Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

งานหนีอบาย เป็นงานเร่งด่วนเฉพาะหน้า

mp 3 (for download) : งานหนีอบาย เป็นงานเร่งด่วนเฉพาะหน้า

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์: อบายเนี่ยจ่อหลังเราอยู่นะ น่ากลัว บางทีก็ไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน หลวงพ่อเคยมีหมาตัวนึง หมาตัวนี้ถือศีลนะ หมาถือศีล สัตว์เล็กสัตว์น้อยเข้ามาในบ้าน มันไม่ทำร้ายเลย ลูกแมวมานะ ยังไม่ทำร้ายเลย กินข้าวอยู่ มีลูกแมวหลงมา มันให้กินก่อนนะ ดู มันรู้จักทำทานด้วย ของเรากินอยู่ คนมามองๆ เรารำคาญนะ มันไม่ขโมย หมาตัวนี้นะ หิวน้ำลายหยดติ๊งๆๆ เรายังไม่ได้ยกไปให้ อย่างกับพระแน่ะ ยังไม่ประเคน กินไม่ได้ ไม่เอา ไม่ขโมย ส่วนประพฤติผิดในกาม เราไม่รู้นะ ไม่ได้ตามดูตลอดเวลา มุสาวาทไม่มี ไม่เห่าสะเปะสะปะ ไม่มีเลย หมาบางตัวเจออะไรก็เห่าเล่น เพลิดเพลิน อย่างนั้นเรียกว่าเพ้อเจ้อ เคยเจอหมาเพ้อเจ้อไหม? หมาเพ้อเจ้อที่เราเจอเนี่ย มักจะเจอตอนกลางคืน ตอนเราจะนอนนะ หมาข้างบ้านเนี่ย ชอบเพ้อเจ้อ เห่าไปเรื่อยๆ ตัวนี้ไม่เป็น แล้วตัวนี้ไม่เคยกินเหล้าเลย ไม่เห็นว่าไปซื้อเหล้าที่ไหนมากิน อย่างน้อยศีล ๕ เนี่ย ตัวนี้มี ๔ แน่นอน ส่วนกาเมฯ เนี่ย ไม่รู้หรอกว่าสามีของมันน่ะ เป็นสามีหมาตัวอื่นหรือเปล่า เราก็ไม่รู้ด้วย

เวลามันจะตายนะ มันรู้ตัว รู้เนื้อรู้ตัว นอนเห็นร่างกายจะตาย หายใจไป ตาเนี่ย ใสแจ๋วเลย ดูตาก็รู้ ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ ตาใส รู้เนื้อรู้ตัวนะ โอ้โห มันตายสวย เราก็นึกนะ นี่มันนักภาวนานี่หว่า นักปฏิบัติแท้ๆ เลย แต่พลาดมาเป็นหมา ถ้าตายไปด้วยสภาวะอย่างนี้ ก็ต้องไปดีแล้ว พ้นแล้ว นี่อุตส่าห์ทำดีนะ พลาดไป เป็นเปรต เป็นอสูรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรกก็เป็นได้

งั้นงานเร่งด่วนของพวกเรานะ กิเลสมันจ่อหลังเราอยู่ตลอดเวลา มันพร้อมจะเข้ามาขยี้เรา แล้วลากเราลงอบายไป งานหนีอบายเนี่ย เป็นงานใหญ่ งานเฉพาะหน้า

ส่วนการทำมาหากิน ดำรงชีวิตอะไรอยู่ เป็นหน้าที่ต้องทำ เลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ เลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย เป็นงานที่ต้องทำ เป็นงานชั่วคราว ทำไมเป็นงานชั่วคราว? พ่อแม่อยู่กับเราชั่วคราว ลูกเมียอยู่กับเราก็ชั่วคราว แต่บุญบาปมันอยู่กับเราจริงๆ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๔ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๗ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๗
File: 571114A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๘ วินาทีที่ ๗ ถึงนาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๒๒

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ถ้ามีสติคุ้มครองจิต เราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของมาร

mp 3 (for download) : ถ้ามีสติคุ้มครองจิต เราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของมาร

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : เวลามารแกล้ง อย่าตกใจ มารแกล้งเนี่ย เป็นการใช้จิตแกล้งเข้ามาที่จิต แต่บางทีมันทำให้รู้สึกทางกาย เหมือนอย่างบางที รู้สึกเหมือนถูกทิ่มตรงโน้นทิ่มตรงนี้นะ อย่าตกใจ ถ้าตกใจหรือโกรธเนี่ย ยิ่งเสียท่าเลย

รักษาจิตของเราไว้อันเดียว เพราะมารโจมตีที่จิตต่างหาก มารมีทั้งมารภายใน มารภายนอกนะ มารภายในก็คือกิเลสนั่นแหละ มาโจมตีจิตเรา มารภายนอกก็ส่งพลังเข้ามาโจมตีจิตเรา ทำให้เรารู้สึกอย่างโน้นรู้สึกอย่างนี้นะ ทำให้กิเลสรู้สึกรุนแรงบ้างอะไรบ้าง ทำให้เจ็บตรงโน้นตรงนี้บ้าง ให้มีสติคุ้มครองรักษาจิตไว้ อย่างตกใจ ตกใจรู้ว่าตกใจ กลัวรู้ว่ากลัวเข้าไปเลยนะ ไม่ชอบรู้ว่าไม่ชอบ รู้เข้าไปตรง ๆ อย่างนี้เลย

ถ้าเรามีสติคุ้มครองจิตนะ เราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของมาร พอเราเห็นสภาวะ เช่น ใจมันตกใจ เรารู้นะ ความตกใจขาดเลย จิตเป็นกลาง รู้จิตอย่างสบาย ๆ สมาธิเกิด สมาธิเกิดปุ๊บ พลังของจิตจะเกิดแล้ว มันจะตัดวงจรที่เชื่อมต่อกับมารภายนอก วงจรของพลังภายนอกเนี่ยขาดไปเลย ไม่ต้องนั่งแก้ทีละจุด รักษาที่จิตอันเดียวนี้เอง พอจิตเกิดสมาธิขึ้น สิ่งที่แปลกปลอมเข้ามา ไม่ว่าจะอยู่ตั้งแต่หัวถึงเท้านะ ก็จะหายไปทันทีเลย มันหายไปเลย ยิ่งกลัวยิ่งตกใจยิ่งอะไรนะ ยิ่งโมโหนะ เสร็จ เพราะกิเลสมันครอบจิตเรา

กิเลสมันก็มารนั้นแหละ มันก็มารข้างใน ยิ่งดึงดูดมารข้างนอกเข้ามาอีก (ถ้า)มีแต่มารข้างนอก ข้างในไม่มีมาร มาร(ข้างนอกก็)เชื่อมต่อ(เข้ามา)ไม่ได้ เคล็ดลับมันอยู่ตรงนี้แหละ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๓ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๘ หลังฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๘
File: 580123B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๓๕ วินาทีที่ ๓๙ ถึงนาทีที่ ๓๗ วินาทีที่ ๔๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ทุกอย่างมีเหตุกับผล และเหตุกับผลต้องตรงกัน

mp 3 (for download) : ทุกอย่างมีเหตุกับผล และเหตุกับผลต้องตรงกัน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์: ทุกอย่างมีเหตุกับผลนะ อย่าเชื่ออะไรงมงาย อย่างอยู่ๆ เราจะไปไหว้พระ ขอให้เจ้าแม่กวนอิมหรือ เจ้าพ่ออะไร? เห้งเจีย อะไรช่วยเราเนี่ย เจ้าพ่อเจ้าแม่ก็ช่วยไม่ได้ อยู่ที่กรรมของเราเอง อย่างเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ความเมตตานั้นมหาศาล แต่ท่านทำอะไรบ้าง ท่านเงี่ยหูฟังเสียงสรรพสัตว์มันร้องไห้ บอกไหมว่าท่านซับน้ำตาให้สัตว์ให้พ้นทุกข์ได้ทุกตัว มันทำไม่ได้ เนี่ย มันทำไม่ได้ สัตว์ที่ทำกรรมชั่ว เวลากรรมชั่วให้ผลมามันก็ได้รับความทุกข์ ท่านก็เห็นใจ เห็นใจอยากช่วย ช่วยยังไง? ก็ต้องแนะนำให้มันทำดี ทุกอย่างเป็นเรื่องเหตุกับผลทั้งหมดเลยนะ

