Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

จิตที่ติดเศร้า

mp3 for download: จิตที่ติดเศร้า

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม: เมื่อสองเดือนที่ผ่านมานี้จิตมันยังเบิกบานอยู่เลย แต่ว่าช่วงนี้มันชอบไหลเข้าไปในโหมดเศร้าๆ

หลวงพ่อปราโมทย์: เราอย่าไปยอมสิ

โยม: มันไปติดล็อกอะไรอยู่ไหมคะ

หลวงพ่อปราโมทย์: อย่าไปกลัวมัน อย่าไปกังวลว่าติดไม่ติดนะ ไหลเข้าไปก็รู้ ติดอยู่ก็รู้ อยากหลุดออกมาก็รู้ ถ้าเรารู้อย่างที่มันเป็นด้วยใจที่เป็นกลางนะ มันไม่ติดอะไรหรอก ที่มันติดได้เพราะใจเรายังไม่เป็นกลาง อย่างเราไม่ชอบอันนี้ เราชอบอันนี้

โยม: ก็เห็นว่ามันบังคับไม่ได้ แต่มันก็ชอบติด

หลวงพ่อปราโมทย์: สังเกตไหม โทสะมันเกิด

โยม: ก็เห็นค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์: ตัวนั้นแหละที่ทำให้มันไม่หลุด เพราะจิตดวงนั้นไม่ได้มีสติจริง จิตดวงนั้นเป็นโทสะมูลจิต

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่โรงเรียนรุ่งอรุณ
เมื่อวันพุธที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๘

ไฟล์ 580128 โรงเรียนรุ่งอรุณ
ระหว่างชั่วโมงที่ ๑ นาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๓๘ ถึง ชั่วโมงที่ ๑ นาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๒๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ดูจิต คือ รู้ทันปฏิกริยาของจิตต่อทุกๆสถานการณ์ โดยเห็นความเปลี่ยนแปลง

mp3 (for download): ดูจิต คือ รู้ทันปฏิกริยาของจิตต่อทุกๆสถานการณ์ โดยเห็นความเปลี่ยนแปลง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ดูจิต คือ รู้ทันปฏิกริยาของจิตต่อทุกๆสถานการณ์ โดยเห็นความเปลี่ยนแปลง

ดูจิต คือ รู้ทันปฏิกริยาของจิตต่อทุกๆสถานการณ์ โดยเห็นความเปลี่ยนแปลง

โยม : ภาวนาแล้วรู้สึกว่าใจมันไม่แช่มชื่นน่ะเจ้าค่ะ ใจแห้งๆ แล้วเหมือนจงใจภาวนาเจ้าค่ะ ทีนี้พอจะไม่ภาวนามันก็หลงไป..

หลวงพ่อปราโมทย์ : ไม่ได้ ต้องภาวนาไว้ก่อนนะ ไม่แช่มชื่นก็รู้ทันเอา ทำไมภาวนาแล้วไม่แช่มชื่น อันหนึ่งเราอยากนะ บางทีเราอยาก เราอยากให้มันดี อยากรู้ตลอดเวลา อะไรอย่างนี้ ไม่แช่มชื่น มีบางทีเกิดปัญญาก็ไม่แช่มชื่นนะ จะมีอยู่ช่วงหนึ่งของการภาวนา เห็นแต่ทุกข์ ไม่แช่มชื่น มีแต่ทุกข์ล้วนๆเลย ก็อดทนเอา อย่าให้ความทุกข์นั้นครอบงำจิต

จุดสำคัญไม่ใช่ภาวนาแล้วมีความรู้สึกอย่างไร จุดสำคัญมันอยู่ที่ว่าภาวนาแล้วนะ จิตมีปฏิกริยาอย่างไรต่อความรู้สึก เพราะฉะนั้นเมื่อภาวนาแล้วจิตไม่แช่มชื่น รู้ว่าจิตไม่แช่มชื่น อยากแช่มชื่นรู้ว่าอยาก รู้ทันปฏิกริยาของจิตต่อทุกๆสถานการณ์ เนี่ยถึงจะเรียกว่าดูจิตเป็นนะ

