดที่โลกยังมีผู้เจริญสติปัฏฐานอยู่ โลกจะไม่ว่างจากพระอรหันต์ เราจะเชื่อใครนะ เชื่อพระพุทธเจ้าก็ต้องตั้งใจภาวนานะ ทำมรรคผลให้เกิดขึ้นในชีวิตนี้ อย่าท้อแท้สิ้นหวังกับคำสอนเลื่อนๆลอยๆว่าไม่มีโอกาสจะบรรลุมรรคผลแล้ว ทำให้ถูกแล้วก็ทำให้มากพอนะ ก็ได้เองแหละ

เพราะฉะนั้น เมื่อใจเราตั้งมั่นแล้วนะ เราก็จะดูกายมันทำงาน ดูใจมันทำงาน เราจะเห็นเลยว่า ร่างกายไม่ใช่จิตใจ ร่างกายเหมือนเปลือก เหมือนหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง จิตเป็นคนดู กายไม่ใช่ตัวเรา ร่างกายนี้ถูกความทุกข์บีบคั้นอยู่ตลอดเวลา หายใจเข้าก็ทุกข์หายใจออกก็ทุกข์ ยืนเดินนั่งนอนมีแต่ทุกข์ทั้งนั้นเลย

มาดูจิตดูใจด้วยจิตที่ตั้งมั่นก็จะเห็นว่า ความสุขความทุกข์ กุศล-อกุศลทั้งหลาย ไม่ใช่จิตหรอก เป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป จิตเป็นคนไปรู้ไปเห็นเข้านะ และทั้งหมดนั้นเป็นของไม่เที่ยง ความสุขความทุกข์ กุศล-อกุศลทั้งหลาย เกิดแล้วก็ดับไป แล้วก็บังคับไม่ได้ สั่งให้สุขก็ไม่ได้ ห้ามทุกข์ก็ไม่ได้ สั่งให้ดีก็ไม่ได้ ห้ามชั่วก็ไม่ได้ บังคับมันไม่ได้ กระทั่งตัวจิตที่เป็นตัวรู้เองก็ไม่เที่ยง เดี๋ยวก็เป็นผู้รู้ เดี๋ยวก็เป็นผู้คิด เดี๋ยวก็รู้สึกตัว เดี๋ยวก็หลงไป ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์เหมือนกัน ไม่เที่ยงเหมือนกัน สุดท้ายก็จะเห็นแต่สิ่งที่ไม่เที่ยง ไม่มีอะไรเที่ยงสักอย่างเดียว แม้กระทั่งตัวจิตเอง ไม่มีอะไรสักอย่างเดียวที่บังคับได้ แม้กระทั่งตัวจิตเอง

แต่ถ้าเราไปทำสมถะเพ่ง เราจะรู้สึกว่า จิตนี้เป็นตัวเรา จิตเป็นอัตตา เราบังคับได้

แต่ถ้าเดินปัญญา ทำวิปัสสนา อย่างที่ว่าเนี่ย จะเห็นเลยว่า “สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นดับไป เป็นธรรมดา” สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือตัวทุกข์เท่านั้นเอง ไม่มีอย่างอื่นเลย ถ้าเห็นว่าสิ่งใดเกิดสิ่งนั้นดับจะเป็นพระโสดาบัน ถ้าเห็นว่ามีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น มีแต่ทุกข์ที่ตั้งอยู่ มีแต่ทุกข์ที่ดับไป ขันธ์ทั้งหลายเป็นตัวทุกข์ จะเป็นพระอรหันต์นะ

เพราะฉะนั้นเราก็ต้องปฏิบัติอย่างนี้ และจะได้ผลในเวลาไม่นาน

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓๐ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๙
File: 560209A
ระหว่างนาทีที่ ๓๒ วินาทีที่ ๔๘ ถึงนาทีที่ ๓๕ วินาทีที่ ๓๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

(Visited 214 times, 1 visits today)

Comments are closed.