หลวงพ่อเคยอ่านเรื่องของเจ้าแม่กวนอิม บอกว่าก่อนที่ท่านจะบรรลุ บรรลุของมหายานกับของเราไม่เหมือนกันนะ เขาบรรลุเป็นพระโพธิสัตว์ได้ ท่านสร้างความดีมากมาย จนพระพุทธเจ้าเห็นใจประทานเเจกันหยกให้อันหนึ่ง แล้วก็บอกว่าเอาแจกันเนี้ยไปตั้งบูชาไว้นะ แล้วดู วันไหนมีน้ำเต็มแจกันขึ้นมานะ วันนั้นน่ะจะบรรลุแล้ว จะเข้าถึงธรรมะ เจ้าแม่กวนอิมก็ไปช่วยคนเยอะเลยนะ พยายามช่วย ช่วยๆ กลับมาที่ตำหนักแจกันก็เหมือนเดิม ต้องคอยเช็ดฝุ่นด้วยซ้ำไป ไม่มีน้ำ เนี่ย ทำความดีอยู่นานเลยนะ ใจ เมื่อไหร่จะมีน้ำ เมื่อไหร่จะมีน้ำ มันไม่มี จนกระทั่งลูกศิษย์ของท่านน่ะ ลูกศิษย์ของเจ้าแม่กวนอิมเองสงสาร โถ เจ้าแม่อยากให้มันมีน้ำ เจ้าแม่ไม่อยู่มันเอาน้ำเติมแจกันเต็มเลย มันใส่เข้าไปเต็มเลย นี้เจ้าแม่กลับมานะ โอ้ย น้ำเต็มแล้ว วันนี้จะบรรลุแล้ว ดีใจใหญ่เจ้าแม่จะบรรลุแล้ว ตัวท่านน่ะดีใจ ลูกศิษย์เนี่ยรู้สึกสำนึกผิดเลย ไอ้นี่หลอกอาจารย์ ถึงจะหวังดีนะ แต่ทำให้อาจารย์เข้าใจผิดไปแล้วล่ะ ทีแรกคิดแต่ว่าท่านอยากให้น้ำมันเต็ม ก็เติมให้เต็ม ที่แท้ท่านอยากให้เต็มเพราะว่าท่านจะได้บรรลุธรรม ลูกศิษย์ก็เลยเข้าไปกราบขอขมาท่าน สารภาพว่า ได้เติมน้ำไว้เอง จำไม่ได้ผู้หญิงผู้ชายนะ เนี่ยเอาน้ำไปเติมเอง พอท่านได้ยินนะ ท่านก็บรรลุแล้ว

น้ำ มันก็ต้องมีเหตุสิ มันถึงจะเกิด เมื่อเติมไว้ มันก็มีเหตุใช่ไหมน้ำมันถึงจะเต็ม ไม่มีเหตุมันไม่เต็มหรอก แล้วเหตุกับผลต้องตรงกัน อยากให้มีน้ำก็ต้องเติมน้ำ ไม่ใช่อยากมีน้ำไปช่วยคน เหตุกับผลไม่ตรงกัน งั้นสร้างเหตุกับผลต้องตรงกัน อยากได้ อยากจะกินมะม่วงก็ต้องไปปลูกมะม่วง อยากจะกินข้าวก็ไปปลูกข้าว นี่เรื่องของเหตุกับผลทั้งสิ้นเลย

งั้นชาวพุทธเราต้องดำรงชีวิตด้วยความมีเหตุผล อย่างมงาย ความงมงายนั้นมีทุกระดับ กระทั่งในการปฏิบัติ อย่างเราคิดว่าปฏิบัติอย่างเนี้ย จะพ้นทุกข์ ใครๆ ก็คิดน่ะ ศาสนาอื่นก็คิด เขาก็อยากจะมีความสุขอมตะ อยากมีความสุขที่อมตะ อย่างเช่นนั่งสมาธิเข้าฌานจนจิตเป็นพรหมขึ้นมา พอจิตเป็นพรหมแล้วบอกจิตกลายเป็นพรหมแล้ว จิตรวมเข้ากับพรหมแล้ว เนี่ยจุดสูงสุด ไม่รู้เหตุ ว่าการที่ไปฝึกสมาธิจนเป็นพรหมน่ะ ยังเป็นเหตุเป็นผลในฝ่ายวัฏฏะอยู่ มันทำความดีไปเกิดในที่ดี เมื่อเกิดได้ก็ยังดับได้อีก มันไม่ได้พ้นจากการเกิดจริง

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อวันเสาร์ที่ ๖ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๗
File: 571206A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๑๕ ถึงนาทีที่ ๘ วินาทีที่ ๕๒

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

นักภาวนาต้องสู้ไม่เลิก

mp 3 (for download) : นักภาวนาต้องสู้ไม่เลิก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์: ถ้าเราจะแพ้นะ ต้องสู้ก่อน สู้ให้เต็มที่ก่อน แพ้แล้วกลับมาสู้ใหม่ ไม่ทิ้งไม่หนีนะ หลบไปก่อน ไปรวบรวมกำลังแล้วสู้อีก การภาวนาก็ต้องแบบนั้นนะ ใครมันจะวิเศษวิโสอะไรไปสู้กับมารได้ บางทีก็แพ้กิเลส บางทีก็แพ้มาร บางทีก็ถูกกิเลสถูกความคิดตัวเองหลอกเอา แพ้ล้มลุกคลุกคลาน ล้มแล้วก็ต้องลุก ถ้าคลุกฝุ่นอยู่ก็ต้องคลานไป ไม่อยู่กับที่ ชีวิตมันถึงจะชนะขึ้นมาได้

หลวงพ่อไม่เก่งนะ ไม่ใช่คนเก่ง แต่หลวงพ่อเป็นคนอึด ทนมากเลยในการฝึกตัวเองไม่เลิก น้ำหนักมากนะ จะบวชเนี่ยต้องคุกเข่านาน ปกติคุกเข่าได้ไม่กี่วินาทีแข้งขาแทบหักเลย แต่เราจะต้องบวช หลวงพ่อซ้อมนั่งคุกเข่า ซ้อมอยู่ปีกว่า ซ้อมทุกวันนะ วันนึงเพิ่มได้ ๕ วินาทีก็ดีใจแล้ว ค่อยทำทุกวันนะ อดทนมากเลยในการฝึกตัวเอง ถึงตอนบวชจริงๆนะพระเนี่ยใจสั่นไปทั้งโบสถ์เลย กลัวเราหัวทิ่มลงมา

ต้องสู้ ถ้าไม่สู้ก็แพ้ตลอดไป ก็แค่นั้นเอง ถ้าสู้ก็มีโอกาสชนะ ลูกพระพุทธเจ้านักสู้นะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๗ หลังฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๕
File: 570711B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๑๕ ถึงนาทีที่ ๒๗ วินาทีที่ ๔๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การภาวนาเพื่อข้ามภพข้ามชาติ ต้องสู้ต้องอดทน

mp 3 (for download) : การภาวนาเพื่อข้ามภพข้ามชาติ ต้องสู้ต้องอดทน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม : กราบนมัสการหลวงพ่อครับ ที่ผ่านมานี่ ผมเห็นจิตล่ะก็ปวดแล้วก็เจ็บครับ เห็นจิตมันหนักๆครับ แล้วเหมือนมันปวดๆเจ็บๆ

หลวงพ่อ: ปวดในร่างกายหรือในจิต

โยม : ในจิตครับ แต่ช่วงนี้ก็เบาไป

หลวงพ่อ : เจริญเมตตาไว้ เวลาที่เราจะข้ามภพข้ามชาตินะ มารไม่ปล่อยหรอก ขนาดพระโพธิสัตว์จะตรัสรู้นะ มารยังต้องมาขวางเลย ส่วนของเรา ผลกรรมเก่าๆบางทีก็มารวนเรา แกล้งเรา บางทีพวกที่อาฆาตพยาบาทเราก็มี พวกมารก็มี ก็แกล้ง ทำลายให้ใจเราหวั่นไหว เราก็สละชีวิตเลย ไม่ถอย คิดถึงพระพุทธเจ้าไว้ ถ้าจะเจ็บถ้าจะตายนะ ขอถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา คิดอย่างนี้เลยนะ พระพุทธเจ้าก็สู้มา เราลูกหลานพระพุทธเจ้า บาปกรรมก็คงทำมาเยอะกว่าท่านเสียอีก ที่จะสบายนักหนาน่ะ ก็ฝันไปหน่อยนะ ต้องทุกข์บ้างแหละ ก็สู้เอา