ถ้าจิตไม่แช่มชื่น หาทางทำให้แช่มชื่น ไม่ใช่วิปัสสนาแล้ว ต้องไปทำสมถะ สมถะเนี่ยจิตไม่ดีทำให้ดี จิตไม่สุขทำให้สุข จิตไม่สงบทำให้สงบ วิปัสสนานะก็รู้ทันจิตใจของตนเองไว้ในทุกๆสถานการณ์ โดยเห็นความเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นบางครั้งภาวนามืดเลย มืดไปหมดเลย เราไม่ต้องตกใจว่าวันนี้ภาวนาแล้วไม่สว่าง มืดกับสว่างนั้นเท่าเทียมกัน พอสว่างขึ้นมาจิตก็หลงยินดี พอมืดจิตก็หลงยินร้าย ก็หลงเท่าๆกัน เพราะฉะนั้นเราอย่าให้มันครอบงำจิตได้ จิตไม่แช่มชื่น รู้ทัน ไม่งั้นความรู้สึก(ไม่แช่มชื่น-ผู้ถอด)มันครอบงำ

ต่อไปเราจะเป็นอิสระ จากทุกสิ่งทุกอย่าง มันมืดเราก็มีความสุขอยู่ท่ามกลางความมืด มันสว่างเราก็มีความสุขอยู่ท่ามกลางความสว่าง เวลาได้โลกธรรมมา ได้ลาภได้ยศได้สรรเสริญได้ความสุขมา เราก็มีความสุขมีความสงบอยู่ท่ามกลางลาภยศสรรเสริญสุข มีความเสื่อมลาภเสื่อมยศนินทาทุกข์เกิดขึ้น เราก็เป็นกลางมีความสุขท่ามกลางความเสื่อมลาภเสื่อมยศ ท่ามกลางการนินทา ท่ามกลางทุกข์นั้นเอง

อยู่กับโลก ด้วยความเป็นกลาง เราฝึกจนกระทั่งจิตเราเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าโลกนี้ต้องดี ไม่ใช่ว่าเราต้องสัมผัสแต่อารมณ์ที่ดี อารมณ์เลวๆก็สอนธรรมะเราเท่าๆกันแหละ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่ สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔

CD: ๔๐
File: 540709B
ระหว่างนาทีที่ ๓ วินาทีที่ ๐๙ ถึงนาทีที่ ๕ วินาทีที่ ๕๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

สภาวะมีสองอย่าง

Mp3 for download: two sapawa

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

สภาวะมีสองอย่าง

สภาวะมีสองอย่าง

หลวงพ่อปราโมทย์: ถ้าเราฝึกจิตใจของเราถึงช่วงนึง เราจะพบว่ามันเกิดสภาวะสองอย่างเท่านั้นเอง สภาวะที่ขณะนี้รู้ตัว หรือว่าขณะนี้เผลอไปแล้ว

พอเผลอไปก็จะไปปรุงแต่งอะไรเยอะแยะ เช่น เผลอไปเรื่องโลกๆ คิดเรื่องโลกๆ ใหญ่เลย นี่เผลอไปจริงๆ เผลอไปนั่งคิดๆ รู้เรื่องที่คิดแต่ไม่รู้ตัวเอง ก็เผลอเหมือนกัน

เผลอไปนั่งเพ่ง ไปจับอารมณ์ขึ้นมาอันนึงแล้วก็เพ่งนิ่งอยู่กับอารมณ์อันเดียว ก็ยังเผลอ ยังหลงอยู่อีก หรือน้อมใจเข้าหาความสงบ น้อมไปเรื่่อย น้อมจนซึม ซึมเคลิ้มๆ ครึ่งหลับครึ่งตื่น ส่วนใหญ่จะคิดว่าดี ไม่ดีหรอก มันขาดสติ เพราะฉะนั้นการที่น้อมใจ ปรุงแต่งใจนั้นทำได้หลายรูปแบบ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ ที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๕ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๑
File: 451117A
Track: ๑๑
ระหว่างนาทีที่ ๒ วินาทีที่ ๑๕ ถึง นาทีที่ ๓ วินาทีที่ ๐๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ภาวนาเป็นแล้วจะสงบแต่ร่าเริง

mp 3 (for download) : ภาวนาเป็นแล้วจะสงบแต่ร่าเริง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ภาวนาเป็นแล้วจะสงบแต่ร่าเริง

