กายกับใจนั้นคนละส่วนกัน
ถ้าเราไม่เคยเห็นอาคารในภาพนี้มาก่อน
เราก็จะคิดว่านี่เป็นภาพของอาคารหลังเดียวกัน
แต่ถ้าเราได้ไปเห็นจริงๆ ก็จะรู้ว่า
ภาพนี้เป็นภาพอาคารสองหลังที่อยู่ใกล้ๆกัน
ในทำนองเดียวกัน
ถ้าเราไม่เคยได้ยินได้ฟังธรรมะมาก่อน
ไม่เคยเรียนรู้กายใจมาก่อน
ก็จะเห็นว่ากายกับใจเป็นอันเดียวกัน
แต่พอมาหัดเรียนรู้กายใจ หัดรู้สึกตัวจนเกิดมีจิตตั้งมั่น
ก็จะเข้าใจความจริงได้ว่า กายกับใจมันคนละส่วนกัน
หัดต่อไปอีกก็จะเข้าใจเพิ่มมากขึ้นว่า
กระทบสิ่งหนึ่ง กายใจก็ปรากฏอาการอย่างหนึ่งขึ้นแล้วก็ดับไป
กระทบอีกสิ่งหนึ่ง กายใจก็ปรากฏอาการอีกอย่างหนึ่งขึ้นแล้วก็ดับไป
กายใจจะปรากฏอาการใด ก็เป็นไปตามสิ่งที่มากระทบ
อย่างเช่นกายกระทบแสงแดดจัดๆ ก็ปรากฏอาการร้อนที่กาย
จะบังคับควบคุมให้ปรากฏอาการเย็นที่กายก็ไม่ได้
พอเกิดอาการร้อนที่กาย ใจจะเป็นอย่างไรก็ได้
บางทีก็อาจยินดี บางทีก็อาจไม่ชอบ บางทีก็เฉยๆ
แต่ไม่ว่ากายใจจะปรากฏอาการอย่างใด
อาการที่ปรากฏรวมไปถึงตัวกายใจเอง
ล้วนแต่ปรากฏขึ้นแล้วย่อมเสื่อมดับไป
เมื่อมีเหตุให้เกิดก็ต้องเกิด เมื่อหมดเหตุนั้นก็ต้องดับไป
จนเมื่อความเข้าใจมากถึงที่สุด
ก็จะไปเห็นแจ้งต่อสภาวะแห่งความ “หลุดพ้น”
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่