โยม : ครับ ขอบคุณครับ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน) ครั้งที่ ๗o
เมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๑ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๗
File: 570921.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔๙ วินาทีที่ ๒๐ ถึง นาทีที่ ๕๐ วินาทีที่ ๓๔

 


เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

วิธีการรับมือกับเทวปุตตมาร

mp 3 (for download) : วิธีการรับมือกับเทวปุตตมาร

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม : กราบนมัสการหลวงพ่อครับ ผมปฎิบัติมาตั้งนานแล้ว แต่รู้สึกว่าการภาวนามันไม่ก้าวหน้าเลยครับ กำลังของสติมันอ่อนกว่ากำลังของกิเลสเยอะเลยครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เออนะ ให้เรารู้ทัน รู้ทันกิเลสตัวที่เกิดบ่อยๆคือตัวโทสะ โทสะนี้เกิดบ่อย เกิดบ่อยมั้ย

โยม : เยอะมากเลยครับผม

หลวงพ่อปราโมทย์ : เออนะ ให้รู้ตัวนี้แหละ

โยม : รู้สึกว่ามัน.. จะทำอะไรมันก็แทรกเข้ามาตลอดเลยครับหลวงพ่อ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ใช่ๆ ให้เห็นไปเลยว่า จิตเดี๋ยวก็มีโทสะ นะ เดี๋ยวก็ดับไป เดี๋ยวก็มีอีก เดี๋ยวก็ดับไป เกิดดับ เกิดดับ ทั้งวัน อย่าไปตกอกตกใจกับมัน มันกำลังสอนธรรมะเรา แล้วก็เจริญเมตตาไป สวดมนต์ไปอะไรไป เวลาที่เราภาวนาดีนะ มารมันจะแกล้งนะ บางทีมันจะกระตุ้นกิเลสเราให้แรงกว่าความเป็นจริง

โยม : ครับ หลวงพ่อ

หลวงพ่อปราโมทย์ : รู้สึกมั้ยมันถูกแกล้ง ถูกกระตุ้น

โยม : รู้สึกครับผม

หลวงพ่อปราโมทย์ : มารเนี่ยมีหลายจำพวก หลายพวกนะ มี ๕ จำพวก มารภายในก็ส่วนหนึ่งนะ มารภายนอกก็ส่วนหนึ่ง มารภายในก็คือ กิเลสมาร ขันธมาร อภิสังขารมาร พวกนี้ มัจจุมาร ทำลายตัวเอง ทำให้ตาย ส่วนมารข้างนอกเรียกว่าเทวปุตมาร พวกที่มีฤทธิ์มีเดชที่ขี้อิจฉาอะไรอย่างนี้ แกล้ง เพราะฉะนั้นเราก็ต้องรู้วิธีป้องกันตัวให้เป็น เจริญเมตตาไว้ เจริญเมตตาคิดถึงพระพุทธเจ้า สิ่งที่ชนะมารได้ก็มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นแหละ

โยม : ครับหลวงพ่อ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน) ครั้งที่ ๗o
เมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๑ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๗
File: 570921.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔๗ วินาทีที่ ๑๔ ถึง นาทีที่ ๔๘ วินาทีที่ ๔๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การภาวนาต้องถึงจิตถึงใจ

mp 3 (for download) : การภาวนาต้องถึงจิตถึงใจ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์: ภาวนาต้องถึงจิตถึงใจนะ ภาวนาไม่ถึงจิตถึงใจสู้กิเลสไม่ได้ กิเลสมันอยู่ที่ใจ เพราะฉะนั้นต้องสอดส่องมัน กุศลอะไรยังไม่ทำ หัดทำซะ อกุศลอะไรยังไม่ละ ก็หัดละซะ ละด้วยวิธีไหน ละด้วยการรู้ทันมัน อย่าไปตามใจมัน มันขี้เกียจ มันอยากนอน ดูแล้วนี่ไม่ใช่ร่างกายอ่อนแอ ไม่ใช่ร่างกายอ่อนเพลีย ใจมันขี้เกียจ ไม่นอน ภาวนาต่อ

เดินจงกรมขาบวมฉึ่งเลย เดินไม่ได้แล้ว เดินไม่ได้ทำไงดีล่ะ ครูบาอาจารย์สอนมานะ หลวงพ่อพุธนะเคยสอน เดินไม่ได้ก็คลานสิ พวกเราเอาไหม เดินไม่ได้ก็นอนสิ (หัวเราะ) ครูบาอาจารย์สอน เดินไม่ได้คลาน เอ้า คลานจนมือแตกเข่าแตก ทำไง กลิ้งสิ ยังไม่ได้บอกให้นอนเลยนะ จนกระทั่งสุดท้ายนอนแขม่วๆ ก็ขยับไปสิ เนี่ยสอนขนาดนี้เลยนะ คือไม่ให้เราทิ้งการปฏิบัติเลย ต้องหัดดูเอา ไม่นานก็เป็น


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อ วันเสาร์ ที่ ๑๑ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๗
File: 571011B
ระหว่างนาทีที่ ๒๐ วินาทีที่ ๑๑ ถึง นาทีที่ ๒๑ วินาทีที่ ๒๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

จิตที่ติดเศร้า

mp3 for download: จิตที่ติดเศร้า

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม: เมื่อสองเดือนที่ผ่านมานี้จิตมันยังเบิกบานอยู่เลย แต่ว่าช่วงนี้มันชอบไหลเข้าไปในโหมดเศร้าๆ

หลวงพ่อปราโมทย์: เราอย่าไปยอมสิ

โยม: มันไปติดล็อกอะไรอยู่ไหมคะ

หลวงพ่อปราโมทย์: อย่าไปกลัวมัน อย่าไปกังวลว่าติดไม่ติดนะ ไหลเข้าไปก็รู้ ติดอยู่ก็รู้ อยากหลุดออกมาก็รู้ ถ้าเรารู้อย่างที่มันเป็นด้วยใจที่เป็นกลางนะ มันไม่ติดอะไรหรอก ที่มันติดได้เพราะใจเรายังไม่เป็นกลาง อย่างเราไม่ชอบอันนี้ เราชอบอันนี้

โยม: ก็เห็นว่ามันบังคับไม่ได้ แต่มันก็ชอบติด

หลวงพ่อปราโมทย์: สังเกตไหม โทสะมันเกิด

โยม: ก็เห็นค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์: ตัวนั้นแหละที่ทำให้มันไม่หลุด เพราะจิตดวงนั้นไม่ได้มีสติจริง จิตดวงนั้นเป็นโทสะมูลจิต

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่โรงเรียนรุ่งอรุณ
เมื่อวันพุธที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๘

ไฟล์ 580128 โรงเรียนรุ่งอรุณ
ระหว่างชั่วโมงที่ ๑ นาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๓๘ ถึง ชั่วโมงที่ ๑ นาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๒๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เสียงสวดมนต์และพรปีใหม่จากหลวงพ่อ วัดสวนสันติธรรม ๒๕๕๘

mp3 for download: เสียงสวดมนต์และพรปีใหม่จากหลวงพ่อ วัดสวนสันติธรรม ๒๕๕๘

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การปฏิบัติในรูปแบบ เจริญสมถะและวิปัสสนา

mp 3 (for download) : การปฏิบัติในรูปแบบ เจริญสมถะและวิปัสสนา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : เราไหว้พระสวดมนต์นะ พอสมควร ระลึกถึงครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ระลึกแล้วจิตใจสงบจิตใจมีความสุข ก็ภาวนาต่อ ถ้าวันไหนมันยังไม่สงบ ก็ทำสมถะกรรมฐาน พุทโธไปเรื่อยๆ สงบก็พุทโธ ไม่สงบก็พุทโธ ช่างมัน อย่าไปหวังว่าจะสงบ พุทโธๆไป จิตใจฟุ้งซ่านก็รู้ไป รู้เฉยๆ อย่าไปยุ่ง อย่าไปแทรกแซง รู้ด้วยความสบายใจ อยู่กับความวุ่นวาย ด้วยความสบายใจไป พออยู่อย่างนั้นได้นะ ใจจะสงบอย่างรวดเร็วเลย หรือรู้ลมหายใจถ้าไม่ชอบพุทโธก็รู้ลมหายใจ หรือดูท้องพองยุบ ขยับมือทำจังหวะอะไรก็ได้ แล้วก็รู้ทันใจที่สบายๆ รู้ไปอย่างสบายๆ ถ้าใจมันหนีไปใจมันหลงไป ไม่ห้าม ไม่ไปดึงคืน ให้แค่รู้ทัน ตอนที่หลงไปนี่เรียกว่า หย่อนไป ตอนที่พยายามไปดึงคืน พยายามบังคับไม่ให้ไป เนี่ย ตึงเกินไป ทางสายกลางอยู่ที่รู้ว่ามันหลงไป