ภาวนาเป็นแล้วจะสงบแต่ร่าเริง

หลวงพ่อปราโมทย์: พอใจของเรารู้ตื่นขึ้นมานะ มีความสุข มีความตั้งมั่น มีความสงบ สังเกตมั้ยคนที่นั่งแถวหน้าๆ เนี่ย ดูเขาสงบ รู้สึกมั้ย

โยม: รู้สึก

หลวงพ่อปราโมทย์: แต่ดูอีกอย่างนึง ดูออกไหม เขาร่าเริงด้วย เขาสงบแต่ร่าเริงนะ ไม่ใช่สงบแบบแห้งแล้งแข็งกระด้าง ชาวพุทธเมื่อภาวนาเป็นเนี่ย จะสงบแต่ร่าเริง ไม่ใช่สงบแบบแห้งแล้งนะ หรือไม่ใช่ว่าฟุ้งซ่าน ไม่ใช่

สมัยพุทธกาล หลวงพ่อจำไม่ได้แล้ว พระสูตรอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ ต้องถามป๋อง ป๋องจำไม่ได้เหรอ มีคนไปเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วไปชมกับพระพุทธเจ้า บอกสาวกของพระองค์ สงบแต่ร่าเริง ไม่ได้มีไปชมกับพระพุทธเจ้านะ สาวกของพระองค์ซึมๆ พระเจ้าข้า น่าเลื่อมใสเพราะซึม ไม่ได้ชมอย่างนั้นนะ หรือสาวกของพระองค์เครียดดีพระเจ้าข้า แสดงว่าจริงจัง เครียดดีจังเลย ไม่ได้ชมอย่างนั้นนะ สงบแต่ร่าเริง

เพราะฉะนั้นถ้าเมื่อไรมีสติขึ้นมา เราจะสงบแล้วก็ร่าเริง ทำไมล่ะ เพราะจิตมันเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น เป็นผู้เบิกบาน มีความสุข ไอ้หนุ่มนี่ดีขึ้นเยอะเลยนะ ดีแล้วเข้าร่องเข้ารอยแล้ว ดีละ ดูไปเรื่อยๆ แล้วมันก็เจริญมั่งเสื่อมมั่งนะ ไม่ต้องดีตลอดนะ พยายามให้ดีตลอดเดี๋ยวเสียหมด ดูไปเรื่อยๆ ใช้ได้


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๙ หลังฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๑๖
Track: ๕
File: 491105B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔๒ วินาทีที่ ๓๘ ถึง นาทีที่ ๔๔ วินาทีที่ ๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ๆบ้าง จะช่วยกระตุ้นให้จิตใจคึกคักเข้มแข็ง

mp 3 (for download) : การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ๆบ้าง จะช่วยกระตุ้นให้จิตใจคึกคักเข้มแข็ง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ๆบ้าง จะช่วยกระตุ้นให้จิตใจคึกคักเข้มแข็ง

การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ๆบ้าง จะช่วยกระตุ้นให้จิตใจคึกคักเข้มแข็ง

โยม:  เวลาทำงานน่ะค่ะหรือว่าเวลาที่อยู่กับคนอื่น มีสติดูกายดูใจน้อย ไม่เหมือนกับอยู่คนเดียว หรือว่ามาอยู่ต่อหน้าหลวงพ่อ หรือว่าอยู่ในบรรยากาศที่มันสัปปายะน่ะค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์: จิตใจเรายังไม่แข็งแกร่ง เราต้องเลือกสิ่งที่สัปปายะ

บุคคลสัปปายะ ถ้าเราไปเจอพวก toxic ก่อกวนประสาท  ภาวนายาก

มีสภาพแวดล้อมสัปปายะ บางคนชอบอยู่ในเมืองนะ นั่งรถไปรถติด ๆ เนี่ยภาวนาดี อย่างนี้เรียกว่ารถติดเป็นสัปปายะของเขา มีนะพวกชาวเมืองน่ะให้ไปอยู่ป่านะฟุ้งซ่านหนักเลย พวกเราที่อยู่ในเมืองมาจนชินนะลองไปอยู่ป่าวันแรกเนี่ยมันจะฟุ้งสุดๆ เลย แล้วเราจะนึกไม่ถึงว่าป่านี้เสียงดัง กลางคืนเสียงดังมากเลย เสียงประหลาด ๆ เยอะ ใจจะฟุ้งได้ง่าย มันอยู่ที่แต่ละคนไม่เหมือนกัน