ทำในรูปแบบ ทำกรรมฐานในรูปแบบสักอย่างหนึ่ง เช่น พุทโธ หายใจ พองยุบ ทำจังหวะมือ อะไรก็ได้นะถ้าจิตเคลื่อนไปแล้วรู้ จิตเคลื่อนแล้วรู้ แป๊บเดียวจิตก็จะตั้งมั่นได้สมาธิขึ้นมา ถ้าได้สมาธิแล้ววันไหนเหน็ดเหนื่อยมาก ก็พักผ่อนอยู่กับความสุขความสงบของสมาธิ มีสติไม่ขาดสติ ไม่เคลิ้ม รู้เนื้อรู้ตัว บางทีร่างกายหายไป ความรู้สึกตัวก็ยังอยู่ ไม่เคลิ้มลืมเนื้อลืมตัวไป ได้พักผ่อน ได้พักผ่อน

แต่วันไหนถ้าเราไหว้พระสวดมนต์แล้วจิตใจสงบมีเรี่ยวมีแรงแล้วนะ ก็อย่ามัวพักผ่อน เสียเวลา เจริญปัญญาไปเลย ถ้าเราพุทโธๆอยู่ เราเจริญปัญญาด้วยการ เห็นจิตที่มันปรุงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันไหลไป มันฟุ้งซ่าน พอรู้ทันมันก็ตั้งมั่นมันสงบ เดี๋ยวก็ฟุ้ง เดี๋ยวก็สงบ เดี๋ยวฟุ้ง เดี๋ยวสงบ แสดงความไม่เที่ยงให้เกิดขึ้นให้เห็นประจักษ์ขึ้นมานะ พุทโธไป เดี๋ยวมีความสุข บางทีพุทโธไปจิตใจไม่มีความสุขก็เห็นอีกนะ จิตเดี๋ยวก็สุข เดี๋ยวก็ไม่สุข เดี๋ยวเฉยๆ หมุนเวียนไปเรื่อย มีแต่ของไม่เที่ยง อย่างนี้เรียกว่าเจริญปัญญา

หรือเราดูลมหายใจเข้า ดูลมหายใจออก เราไม่ได้สบายอยู่กับลมหายใจสบายอยู่กับลมหายใจเป็นสมถะ เราหายใจไปเราเห็น ร่างกายหายใจ ใจเป็นคนดู ร่างกายกับใจนี้คนละอันกัน ร่างกายไม่ใช่เราหรอกเป็นสิ่งที่ใจไปรู้เข้า อย่างนี้เรียกว่าเดินปัญญา เห็นร่างกายมันหายใจมันไม่ใช่ตัวเรา เดินปัญญาอยู่ หรือขยับมืออะไรก็ได้มันก็จะเห็นร่างกายมันทำงาน ใจมันอยู่ต่างหาก ใจเป็นคนดู แยกกายแยกใจ ค่อยๆ ทำไป เนี่ยก็เดินปัญญา เดินปัญญาด้วยการดูกาย เห็นร่างกายมันทำงาน ไม่ใช่ตัวเรา เดินปัญญาด้วยการดูจิต มันจะเห็นเลยจิตใจนะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ใช่ตัวเรา ดูไปเรื่อย

ในการทำในรูปแบบนะ ไหว้พระสวดมนต์ แล้ววันไหนฟุ้งซ่านทำความสงบให้จิตสบายในอารมณ์อันเดียว วันไหนมีกำลังพอแล้วเดินปัญญา ดูความเป็นไตรลักษณ์ของกายของใจไปเลย อย่าไปสงบอยู่เฉยๆ ไม่มีมรรคผลนิพพานจะเกิดขึ้นหรอก

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอังคารที่ ๒๓ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๑
File: 560723A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๕๔ ถึง นาทีที่ ๒๘ วินาทีที่ ๓๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

นิพพาน อยู่ต่อหน้าต่อตา

mp 3 (for download) : นิพพาน อยู่ต่อหน้าต่อตา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : เราอย่าไปคิดว่านิพพานเป็นอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งชาตินี้ไม่มีโอกาสเจอ ถ้าเราคิดว่านิพพานเป็นอะไรอย่างหนึ่งที่อยู่ไกลแสนไกลนะ เป็นบรมสุขที่อยู่ไกลแสนไกล เรายังไม่มีทางเจอ ถ้าคิดอยู่อย่างนี้ละก็ ไม่มีวันเจอหรอก เพราะนิพพานไม่เคยอยู่ที่อื่นเลยนะ นิพพานอยู่ต่อหน้าต่อตาเราเนี่ย แต่ใจของเราเองมันฟุ้งซ่าน ใจของเราเองมันวุ่นวาย ใจของเราเต็มไปด้วยความอยาก เต็มไปด้วยความดิ้นรน เราก็เลยไม่มีความสุขซะที เราไม่ได้สัมผัสความสุข ซึ่งอยู่ต่อหน้าต่อตาเรา

น่าเสียดายโอกาส พวกเราชาวพุทธเนี่ยต้องหัดภาวนา จนวันหนึ่งเราแจ้งพระนิพพาน นิพพานอยู่ต่อหน้าเรานี่เอง ไม่ได้หาที่อื่นเลย นิพพานไม่ได้อยู่กับพระ นิพพานไม่ได้อยู่ที่วัด แต่อยู่ที่ใจของเราซึ่งมันพ้นจากกิเลส พ้นจากความดิ้นรนปรุงแต่ง พ้นจากความอยากทั้งหลาย งั้นเราค่อยมาฝึกจิตฝึกใจของเรานะ เพื่อว่าเราจะได้มีความสุขที่แท้จริง

พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า “นิพพานัง ปรมัง สุขัง” นิพพานเป็นบรมสุข ของอื่นไม่มีความสุขเท่านี้นะ ความสุขอื่น ๆ เนี่ย เป็นความสุขชั่วครั้งชั่วคราวทั้งหมดเลย

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ อยุธยาพาร์ค เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๕๖

File: 560425.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๕ ถึง นาทีที่ ๕ วินาทีที่ ๑๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

มรรคผลนิพพานไม่ยาก ถ้าเราเจริญสติวันต่อวัน

mp 3 (for download) : มรรคผลนิพพานไม่ยาก ถ้าเราเจริญสติวันต่อวัน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : ยากนะ ถ้าเราคิดว่า อย่างสมมุติว่าเด็ก ป.๔ นะ คิดว่าจะต้องเอ็นทรานซ์ให้ได้นี่ยากนะ… แต่ถ้าเราไม่คิดมากนะ เราก็เรียนของเราไปเรื่อย ถึงวันหนึ่งก็เอ็นทรานซ์ได้ ไม่ยาก… การปฏิบัติเหมือนกันนะ ถ้าคิดว่าทำยังไงจะข้ามภพข้ามชาติ ยาก.. แต่ถ้าเจริญสติไปวันต่อวัน ไม่ต้องคิดถึงว่าจะได้อะไร.. เมื่อไหร่.. อยู่กับปัจจุบันไปแล้วไม่ยากหรอกนะ จิตมันพัฒนาเป็นลำดับๆไป…


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๓ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๑


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๔
File: 510323.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๕๑ ถึงนาทีที่ ๒๕ วินาทีที่ ๑๘

ตัด/ถอดคลิปส์โดยคุณ ok2077
ตรวจทานโดยคุณ พัลวัน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การตรวจสอบตนเอง

mp 3 (for download) : วิธีดูว่ายังอยู่ในร่องในรอยไหม?

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม : กราบนมัสการครับหลวงพ่อ เออ…อยากจะให้หลวงพ่อช่วยตรวจให้หน่อยครับว่ายังอยู่ในร่องในรอยไหมครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : รักษาศีล หรือเปล่าล่ะ

โยม : อะไรนะครับหลวงพ่อ

หลวงพ่อปราโมทย์ : รักษาศีลได้ดีไหม?

โยม : ก็มีด่างพร้อยครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เออ นะ ก็อยู่ในร่องในรอยบ้าง จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัวไหม?

โยม : ก็เออไม่ค่อยอยู่ครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : หรือหลงบ่อย

โยม : หลงบ่อยครับ

หลวงพ่อปราโมทย์ : เออ หลงบ่อย ไม่เรียกอยู่ในร่องในรอยนะ ถ้าเรามีศีล มีสมาธิ เราเจริญปัญญา แยกธาตุแยกขันธ์อยู่ เรียกว่าอยู่ในร่องในรอย ถ้าศีลเราก็ขาด สมาธิเราก็เสียอะไรอย่างนี้ เราก็ภาวนาไม่ดีน่ะ น้อยไป

โยม : ยังน้อยไปใช่ไหมครับ แล้วหลวงพ่อ…

หลวงพ่อปราโมทย์ : ตั้งใจให้เด็ดเดี่ยวนะ อย่าตามโลกไป โลกไม่มีอะไร หลงโลกเยอะไป

โยม : ครับ ขอบพระคุณครับหลวงพ่อ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่ อยุธยาพาร์ค เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๕๖

File: 560425.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๕๑ วินาทีที่ ๓๖ ถึง นาทีที่ ๕๒ วินาทีที่ ๓๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การแผ่เมตตา การอุทิศส่วนกุศล

mp 3 (for download) : การแผ่เมตตา การอุทิศส่วนกุศล

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม: อยากให้หลวงพ่อแนะนำวิธีแผ่เมตตา กับอุทิศกุศล ที่ได้รับเต็มๆน่ะครับ

หลวงพ่อปราโมทย์: เมตตาอันหนึ่งนะ อุทิศส่วนกุศลอีกอันหนึ่งนะ คนละอันกัน แผ่เมตตาคือมีความรู้สึกเป็นมิตร ต่อคนอื่น สิ่งอื่น สัตว์อื่น อะไรพวกนี้ มีความรู้สึกที่เป็นมิตร อย่าไปมองเขาในแง่ร้าย มองเขาในแง่ที่ว่า เขาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์กัน ก็คิดว่าทุกคนเขามีความทุกข์อยู่แล้ว เราไม่เพิ่มทุกข์ให้คนอื่นล่ะ นึกในใจอย่างนี้เรื่อยๆ แผ่เมตตาก็จะไม่เป็นศัตรูกัน

ตอนที่หลวงพ่อบวชใหม่ๆนะ อยู่ที่เมืองกาญจน์ ที่นั่นมีงูเห่า งูเห่าตัวหนึ่งนะ สวย เชื่องมากเลย มาอยู่ที่นี่ไม่มีงูเห่าเชื่องให้ดู มีแต่ไก่ป่า ไก่เชื่องมากเลย ที่ร้องระงมนี่ไก่ป่าทั้งนั้นเลยนะ หูจะขาวๆ ไปดูสิ ไก่ป่าตัวจริงหูจะขาวๆ ถ้าไก่ตัวปลอมก็หูธรรมดา หูแดงๆ

งูที่ว่าดุๆนะ เชื่องนะ เรานั่งเก้าอี้อยู่อย่างนี้ มันเลื้อยมาหากินนะ มันมุดๆมุดๆ เราก็มอง อู๊ยสวยๆ เอ็งอย่ากัดข้าก็แล้วกัน สวย เชื่อง มีอยู่ทีนะ น้ำท่วม น้ำท่วมบ้าน งูมันตามน้ำมา เห็นมันจะเข้ามาในบ้าน เอาไม้ไปเขี่ยมัน มันฉก อยู่ในน้ำนะมันยังชูหัวได้ โอ้.. ไอ้ตัวนี้ดุ พอแผ่เมตตาให้มัน มันก็ซึมๆซึมๆ พอจะไปเขี่ยมัน มันก็ฉกขึ้นมาอีก ว้า..เสมอกัน สุดท้ายมันก็ไป

แผ่เมตตาคือมีความรู้สึกเป็นมิตร ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นศัตรูนะ แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลเนี่ย นึกถึงส่วนบุญที่เราทำ แล้วก็นึกถึงคนที่เราอยากจะให้เขาได้รับ แต่การแผ่ส่วนบุญต้องรู้ มันมีหลายแบบ แผ่ให้คนเป็นนั้นทำไม่ได้ คนเป็นเราต้องโทรศัพท์ไปบอกเขา ว่าเราได้ทำบุญนี้นะ ให้เขาอนุโมทนา อนุโมทนาหมายถึงเขาดีใจด้วยที่เราทำบุญ แต่ถ้าเขาไม่อนุโมทนาเรา เขาอิจฉาเรา ปากเขาบอกว่าอนุโมทนา ในใจคิดว่าโธ่เอ๋ยเอาหน้า อย่างนี้เขาไม่ได้บุญ

ส่วนการแผ่ส่วนบุญ พวกที่ได้รับเนี่ย พวกเปรต เปรตบางพวกนะ ได้รับ อย่างพวกเทวดาเราแผ่ไป ไม่ได้รับหรอก แต่เขารู้ เขาจะอนุโมทนา มนุษยแผ่ไปไม่รู้ ต้องโทรศัพท์ไปบอก

เราต้องมีบุญก่อนนะ ถึงจะไปแผ่ส่วนบุญ สมมุติว่าเราไม่มีบุญเลย เห็นคนเขาทำบุญ เราก็หาบุญด้วยการอนุโมทนา ไปปล่อยวัวปล่อยควายวันนี้ใช่มั้ย ไปปล่อยวัวปล่อยควาย เราไม่มีตังค์ไปปล่อยกับเขา โอ๊ย.. ดีจัง โมทนานะ ขอให้ได้บุญด้วย นี่เราได้แล้วนะ ไม่ต้องเสียตังค์สักบาทหนึ่ง บุญมี ๑๐ ข้อนะ บุญที่เสียสตางค์น่ะมีข้อเดียว อีก ๙ ข้อไม่เป็นเรื่องเสียสตางค์หรอก เห็นคนเขาทำดี ก็ดีใจกับเขา ก็ได้บุญแล้ว พอเรามีบุญแล้ว เราก็อุทิศส่วนบุญ บุญจากความดีใจที่ปล่อยวัวปล่อยควาย ขออุทิศให้ปู่ย่าตายายเรา เนี่ยเราก็ได้แล้ว เห็นมั้ย บุญมีตั้ง ๑๐ ข้อ อย่างเห็นคนลำบาก ไปช่วยเขาก็ได้บุญ เห็นคนทำงานที่เป็นประโยชน์ เช่นทำสาธารณกุศล ไปเก็บศพเก็บอะไรนะ เราไม่มีเงินเราก็ไปออกแรงช่วยเขาเก็บ ก็ได้บุญ บุญจากการช่วยเหลือเขา เวยยาวัจจมัย บุญมีตั้ง ๑๐ ข้อ เยอะแยะ บุญจากการมีศีล นี่ก็เป็นบุญ ไม่มีสตางค์หรอก ไปรักษาศีลมาได้ดีแล้ว นึกถึงศีลที่เรารักษาก็ได้บุญแล้ว เราก็อุทิศส่วนบุญได้ ต้องมีต้นทุนก่อนนะ จึงจะอุทิศ

ง่าย ไม่ยาก แต่อย่าไปปนกันนะ ผีมา จะมาขอส่วนบุญ เราก็เจริญเมตตา เป็นสุข เป็นสุขเถิด ไม่เอา.. จะเอาบุญ เออ..อย่างนี้นะ เรียกว่าผิดประเภท งูเห่ามาละ เลื้อยปราดๆมาละ จงได้รับส่วนบุญของเรา มันกัดเลย นี่เรียกว่าแผ่ผิดประเภท


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑o เดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๗ หลังฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๖
File: 570810B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๘ ถึงนาทีที่ ๓๐ วินาทีที่ ๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การภาวนาให้นับหนึ่งทุกวัน

mp 3 (for download) : การภาวนาให้นับหนึ่งทุกวัน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม : กราบนมัสการหลวงพ่อค่ะ มีคำถามอยากจะถามว่า จิตที่เคยแยกเวทนาทางกายออกจากกาย และจิตที่เคยเห็นความทุกข์ทางใจเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ตรงนั้นนี่ จิตดวงนั้นจะสามารถเสื่อมจนดูอะไรไม่ได้เลย