อาหารก็สัปปายะนะ อาหารบางอย่างไม่เหมาะกับเรากินแล้วไม่สบาย จิตใจซึมกะทืออย่างนี้ใช้ไม่ได้

สภาพแวดล้อมที่อยู่ ที่อยู่ก็ต้องสัปปายะ บางทีเรามาอยู่วัดไม่มีธุระอะไร อยู่บ้านมันมีธุระนะ มันมีความรับผิดชอบ มาอยู่วัดมันเหมือนไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก มาอาศัยอยู่ ไม่ต้องไปดูแลอะไรมากมาย อยู่บ้านมันยังมีรายการเต็มทุกวัน ตอนนี้ทำอันนี้ ตอนนี้ทำอันนี้นะ คอยคิดล่วงหน้าไป แต่พออยู่วัดนานๆ ก็จะเหมือนอยู่บ้าน เริ่มคุ้น

เพราะฉะนั้น พระเวลาอยู่ที่ไหนนานๆ บางทีก็ต้องเปลี่ยนบรรยากาศ ครูบาอาจารย์บางองค์ท่านก็ให้ไปธุดงค์ บางทีท่านไม่ไว้ใจให้ไปธุดงค์ ท่านพาไปเที่ยวยังมีเลย  พาไปเที่ยวสวนเสืออะไรอย่างนี้ก็มี หลวงพ่อไม่ได้พาพระไปสวนเสือ บางองค์ก็พาไปดูน้ำตก แต่คงไม่พาไปดิสโก้เธค

สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ จะกระตุ้นให้ใจคึกคักเข้มแข็ง เฉื่อยๆเนือยๆนะบางทีก็ต้องเปลี่ยนสภาพแวดล้อมบ้าง จะ Active ขึ้น เหมือนเราทำงานที่เดิมหลายๆ ปีรู้สึกไหมชักเฉื่อย อะไรๆ ก็รู้หมดแล้วไม่ค่อยยอมคิดอะไรใหม่ๆ พอเปลี่ยนงานแล้ว Active นะต้องคิดใหม่เยอะแยะเลย

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๙ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๑๖
Track: ๙
File: 491118A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๑ วินาทีที่ ๑๑ ถึง นาทีที่ ๒๓ วินาทีที่ ๔๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ภาวนาเป็นแล้วทำไมกิเลสเกิดบ่อยขึ้น?

mp 3 (for download) : ภาวนาเป็นแล้วทำไมกิเลสเกิดบ่อยขึ้น?

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ภาวนาเป็นแล้วทำไมกิเลสเกิดบ่อยขึ้น?

ภาวนาเป็นแล้วทำไมกิเลสเกิดบ่อยขึ้น?

โยม : จะขอคำแนะนำจากหลวงพ่อครับ ถึงเรื่องวิธีการฝึกจิตแล้วก็ดูสติน่ะครับ ไม่ทราบว่าทำถูกวิธีหรือเปล่า เพราะว่าปัญหาของตัวเองก็คือมีโทสะค่อนข้างมาไวแล้วไม่ค่อยทัน

หลวงพ่อปราโมทย์ : อะไรนะ โทสะอะไรนะ

โยม : โทสะน่ะครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ทำไม โทสะทำอะไร

โยม : คือมาค่อนข้างไว เหมือนกับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : แล้วไง

โยม : คือ รู้ครับ แต่มารู้ทีหลังทุกทีครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : รู้ทีหลังก็ถูกแล้ว คนที่ภาวนาเป็นน่ะนะ กิเลสจะเกิดบ่อย คนที่ภาวนาไม่เป็นไปเพ่งไว้นะ ทั้งวันเลยไม่เกิดกิเลส มันนิ่งลูกเดียว เราอย่ากลัวกิเลส แต่ว่าอย่าผิดศีล ๕ นะ เบื้องต้นต้องมีศีล ๕ ไว้ก่อน เพราะว่าต่อไปนี้เวลาเราเจริญวิปัสสนาเนี่ย เราจะไม่เก็บกด