หลวงพ่อปราโมทย์ : เสื่อมได้ เสื่อมได้ ยังเป็นโลกียะอยู่

โยม : คือ อันที่เคยเห็น มันเป็นอดีตเมื่อนานมาแล้วค่ะ ตอนนี้มันเสื่อมจน พอฟังซีดีหลวงพ่อก็เลยเข้าใจว่าต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่

หลวงพ่อปราโมทย์ : นับหนึ่งทุกวันนะ การภาวนา เราไม่ได้ภาวนาแบบขึ้นบันได ขึ้นไปแล้วอีกวันหนึ่งขึ้นไปขั้นต่อไป นับหนึ่งใหม่ถึงรู้อยู่ในปัจจุบันนี้แหละ เป็นขณะๆไป เจริญก็รู้ เสื่อมก็รู้ ดีใจเสียใจรู้อย่างเดียวเลย แล้วมันจะไม่มีคำว่าเสื่อมหรอก มันมีแต่จะเห็นว่า สิ่งทั้งหลายเกิดแล้วก็ดับเท่าๆกันหมดเลย อย่างความรู้สึกเจริญแล้วเสื่อมเนี่ย เราเปรียบเทียบเอา เป็นการคิดเปรียบเทียบของเราเอง ทั้งๆที่ในความเป็นจริง ช่วงก่อนอาจจิตตั้งมั่น แล้วช่วงนี้จิตฟุ้งซ่าน ถ้าเราเข้าใจก็จะเห็นเลยว่า จิตตั้งมั่นก็ชั่วคราว จิตฟุ้งซ่านก็ของชั่วคราว เท่ากัน เท่าเทียม


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๙ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๒


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๓
File: 521129B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๔๕ วินาทีที่ ๔ ถึงนาทีที่ ๔๖ วินาทีที่ ๒๓

ตัดคลิปส์โดยคุณ ok2077
ถอดคลิปส์และตรวจทานโดยคุณ พัลวัน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

โสดาปัตติมรรค เป็นอนันตริยกรรมฝ่ายดี

mp 3 (for download) : การได้โสดาบันเป็นอนันตริยกรรมฝ่ายดี

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : เจริญสติไว้นะ มีสติไว้ ความรู้สึกอะไรเกิดที่ใจคอยรู้ ความรู้สึกอะไรเกิดที่ใจคอยรู้ รู้บ่อยๆ รู้จนมันเคยชินที่จะรู้ ไม่ได้เจตนาจะรู้ ก็รู้ขึ้นได้เอง พอเราภาวนาถึงจุดที่ไม่เจตนาจะรู้ก็รู้ได้เอง ต่อไปเวลานิมิตไม่ดีเกิดตอนจะตายนะ สติเกิดเองเลย ถ้านิมิตดีเกิดนะ จิตใจก็ร่าเริงไป นิมิตไม่ดีเกิด จิตใจตกใจขึ้นมา จิตใจกลัวขึ้นมา มันเห็นปั๊บ ขาดสะบั้นเลยนะ

เป็นวิธีเอาตัวรอดของพวกเรานะ ถ้าหลายๆคนก็ยังทำบาปอยู่ ต่อไปก็ลดๆ นะ พยายามถือศีลห้าไว้ ใจมันจะรวมง่าย มีสมาธิเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ถือศีลห้าไว้ แล้วก็ค่อยๆ ฝึกรู้ทันใจของตัวเองบ่อยๆ ใจของเราเปลี่ยนแปลงทั้งวัน เดี๋ยวก็สุข เดี๋ยวก็ทุกข์ เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ชั่ว หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คอยรู้อยู่เท่านี้แหละพอแล้ว เหลือเฟือแล้วนะ งั้นใจจะสุขก็รู้ ก็จะเห็นเลยว่า ความสุขมันมาแล้วมันก็ไป ใจจะทุกข์ก็รู้ ก็จะเห็นว่า ความทุกข์มาแล้วก็ไป ใจเป็นกุศลก็รู้ ใจโลภ โกรธ หลง ก็รู้ ก็เห็นอีกว่าทุกอย่างมาแล้วก็ไป เนี่ยมันเห็นซ้ำ ๆ ๆ นะ

บางคนมีบุญวาสนามาก ไม่ต้องเอาไปใช้ตอนตาย ตอนที่เราคอยรู้กายรู้ใจอยู่อย่างนี้ เราเห็นทุกอย่างเกิดแล้วก็ดับไป ดับไป นะ สุข-ทุกข์ ดี-ชั่ว มาแล้วก็ไปหมด ใจมันเกิดปัญญาขึ้นมาอย่างแก่กล้า มันเห็นความจริงว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดดับไปเป็นธรรมดา ใจสรุปได้ ไม่ใช่เราสรุป ไม่ใช่ใช้สมองคิดเอง เนี่ย ใจมันเข้าถึงความจริง ใจมันยอมรับความจริง ตรงนี้นะ เป็นพระโสดาบัน

ถ้าได้โสดาบันเนี่ย ได้อนันตริยกรรมฝ่ายดีละ จะไม่ไปอบาย สบายหน่อย สบายใจได้หน่อย แต่ถามว่า แล้วกรรมฝ่ายชั่วที่เคยทำมาก่อนเป็นพระโสดาบัน มันจะให้ผลมั๊ย มันจะไปให้ผลหลังจากการเกิดแล้ว หมายถึงว่า มันอาจจะให้ผลในชีวิตนี้ก็ได้ ตอนนี้ก็เป็นชีวิตหลังที่เกิดมาแล้ว มันจะไม่ให้ผลในการพาไปเกิด เพราะอนันตริยกรรมการบรรลุโสดาฯเนี่ย เป็นอนันตริยกรรมฝ่ายดี เป็นตัวพาเราไปเกิด ไปเกิดเป็นมนุษย์ก็ได้ เป็นเทพก็ได้ เป็นพรหมก็ได้ แล้วแต่คุณภาพของจิตใจ ถ้าเราไปมีศีลมีธรรมอะไรอยู่อย่างนี้พอดีๆ อย่างนี้ ก็เป็นมนุษย์ไป หรือถ้าใจเป็นบุญเป็นกุศลมาก ร่าเริงในธรรมมาก ก็เป็นเทพไป ใจเราสงบมาก ก็ไปเป็นพรหมไปนะ ใจมันก็ไปตามกรรมพาไป ก็จะไม่ไปอบาย ก็ปลอดภัยหน่อย

เพราะฉะนั้นชาตินี้นะเพื่อความปลอดภัย ไม่ต้องซื้อประกันชีวิต พยายามเจริญสติให้มาก ถ้าใครขายประกันก็ไม่ว่านะ ใครจะซื้อก็ไม่ว่าหรอก หลวงพ่อพูดให้ฟัง เปรียบเทียบให้ฟัง ประกันชีวิตมันก็ตายอยู่ดีแหละ ก็ไม่แน่นอน ไม่รู้จะได้นานแค่ไหน ประกันไม่ได้จริงหรอก มันประกันว่าตายแล้วได้เงินต่างหาก ไม่ได้ประกันชีวิตหรอก ชีวิตเราไม่มีใครค้ำประกันได้ ไม่เหมือนได้โสดาบันนะ เรามีหลักประกันแน่นอนแล้ว

ถ้าก่อนเป็นโสดาบัน เจอใครแล้วด่าเขาไปเรื่อยๆ หรือชกเขาไปเรื่อยๆ ตีเขาไปเรื่อยๆ เคยลักเคยขโมย ตอนไปเกิด(หลังจากได้โสดาฯ – ผู้ถอด) ไปเกิดเป็นมนุษย์นะ เป็นมนุษย์แต่โดนเขาตีโดนเขาด่า โดนเขาขโมยอะไรอย่างนี้ ความชั่วจะตามไปให้ผลหลังการเกิดแล้ว ส่วนอนันตริยกรรมฝ่ายดี คือการเป็นโสดาฯ ให้ผลพาไปเกิดที่ดี ตัวนี้ให้ผลก่อน เพราะฉะนั้นพยายามพยายามพากเพียรนะ พยายามมีสติ รักษาศีล ๕ เอาไว้ให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ ฆราวาสรักษาศีล ๕ ยาก แค่ ๕ ข้อก็ยากแล้วฆราวาส ต้องพยายาม ต้องอดทนเอา


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๒ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๗


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๗
File: 571012.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๐ วินาทีที่ ๕๓ ถึงนาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๕๘

ตัด/ถอดคลิปส์โดยคุณ ok2077
ตรวจทานโดยคุณ พัลวัน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เป็นนักปฏิบัติ ต้องภาวนาให้กลมกลืนกับการใช้ชีวิตทางโลก ไม่ต้องโอ้อวดใคร

mp 3 (for download) : เป็นนักปฏิบัติ ต้องภาวนาให้กลมกลืนกับการใช้ชีวิตทางโลก ไม่ต้องโอ้อวดใคร

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : เราภาวนา มานานจริงจังมากเลยนะ แต่การภาวนาของหลวงพ่อนะ คนอื่นไม่ค่อยรู้หรอก เขาดูไม่ออก ภาวนาเป็นเรื่องงานทางใจ เราทำกรรมฐานอยู่ที่ใจเราเนี่ย เรากลมกลืนอยู่กับโลก ชาวโลกไม่รู้เลย เราไม่ต้องวางฟอร์ม อวดว่าฉันเป็นนักปฏิบัติอะไรอย่างนี้นะ ถ้าอวดนะ คนมันชอบมาว่านะ ถ้าเราเดินจงกรมอะไรอย่างนี้มันก็จะว่า เนี่ยเพี้ยนแล้วนะ ซีเรียสเกินไป ชีวิตต้องผ่อนคลาย พวกไม่เข้าใจมันมี เราก็ไม่ต้องไปโชว์เขา

หลวงพ่ออยู่ที่ทำงานนะ กลางวันกินข้าว เราก็ทำเป็นเดินไปวัดใกล้ๆที่ทำงาน วัดโสมฯบ้าง วัดเบญจฯบ้าง อยู่ทำเนียบนะเมื่อก่อน คนถามว่าเดินไปทำอะไร ก็บอกว่าเดินไปไหว้พระหน่อยหนึ่ง ย่อยอาหาร จริงแล้วเดินจงกรม เดินจงกรมของหลวงพ่อก็ไม่ได้มาเดินอย่างนี้นะ เดี๋ยวรถทับตาย จะข้ามถนน ฟุ่บ ข้ามได้ เดินด้วยความเร็วปกติเลย เคลื่อนไหวกลมกลืนอยู่ในชีวิตธรรมดานี่เอง จะขึ้นรถเมล์ จะรอรถเมล์ จะอะไร ปฏิบัติได้หมดเลย ไปกินข้าวก็ปฏิบัติ หน้าร้อน อาบน้ำ หลวงพ่อคนโบราณนะ อาบน้ำในตุ่ม เห็นตุ่มน้ำก็ดีใจแล้ว มีความสุขแล้ว หน้าหนาวเห็นแล้วกลัว แค่คิดถึงก็กลัวแล้ว เนี่ยก็รู้ทัน รู้ทันความรู้สึกของเราไปเรื่อยๆ

ภาวนาโดยที่ไม่มีใครเขารู้ว่าเราภาวนา เราไม่ต้องไปโอ้อวดใคร เนี่ยบางทีเขาแซวนะ อย่างพวกเรา บางทีก็โมโหใช่มั้ย เคยมั้ย โมโหขึ้นมา คนเขาก็มาว่า เธอเป็นนักปฏิบัติยังไงยังโมโหอยู่ ฉันไม่ใช่พระอนาคาฯนี่ บอกเขาไปเนาะ เธออย่างโน้น เธออย่างนี้ ทำไมเธอไม่ทำอย่างนี้ มันกำหนดกฎเกณฑ์ให้พวกเราทำเยอะเลยเนอะ ถ้าเขารู้ว่าเราเป็นนักปฏิบัตินะ เขาจะคาดหวังสูง เรียกร้องสูง


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอังคารที่ ๒๓ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๑
File: 560723A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๕ วินาทีที่ ๓๔ ถึง นาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๕๙

ตัดคลิปส์โดยคุณ ok2077
ถอดคลิปส์และตรวจทานโดยคุณ พัลวัน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

กฎแห่งกรรมยุติธรรมที่สุด

mp 3 (for download) : กฎแห่งกรรมยุติธรรมที่สุด

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : เมื่ออาทิตย์ก่อนก็ไปเทศน์ มีเด็กคนหนึ่ง นักศึกษาแพทย์ ปี ๕ ดูสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างเลย พ่อแม่ อะไรต่ออะไร ฐานะความเป็นอยู่นะ รูปร่างหน้าตานะ ดีหมดเลย ไม่สบายอยู่อาทิตย์สองอาทิตย์นะ เกิดเป็นมะเร็งนะ เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแล้วลามเร็วมากเลย ลามแป๊บเดียวลามไปทั่วแล้วนะ แต่เด็กคนนี้ไม่ทุกข์นะ แม่ทุกข์นะ เด็กไม่ทุกข์นะ เด็กคนนี้เขาภาวนา ภาวนาได้ดีเชียวล่ะ

เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรานะ ถ้าเรายอมรับความจริงได้ มันต้องเกิดน่ะ สิ่งทั้งหลายที่เราเจอนั้นยุติธรรมที่สุดแล้ว ในกฎของกรรม สิ่งทั้งหลายที่เราเจอไม่มีลูกฟลุ๊คหรอก เราเชื่อมั่นในปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าว่าทุกสิ่งทั้งหลายเป็นด้วยกรรมนะ กรรมอดีต(หมายถึงกรรมที่กระทำในชาติก่อนๆ – ผู้ถอด)ก็มีนะ กรรมปัจจุบัน(หมายถึงกรรมที่กระทำในชาติปัจจุบัน-ผู้ถอด)ก็มีนะ

ยกตัวอย่างบางคนจะมาโทษแต่กรรมในอดีตอย่างเดียวนั้นโง่ละ เป็นมิจฉาทิฎฐิ ยกตัวอย่างเห็นหมาบ้าวิ่งมาทางเรานะ ถ้าไม่มีเวรกรรมมันคงไม่กัดหรอก เราน่ะมีกรรมกำลังโง่อยู่ ทำกรรมปัจจุบันนี้แหละโง่ ไปยืนขวางหมาบ้านะ

เพราะฉะนั้นมีสติมีปัญญานะ ถ้าเรารู้ความจริงว่าทุกอย่างมันเป็นผลจากสิ่งที่เราทำขึ้นมา ไม่ใช่คนอื่นทำหรอก เราก็ไม่เดือดร้อนนะ ไม่เคียดแค้นใคร แล้วก็ค่อยๆตั้งหลักขึ้นมาแก้ปัญหาชีวิตไปด้วยสติด้วยปัญญา


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๙ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๒


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๓
File: 521129A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๕ วินาทีที่ ๒๑ ถึงนาทีที่ ๖ วินาทีที่ ๕๘

ตัดคลิปส์โดยคุณ ok2077
ถอดคลิปส์และตรวจทานโดยคุณ พัลวัน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

จริตสำหรับการทำสมถะและวิปัสสนา

mp 3 (for download) : จริตในการทำสมถะและวิปัสสนา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์: กรรมฐานในสติปัฏฐาน ๔ แยก กาย เวทนา จิต ธรรม กายและเวทนา นี่กลุ่มหนึ่ง จิตและธรรม เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง จริตนิสัยของคนเราในเวลาทำสมถะกับวิปัสสนา การแยกจริตจะไม่เหมือนกัน

ถ้าเวลาเราจะทำสมถะ เราดูจริตมี ๖ อย่าง ๑) ราคจริต ๒) โทสจริต ๓) โมหจริต ๔) พุทธิจริต ๕) วิตกจริต ๖ สัทธาจริต

อย่างพวกศรัทธามากๆ เนี่ย ก็คิดถึงพระพุทธเจ้า คิดถึงอะไรอย่างนี้นะ ใจก็สบาย สงบ พวกฟุ้งมากๆ ก็รู้ลมหายใจไป อะไรอย่างนี้นะ พวกขี้โมโห ก็เจริญเมตตา พวกบ้ากามก็พิจารณาอสุภะอะไรอย่างนี้ พิจารณาความตายอะไรไป แล้วใจก็สงบ