คนซึ่งทำสมถะเนี่ยนะ ไม่ต้องถือศีลมากก็ได้นะ เพราะว่ามันเก็บกด ไม่ได้ไปทำชั่วอะไรหรอก วันๆก็ซึมกระทืออยู่อย่างนี้นะ ไม่ยุ่งกับใคร ทั้งวันอยู่อย่างนี้ ไม่ได้เรื่องหรอก แต่พอเราไม่ได้เก็บกด เราปล่อยเนี่ย ความชั่วในส่วนลึก ที่เรียกว่าอนุสัยทั้งหลายเนี่ย จะผุดขึ้นมาอย่างอิสระ ตากระทบรูปปุ๊บ ไม่ได้เก็บกดนะ โทสะพุ่งแล้ว กระทบสาวปุ๊บราคะขึ้นแล้ว จะขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นตรงนี้แสดงว่าเราไม่ได้กดไว้แล้ว เป็นการที่กิเลสเกิดบ่อย

พอมีกิเลสเกิดบ่อยเราก็มีสติรู้ทัน เราจะเห็น ต่อไปมันก็เกิดปัญญา เห็นมั้ยกิเลสจะเกิดก็ห้ามมันไม่ได้นะ เกิดมาแล้วเรารู้ทันมันไป กิเลสก็เกิดแล้วก็ดับ อย่าไปฝึกดับกิเลสนะ แต่ฝึกเห็นกิเลสเกิดแล้วดับ ไม่ใช่ฝึกดับกิเลส คนละเรื่องกันเลย

โยม : คือดูไปเรื่อยๆแล้วมันจะค่อยลดเองใช่มั้ยครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : อยากลดเหรอ

โยม : อ๋อ.. คือที่รู้สึกก็คือรู้ว่าน้อยกว่าเมื่อก่อนครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : คือกิเลสจะเกิดบ่อยกว่าแต่ก่อน แต่กิเลสจะเบา ทำไมมันเบา เพราะเรารู้เร็ว กิเลสเหมือนไฟไหม้บ้านนะ ถ้าปล่อยให้ไหม้หลายนาทีเนี่ย จะไหม้เยอะ ถ้าคนมันมาวางเพลิง มาขีดไฟแช็คปุ๊บ เราเห็นแล้วถีบมันเปรี๊ยง ไฟไม่ติดละ ดังนั้นกิเลสเนี่ย พอเรามีสติรู้เร็ว กิเลสมันก็อ่อน กิเลสจะเกิดบ่อยนะ ไหววับรู้สึก วับรู้สึก วับรู้สึก ไม่ต้องทำอะไรมัน


CD: บ้านอารีย์ วันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๑
File: 510914.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔๓ วินาทีที่ ๑๖ ถึง นาทีที่ ๔๕ วินาทีที่ ๓๒
 

 

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

วิธีฝึกซ้อมก่อนเจ็บป่วย ก่อนตาย

วิธีฝึกซ้อมก่อนเจ็บป่วย ก่อนตาย

วิธีฝึกซ้อมก่อนเจ็บป่วย ก่อนตาย

mp3 for download : วิธีฝึกซ้อมก่อนเจ็บป่วย ก่อนตาย

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : เวลาที่เราเจ็บป่วยมากๆนะ บางทีเจ็บป่วยมากๆนะ ร่างกายมันซึมเซาไป หรือเราถูกหมอโด๊ปยามากนะ มันซึมๆไปอะไรอย่างนี้ เราจะภาวนาอย่างไร มันไม่รู้ มันไม่ตื่น มันไม่เบิกบานเต็มที่ เราไม่ได้ไปภาวนาให้มันสว่างขึ้นมา มันซึมรู้ว่าซึมนะ รู้ด้วยความเป็นกลาง จิตที่เป็นกลางน่ะไม่ซึมหรอก จิตที่เป็นกลางไม่มืดไม่มัวนะ

ถ้าเวลาเราจะตายแล้ว ร่างกายมันซึมเซาไปนะ เราก็ดูมันตายไป ใจเราไม่ได้เดือดร้อนกับมัน ค่อยๆฝึก วิธีฝึกซ้อมตอนตายก็คือซ้อมหลังกินข้าวนี่แหละนะ เวลากินข้าวแล้วมันซึม ใช่มั้ย ในความซึมเนี่ยเราจะภาวนายังไง ไม่ใช่เราจะภาวนาได้เฉพาะตอนที่ดีนะ ตอนที่ร่างกายเราแย่ลงเราก็ต้องซ้อมนะ ลองซ้อมดู

CD สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๒
Track ๑๗
File: 521127B.mp3

ระหว่างนาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๑๐ ถึงนาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๐๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่