แต่อารมณ์จริตนิสัย จริตที่ใช้ทำวิปัสสนานะ เราแยก ๒ ส่วนเท่านั้นเอง เรียกว่า

๑) ตัณหาจริต พวกรักสุข รักสบาย รักสวย รักงาม

๒) ทิฏฐิจริต พวกเจ้าความคิด เจ้าความเห็น

- พวกตัณหาจริต มีกรรมฐานที่เหมาะคือ การดูกาย หรือ เวทนา

- พวกทิฏฐิจริต เจ้าความคิดเจ้าความเห็น มีกรรมฐานที่เหมาะคือ ดูจิต หรือ ธรรม

ทำไมแต่ละจริตต้องมี ๒ อย่าง

-พวกรักสุข รักสบาย รักสวย รักงาม ดูกาย หรือ เวทนา พวกที่ปัญญาแก่กล้าแล้วจะไปดูที่เวทนา พวกที่ยังไม่แก่กล้าดูกาย กายดูง่ายกว่าเวทนา

-พวกเจ้าความคิด เจ้าความเห็นนี่ ดูจิตเอา เห็นจิตเป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง นี่ดูง่าย ถ้าปัญญามันแก่กล้าขึ้นไปก็ไปดูธัมมา เจริญธัมมานุปัสสนานะ จะเห็นความละเอียดลึกซึ้งประณีตของสภาวธรรมแต่ละอันๆ อย่างจิตตานุปัสสนาเห็น จิตมีโทสะ รู้ว่ามีโทสะ ดูแค่นี้เอง ถ้าขึ้นไปถึงธัมมานุปัสสนา มันจะประณีตขึ้นไปอีก อย่างจิตมีปฏิฆะ ความไม่พอใจเกิดขึ้น มีพยาบาท พยาปาทะ ไม่พอใจ คิดถึง ตรึกถึงอารมณ์ที่ไม่พอใจเนี่ยเห็นละ ไม่ต้องรอให้โกรธ มันประณีตกว่ากัน เรารู้ด้วยว่าทำไมถึงเกิดจิตที่มีความพยาบาทขึ้น รู้ด้วยว่าทำยังไงความพยาบาทจะไม่เกิดขึ้น เห็นมั้ยจะรู้เหตุ รู้ผล รู้ลึกซึ้งลงไปอีก หรือดูโพชฌงค์ จะเห็นเลยคุณธรรมมันค่อยๆ อัพเกรดขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ดูยากกว่ากัน

พวกเราสันนิษฐานไว้ก่อนก็แล้วกันนะเพื่อความปลอดภัยว่าพวกเราอินทรีย์อ่อน อินทรีย์แข็งคงไปเรียนจากพระพุทธเจ้าแล้วคงบรรลุกันไปหมดแล้วล่ะ สมัยนั้นพวกเราบางคนก็อาจจะเคยเจอพระพุทธเจ้ามาแล้วนะ แต่เราเป็นลูกศิษย์เทวทัตนะก็เลยไม่ได้ธรรมะอะไร แล้วสำคัญผิดอะไรอย่างนี้ หรือตอนเราไปเจอพระพุทธเจ้าแต่ตอนนั้นเราเป็นเดียรถีย์ เราไปแอนตี้พระพุทธเจ้าซะด้วยซ้ำไป งั้นบารมีพวกเรานี่ ตกมาถึงรุ่นนี้ ถือว่าบารมีอ่อนก็แล้วกันนะ

งั้นคนไหนรักสุข รักสบาย รักสวย รักงาม ให้ดูกายไว้ เพราะกายนี่จะสอนให้เห็นว่าไม่สุข ไม่สบาย ไม่สวย ไม่งาม

ถ้าคนไหนเจ้าความคิดเจ้าความเห็นให้ดูจิต จิตเดี๋ยวก็ดี จิตเดี๋ยวก็ร้าย คุ้มดีคุ้มร้ายทั้งวัน เดี๋ยวก็โลภ เดี๋ยวก็หายโลภ เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวหายโกรธ เดี๋ยวหลง เดี๋ยวหายหลง

งั้นเราดูจริตนิสัยของตัวเอง


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๔ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๗


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๖
File: 570914A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๘ วินาทีที่ ๓๔ ถึงนาทีที่ ๒๒ วินาทีที่ ๑๕

ตัด/ถอดคลิปส์โดยคุณ ok2077
ตรวจทานโดยคุณ พัลวัน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

วิธีฝึกให้จิตตั้งมั่น

mp3 (for download):วิธีฝึกให้จิตตั้งมั่น

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : วิธีที่เราจะฝึก(ให้จิตตั้งมั่น) เราก็ใช้สตินี่แหล่ะ สติเป็นตัวที่คอยรู้ทัน อย่างตอนที่เราฝึกให้มีศีล เราใช้สติรู้ทันจิตที่มีกิเลสนะ กิเลสเกิดกับจิตรู้ทัน กิเลสครอบงำจิตไม่ได้ ศีลก็เกิด ตรงนี้เราก็เหมือนกัน เราก็อาศัยสติรู้ทันจิตนะ จิตไหลไปคิด รู้ทัน จิตไหลไปคิดรู้ทัน หรือจิตไหนไปอยู่ที่เท้า รู้ทัน จิตไหลไปอยู่ที่ท้องรู้ทัน จิตของเรานะ เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลานะ เดี๋ยวเคลื่อนไปทางตา เคลื่อนไปทางหูนะ เคลื่อนไปทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย เคลื่อนไปทางใจ ส่วนใหญ่เคลื่อนไปคิด ถ้าเป็นนักปฏิบัติจะเคลื่อนไปเพ่งนะ เคลื่อนนะเคลื่อนไป ๒ แบบ ถ้าไม่เคลื่อนไปคิด ก็เคลื่อนไปเพ่งนิ่ง ๆอยู่ที่เดียวนะ

เบื้องต้นให้เราคอยรู้ทันจิตที่เคลื่อนไปเคลื่อนมา ทำกรรมฐานอย่างหนึ่งขึ้นมา ต้องทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่งขึ้นมา จะดูท้องพองยุบก็ได้ จะพุทโธก็ได้ จะหายใจก็ได้นะ แล้วคอยรู้ทันจิตไว้ เช่น เราพุทโธ พุทโธ ไป จิตเราไหลไปคิด ลืมพุทโธแล้วหนีไปคิดเรื่องอื่นแล้ว เรารู้ทันว่าจิตหนีไปคิดแล้ว เรารู้ลมหายใจนะ หายใจเข้า หายใจออก จิตหนีไปคิด เรารู้ทันว่า โอ้ ลืมลมหายใจแล้วหนีไปคิดแล้วนะ

ตรงที่เรารู้ทันว่าจิตไหล หนีไปคิด จิตจะตั้งมั่นขึ้นชั่วขณะ ชั่วขณะเท่านั้นเอง เรียกว่า “ขณิกสมาธิ”นะ สมาธิจะเกิดขึ้นเป็นขณะ ๆ แต่ตัวนี้สำคัญมาก อย่าดูถูกว่าหนึ่งขณะจิตไม่สำคัญนะ เวลาที่เกิดอริยมรรคเนี่ย เกิดหนึ่งขณะจิตเท่านั้นนะ ไม่มีสองขณะจิตเลย ในขณะที่อริยมรรคเกิดขึ้น เกิดชั่วแว๊บเดียวเท่านั้นเอง งั้นหนึ่งขณะเนี่ยเราอย่าดูถูก เราต้องมาฝึกจิตให้ตั้งมั่นเป็นขณะ ๆ ขึ้นมาไม่ใช่ตั้งแล้วสงบ ซึม ๆ อยู่เฉย ๆนะ ตั้งซึมมา ๓ วัน ๓ คืน ก็ซึมอยู่อย่างนั้นแหละ อย่างนั้นจะไม่ใช่สมาธิที่เอาไว้เดินปัญญานะ สมาธิที่เราจะใช้เดินปัญญาเนี่ย สมาธิธรรมดานี่เองนะ ใจเราไหลไป เรารู้ทัน ใจเราไหลไป เรารู้ทัน เบื้องต้นทำกรรมฐานอย่างหนึ่งก่อน ช่วยให้เรารู้ทันจิตที่ไหลไปได้ง่ายขึ้น

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่ อยุธยาพาร์ค เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๕๖

File: 560425.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๘ วินาทีที่ ๑๕ ถึง นาทีที่ ๒๐ วินาทีที่ ๒๓

ตัด/ถอดคลิปส์โดยคุณ ok2077
ตรวจทานโดยคุณ พัลวัน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 1 of 41234